สมศักดิ์ ยัน แถลงนโยบายรบ.ทันกรอบเวลา

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวหลังการประชุมตัวแทนพรรคการเมือง ว่าการมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องเวลาการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ทั้ง พรรคเพื่อไทย จะเสนอให้เริ่มประชุมเวลา 13.30 น. แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้เริ่มประชุม ในเวลา 10.30 น. นั้น เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย โดยจะให้มีการตกลงเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมสภาเอง พร้อมยืนยันว่า จะเริ่มประชุม หรือ เริ่มทำงานเวลาใดก็ต้องทำงานให้ครบ 8 ช.ม. ส่วนเรื่องที่ รัฐบาลกำหนดให้แถลงนโยบายในวันที่ 24 สิงหาคม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการส่งเรื่องมายังตน พร้อมยืนยันว่า การแถลงนโยบายต้องให้ทันกรอบเวลา ภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 25 สิงหาคม นี้
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีการใช้ข้อบังคับการประชุมสภาเดิมว่า ถ้าไม่มีข้อขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ก็จะใช้ข้อบังคับเดิมในการประชุมสภาต่อไป
ทั้งนี้กล่าวถึง กรณีที่ พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เป็นภารกิจเร่งด่วนในนโยบายรัฐบาลว่า หาก พรรคเพื่อไทย ต้องการเสนอแก้ไขต้องส่งเรื่องเข้ามาให้ สภาผู้แทนสภาราษฎร พิจารณา ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 นั้น เป็นการเปิดช่องให้มีการการตั้ง สสร. ที่มีทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้เสียเวลาในการแก้ไขถึง 2 รอบ ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้เสนอแนวทางด่วนพิเศษ ที่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ โดยไม่ต้องแก้มาตรา 291 คือ การคงหมวด 1 และหมวด 2 ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ไว้ แล้วนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 หมวดที่เหลือมาสวมทับ ซึ่งเป็นการเลี่ยงข้อกฎหมายและเป็นการแก้ไขทีเดียว ซึ่งใช้เวลาแค่ 3 เดือน แต่หากต้องการทำประชามติต้องเพิ่มเวลาอีกถึง 12 เดือน
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีการใช้ข้อบังคับการประชุมสภาเดิมว่า ถ้าไม่มีข้อขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ก็จะใช้ข้อบังคับเดิมในการประชุมสภาต่อไป
ทั้งนี้กล่าวถึง กรณีที่ พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เป็นภารกิจเร่งด่วนในนโยบายรัฐบาลว่า หาก พรรคเพื่อไทย ต้องการเสนอแก้ไขต้องส่งเรื่องเข้ามาให้ สภาผู้แทนสภาราษฎร พิจารณา ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 นั้น เป็นการเปิดช่องให้มีการการตั้ง สสร. ที่มีทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้เสียเวลาในการแก้ไขถึง 2 รอบ ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้เสนอแนวทางด่วนพิเศษ ที่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ โดยไม่ต้องแก้มาตรา 291 คือ การคงหมวด 1 และหมวด 2 ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ไว้ แล้วนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 หมวดที่เหลือมาสวมทับ ซึ่งเป็นการเลี่ยงข้อกฎหมายและเป็นการแก้ไขทีเดียว ซึ่งใช้เวลาแค่ 3 เดือน แต่หากต้องการทำประชามติต้องเพิ่มเวลาอีกถึง 12 เดือน