เขมรอ้างไทยมีเล่ห์ไม่รับสังเกตการณ์ขัดUN

เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ เปิดเผยการรายงานจากหนังสือพิมพ์ พนมเปญโพสต์ ฉบับภาษาเขมร วันที่ 24 มีนาคม ว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชา ได้กล่าวหาว่า ไทยล่วงละเมิดอย่างรุนแรงต่อคำแนะนำของ องค์การสหประชาชาติ หรือ UN และอาเซียน หลังจากที่ได้มีการแสดงการปฏิเสธไม่รับคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย เพื่อสังเกตการณ์ถาวรระหว่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ สื่อไทย ได้รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันพุธ ผู้บัญชาการกองทัพบกไทย ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย และผู้บัญชาการกองทัพไทยทั้งหมด ได้ตัดสินใจไม่อนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย มาสังเกตการณ์ในบริเวณพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชา

โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงว่า คณะผู้บัญชาการระดับสูงของไทย ต้องการให้ความขัดแย้งพรมแดนไทย-กัมพูชา ได้รับการแก้ไขโดยการเจรจาทวิภาคีระหว่างประเทศทั้งสอง โดยไม่มีการเข้ามามีส่วนของฝ่ายคนนอก

ขณะที่ พลโทฌุม โซะเจียต โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้กล่าวว่า กัมพูชา เตรียมพร้อมสำหรับการประชุมแล้ว และเตรียมพร้อมในการรับผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย ไม่ว่ามีการประชุมจากฝ่ายไทยหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ พลโทฌุม กล่าวต่อว่า "การคัดค้านของไทย เป็นการมองข้ามองค์การสหประชาชาติและอาเซียน" และ "นี่แสดงว่า ไทยไม่ซื่อตรงกับกัมพูชาและนานาชาติแล้ว ประเทศกัมพูชา แค่กำลังรอการสรุปจากประเทศอินโดนีเซีย ที่เป็นผู้ประสานงาน"

ด้าน นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ได้กล่าวว่า ถ้าหาก ไทยไม่รับผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียนฝ่ายกัมพูชา จะรับมาเองฝ่ายเดียว เขายังได้กล่าวอีกว่า เรื่องข้อตกลง (จุดสังเกตการณ์) จำนวน 14 แห่ง ระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซีย คือ คณะสังเกตการณ์จะมาอยู่ในดินแดนกัมพูชา

ส่วนกรณีที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตัดสินใจ ไม่ร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ที่เมืองบอกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายนนั้น และแสดงจุดยืนว่า ต้องการแก้ไขปัญหาโดยทวิภาคี โดย นายกอย เกือง ได้กล่าวว่า ภาพความไม่ซื่อตรงของไทย เป็นเล่ห์กลหนึ่ง ที่แสดงถึงการไม่ยอมรับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยสันติวิธี และการที่ไทย ยืนยันว่า ต้องการพูดคุยแบบทวิภาคี เพราะต้องการใช้กำลังทหาร เพื่อคุกคามกัมพูชา และไม่ต้องการให้มือที่ 3 มาเห็นเล่ห์กลของไทย