ธปท.ห่วงนโยบาย รบ.ใหม่ ก่อหนี้ซ่อนเร้น

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเป็นห่วง การดำเนินงานในนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะนโยบายที่ผ่านสถาบันการเงิน โดยคาดว่า ต้องใช้วงเงินทั้งสิ้น ประมาณ 442,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่าประมาณร้อยละ 20 ของงบประมาณภาครัฐ โดยประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องของหนี้ซ่อนเร้น หรือ หนี้ที่มองไม่เห็น ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโยบาย เพราะไม่ได้อยู่ในสัดส่วนหนี้สาธารณะร้อยละ 42 แต่จะเป็นภาระภาษีประชาชนระยะข้างหน้า เนื่องจากเป็นมาตรการที่เป็นภาระผูกพันโดยมีนัยสำคัญต่องบประมาณ แต่ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ความจำเป็นที่จะใช้นโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจมีน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง มีแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และหากรัฐบาลใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไป อาจส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงเกินกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจ ดังนั้น การดำเนินนโยบายการเงิน ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้นต่อไปเหมือนที่ผ่านมา คือ ครั้งละร้อยละ 0.25
อย่างไรก็ตาม ความจำเป็นที่จะใช้นโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจมีน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง มีแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และหากรัฐบาลใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไป อาจส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงเกินกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจ ดังนั้น การดำเนินนโยบายการเงิน ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้นต่อไปเหมือนที่ผ่านมา คือ ครั้งละร้อยละ 0.25