นักวิชาการชี้วิกฤตศก.USAไม่กระทบเอกชน

ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ผู้อำนวยการศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยถึงสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ ว่า หลังขยายเพดานหนี้ประมาณ 2.4 ล้าน
ล้านเหรียญ ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องลดรายจ่ายลง ผลที่ตามมาคือ 1.ผ่อนคลายชำระหนี้ได้ แต่ก็ยังวิกฤติเหมือนเดิมคือประเทศมีหนี้สินล้นพ้นตัว 2. ถูกปรับเครดิตลดลงจากที่เคยมี AAA ก็ถูกลดเหลือ AA+ ทำให้นักลงทุนและผู้คนตกใจเพราะฐานะการเงินไม่มั่นคง 3. การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่ปลอดภัยเท่าเดิม ทำให้ต้องขอดอกเบี้ยชดเชยกลายเป็นภาระรัฐบาล 4.ด้านเงินทุนก็จะเคลื่อนย้ายออกไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยขึ้น ซึ่งตอนนี้เหลือทองคำและสุกลเงินอื่น ที่ยังแข็งแรงอยู่ ทั้งนี้สรุปว่า ยังมองไม่เห็นทางฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐ ว่าจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ แต่ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีปัญหาให้เห็นอีกต่อไปอย่างน้อย 2-3 ปีขึ้นไป และสุดท้ายสหรัฐก็จะสูญเสียความเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจ

ส่วนธุรกิจไทย ที่ทำการค้ากับสหรัฐ มองว่า ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบน้อย เพราะว่า ภาคเอกชนได้มีการปรับตัวในการหาตลาดส่งออกสินค้าไปประเทศอื่น แทนไปสหรัฐและยุโรป และช่วง 5 ปีนับจากนี้ไป จะได้เห็นผู้ประกอบการไทย อุตสาหกรรมไทย ขยายตลาดไปที่เอเชีย อาเซียน ฉะนั้นผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสหรัฐก็เบาบางลงแล้ว การค้าไทย-สหรัฐลดลง และไปเพิ่มในเอเชียแทน ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงได้ เพราะเอเชียขณะนี้เศรษฐกิจก็กำลังขยายตัวดี เช่น จีน ตอนนี้ขยายตัวที่ประมาณ 10% อินเดีย 8-9% อาเซียน 5-6%