รมว.กลาโหม ควง ผบ.ทบ.ลงใต้ปัดขัดรัฐ

พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลาและปัตตานี โดยตามกำหนดการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก เดินทางออกจากกรมการขนส่งทหารบก ไปยังท่าอากาศยานกองบินที่ 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา โดยมีพิธีตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้น จึงจะเดินทางไปยังค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุม ผบ.หน่วยถึงระดับ ฉก. และฟังบรรยายสรุปจาก พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาคที่ 4
ขณะที่ทางด้าน พลเอกพิรุณ แผ้วพลสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะผู้ช่วยเสธฝ่ายยุทธการ เดินทางไป กองพลทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจเยี่ยมการก่อสร้างกองพลด้วย
ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีภาพเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าบุกทำลายกระท่อมของชนเผ่ากะเหรี่ยง บริเวณเขื่อนแก่งกระจาน โดยยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าว ไม่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ที่ผ่านมา แต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องติดตามว่า ภาพที่ออกมานั้น มีที่มาอย่างไร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นกรอบงานของกรมอุทยานป่าไม้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเพียงผู้สนับสนุน โดยเชื่อว่า ไม่มีใครอยากทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว
ส่วนนโยบายตั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเขตปกครองท้องถิ่นพิเศษ ตามนโยบายของรัฐบาลชุดนี้นั้น ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า การทำงานทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาล ที่เป็นฝ่ายบริหาร โดยยืนยันว่า ทหารไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งในการทำงานไม่ควรนำความขัดแย้งมาเป็นจุดเริ่มต้น
พร้อมทั้งกล่าวว่าพลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และตนเอง ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบแนวทางการทำงาน โดย พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่า การดำเนินการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบภาคใต้ เป็นไปตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งนี้ ตนเองก็พร้อมน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเปิดทุกมุมมอง ในการแก้ปัญหา โดยงานต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และปัญหาทั้งหมด แก้โดยทุกรัฐบาล ซึ่งวิธีหลักๆ ไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีความสุขมากขึ้น กับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็ยังคงมีเหตุรุนแรงอยู่ เพราะฝ่ายตรงข้ามพยายามยกระดับปัญหาให้เข้าสู่ระดับสากล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ และประชาชนก็ต้องระวังมากขึ้น
ขณะที่ทางด้าน พลเอกพิรุณ แผ้วพลสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะผู้ช่วยเสธฝ่ายยุทธการ เดินทางไป กองพลทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจเยี่ยมการก่อสร้างกองพลด้วย
ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีภาพเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าบุกทำลายกระท่อมของชนเผ่ากะเหรี่ยง บริเวณเขื่อนแก่งกระจาน โดยยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าว ไม่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ที่ผ่านมา แต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องติดตามว่า ภาพที่ออกมานั้น มีที่มาอย่างไร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นกรอบงานของกรมอุทยานป่าไม้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเพียงผู้สนับสนุน โดยเชื่อว่า ไม่มีใครอยากทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว
ส่วนนโยบายตั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเขตปกครองท้องถิ่นพิเศษ ตามนโยบายของรัฐบาลชุดนี้นั้น ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า การทำงานทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาล ที่เป็นฝ่ายบริหาร โดยยืนยันว่า ทหารไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งในการทำงานไม่ควรนำความขัดแย้งมาเป็นจุดเริ่มต้น
พร้อมทั้งกล่าวว่าพลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และตนเอง ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบแนวทางการทำงาน โดย พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่า การดำเนินการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบภาคใต้ เป็นไปตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งนี้ ตนเองก็พร้อมน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเปิดทุกมุมมอง ในการแก้ปัญหา โดยงานต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และปัญหาทั้งหมด แก้โดยทุกรัฐบาล ซึ่งวิธีหลักๆ ไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีความสุขมากขึ้น กับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็ยังคงมีเหตุรุนแรงอยู่ เพราะฝ่ายตรงข้ามพยายามยกระดับปัญหาให้เข้าสู่ระดับสากล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ และประชาชนก็ต้องระวังมากขึ้น