ตัวแทนช่อง3 ร้องถูก 2 พนักงานบริษัทเอกชน แอบอ้างเป็นนักข่าวของสถานี เรี่ยไรเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมถึงในกรมชลประทาน ลั่นทำให้เสียชื่อเสียง
(5 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายนภาพล ถนอมรัตน์ หัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตู้ปณ.ข่าว3 พร้อมด้วย นางนพขวัญ นาคนวล ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เดินทางเข้าแจ้งความที่สน.สามเสน เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หลังมีคนแอบอ้างชื่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ไปเรี่ยไรเงินอ้างช่วยน้ำท่วม ที่กรมชลประทาน
นายนภาพล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายวสุ เจียมกิตติธิน อายุ 22 ปี และ น.ส.ธัญวรรณ บริสุทธิ์ อายุ 21 ปี ซื่งเป็นพนักงานขายอิสระของบริษัทซันไชน์ ได้เดินทางเข้าไปขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่กรมชลประทาน พร้อมกับขอสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของกรมชลประทาน โดยบอกว่าเป็นฝ่ายข่าวช่อง3 และขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือน้ำท่วมไปพร้อมๆกับการขายสินค้า โดยนำแผ่นพับของบริษัทที่มีภาพถ่ายการเข้าไปบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมกับนายสรยุทธ สุทัศนจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ให้ดูเป็นตัวอย่าง ทางผู้บริหารของกรมชลประทานจึงให้เงินไปจำนวนหนึ่ง
นายนภาพล กล่าวอีกว่า จากนั้นทั้งสองคนยังเดินเรี่ยไรขอรับบริจาคเงินกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆในกรมชลประทานอีก โดยบางคนให้ไป 200 บ้าง 300 บ้าง กระทั่งเจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย จึงโทรศัพท์มาสอบถามกับทางช่อง 3 เมื่อพบว่าเป็นการแอบอ้าง ทางเจ้าหน้าที่ในกรมชลฯ จึงแจ้งให้ทั้งสองคนทราบว่าจะนำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดี จึงทำให้ทั้งสองคนรีบคืนเงินให้ส่วนหนึ่ง เป็นจำนวน 2,400 บาท ก่อนจะรีบออกไปจากกรมชลฯ
นายนภาพล กล่าวด้วยว่า ที่มาแจ้งความในวันนี้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของช่อง3 เพราะการกระทำดังกล่าวของคนร้ายทั้งสองทำให้เสื่อมเสีย เพราะเอาชื่อไปแอบอ้าง ขณะเดียวกันก็เป็นการเตือนภัย เพื่อไม่ให้มีใครหลงเชื่อ เนื่องจากคนร้ายทั้งสองใช้สื่ออย่างช่อง3 แอบอ้างหากินเกรงว่าจะใช้สื่ออื่นๆแอบอ้างหากินลักษณะนี้อีก เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทซันไชน์ได้รับความเสื่อมเสียเช่นกัน จึงได้ลงโทษปลดพนักงานทั้งสองออกจากบริษัทแล้ว พร้อมทำหนังสือขอโทษกับทางช่อง3 เรียบร้อยแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นคดีฉ้อโกง ซึ่งทางช่อง3 เป็นผู้ถูกแอบอ้างไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่ถูกทำให้เสียชื่อเสียง จึงทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น หากจะให้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองที่แอบอ้างต้องให้ผู้เสียหายที่แท้จริงคือเจ้าหน้าที่กรมชลประทานมาแจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนจึงจะออกหมายเรียกมาดำเนินคดีได้