นายกฯไม่หนักใจซักฟอกพร้อมแจงทุกประเด็น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันนี้ และพร้อมชี้แจงในทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายฯ พร้อมเชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคน ก็พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับประชาชนได้รับทราบ ส่วนระยะเวลาในการอภิปรายฯ นั้น จะใช้เวลาการอภิปราย 4 วัน ซึ่งในวันที่ 19 มี.ค. จะอภิปรายฯ และมีการลงมติในวันสุดท้าย ไม่เกิน 24.00 น. นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณี การให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น ว่า ในวันนี้ จะได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องของข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนในกรณีนักศึกษาไทย ที่ขอกลับประเทศไทย นั้น เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะมีระบบที่ประสานงานอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายอพยพนั้น จะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่รัฐบาลญี่ปุ่น ได้วางไว้ ส่วนเหตุระเบิดเตาปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ต้องตรวจสอบผลกระทบสารกัมมันตภาพรังสี ที่ถือเป็นปัญหา
ใหญ่ โดยขณะนี้ ประเทศญี่ปุ่น ต้องเร่งฟื้นฟู และใช้งบประมาณค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงพอสมควร


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง มติของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. ที่ให้คืนตำแหน่ง
อธิบดีกรมการปกครอง กับ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ จากกรณีที่ถูกโยกย้าย มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ประจำ
กระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2553 หลัง นายวงศ์ศักดิ์ คัดค้านโครงการจัดระบบให้บริการประชาชนด้านการทะเบียน และบัตรประจำตัวประชาชน และโครงการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ แบบสมาร์ทการ์ด ว่า โดยหลักการแล้ว ให้ปฏิบัติตามมติของ ก.พ.ค. แต่ทั้งนี้ ตนจะขอดูรายละเอียดในคำวินิจฉัยก่อน รวมถึง ดูผลกระทบ และหามาตรการเยียวยา กับบุคคลที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในปัจจุบันด้วย


ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ทางฝ่ายค้าน มีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกระทำการอภิปรายเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องแรก เนื่องจาก เป็นปัญหาปากท้องของประชาชน ขณะที่ หมัดเด็ดในการอภิปรายครั้งนี้ ต้องไปถาม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้นำการอภิปรายในครั้งนี้ ส่วนกรณีมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบคลิปที่จะใช้เปิดในการอภิปราย นั้น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะใช้ดุลยพินิจ ซึ่งส่วนตัวมองว่า การเปิดคลิปเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. และหากเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ยอมรับว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบคลิป อาจทำให้ข้อมูลของฝ่ายค้านรั่วไหลได้