สดศรีกับภารกิจลต.วิกฤติใหญ่ที่รออยู่

สดศรีกับภารกิจลต.วิกฤติใหญ่ที่รออยู่

สดศรีกับภารกิจลต.วิกฤติใหญ่ที่รออยู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พุทธอภิวรรณ --- ถ้าเลือกตั้งกลางปี กับรัฐบาลไปยุบสภาปลายปี การดูแลเลือกตั้งอย่างไหนยากง่ายกว่ากัน
สดศรี --- เรื่องการเลือกตั้งกกต.เรามีหน้าที่จัดการเลือกตั้งอยู่แล้วไม่ว่ารัฐบาลจะให้มีการเลือกตั้งต้นปีปลายปีได้ทุกขณะความพร้อมกกต.มีอยู่แต่ถ้าจะถามต้องไปถามรัฐบาลว่าท่านมีความพร้อมในการที่จัดการเลือกตั้งขณะนี้ไหมคือหมายถึงว่าท่านจะยุบสภาก่อนที่จะครบวาระของส.ส.หรือไม่เป็นจุดที่ว่าคนจัดการเลือกตั้งเราคงไม่สามารถที่จะไปบังคับท่านให้ยุบส่วนการจัดการเลือกตั้งไม่ว่าตอนต้นปีปลายปีมันก็ยุ่งยากทั้งนั้นเพราะว่าปัญหาบ้านเมืองเราไม่ใช่มีเฉพาะปัญหาเรื่องม็อบตอนนี้ขณะนี้เรากำลังเจอปัญหาเรื่องเศรษฐกิจซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยมันเป็นทั้งทั่วโลกเลยรวมทั้งสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดก็คือเกี่ยวกับด้านความรุนแรงทางด้านเศรษฐกิจประชาชนประสบข้าวยากหมากแพงเราคงไม่ต้องการแบบนั้นคนที่แก้ปัญหาได้คือรัฐบาลต้องถามท่านว่าท่านแก้ได้ในระยะสั้นไหมหรือท่านจะต้องใช้เวลายาวในการแก้ปัญหาเหล่านี้

พุทธอภิวรรณ ----แต่พร้อมทุกขณะตอนนี้
สดศรี ----พร้อมทุกขณะเพราะว่าเลือกตั้งตอนไหนมันก็ต้องใช้เวลาและก็ต้องใช้พลังงานพอๆกัน

พุทธอภิวรรณ --- ถ้าจับสัญญาณกกต. ห่วงเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายลูก
สดศรี ----ใช่คือเรามาดูกฎหมายรัฐธรรมนูญที่แก้ไขมาตรา 93,98 ซึ่งเปลี่ยนระบบจากเขตเดียว 3 เบอร์ เป็นเขตเดียวเบอร์เดียว ซึ่งในการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าฉบับใดจะมีกฎหมายลูกที่มีความสำคัญต่อรัฐธรรมนูญคือ 3 ฉบับ คือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ได้มาซึ่งส.ว. กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายที่เรื่องเกี่ยวกับกรรมการการเลือกตั้ง ก็มีปัญหาว่าถ้าหากมีการยุบสภาในช่วงที่ยังทำกฎหมายลูกไม่ทันอะไรจะเกิดขึ้นคือ กกต.ต้องทำประกาศ ประกาศในที่นี้ต้องเป็นประกาศที่ที่จะต้องรองรับในลักษณะที่รองรับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขคือทำในลักษณะที่ใช้กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับมาใส่ในประกาศทั้งหมด

พุทธอภิวรรณ ---ดูเหมือนกกต.ยังไม่อยากทำ เพราะกลัวปัญหาที่จะตามมา
สดศรี -----ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ไม่อยากทำเมื่อมีกฎหมายสั่งให้เราทำก็ทำ แต่สิ่งที่เราอยากจะทำให้เป็นระบบของรัฐสภาก็คือการออกกฎหมายทุกประเทศที่ใช้การปกครองระบบรัฐสภาคือการผ่านกระบวนการต่างๆตั้งแต่มีส.ส. ส่งเสริมขึ้นมาเพื่อสร้างกฎหมาย ทำกฎหมาย เมื่อเรามีส.ส.อยู่ในสภาทำไมเราไม่ใช้ท่าน ก็จะให้ท่านทำกฎหมายให้เสร็จสิ้น

พุทธอภิวรรณ ----กลัวโดนฟ้องใช่ไหม
สดศรี ----คือการโดนฟ้องกกต.โดนฟ้องมาตลอด ใครไม่พอใจอะไรก็จะหันมาที่กรรมการแต่สิ่งที่กกต.อยากเห็นก็คืออยากจะให้การเลือกตั้งสมบูรณ์ เลือกตั้งไม่ต้องมีการร้องศาลให้เป็นโมฆะ

พุทธอภิวรรณ ----การเลือกตั้งครั้งนี้การแข่งขันมันต้องสูง เพราะบางพื้นที่เก้าอี้ ส.ส.เขาถูกตัด
สดศรี ----ก็ถึงจะไม่ตัดก็แข่งขันสูงทุกจังหวัด ก็คิดว่าตราบใดถ้าคนในชาติเรายังมีความขัดแย้งกันอยู่และก็แบ่งสีกันว่าสีนี้ ขึ้นไปทางเหนือไม่ได้ สีนี้ลงใต้ไม่ได้ แน่นอนที่สุดปัญหาของการหาเสียงจะยากมากกว่ามีสภาวะปกติ

พุทธอภิวรรณ ---เหตุผลนี้ใช่ไหม ที่โยนคำถามเรื่องการปฏิวัติ
สดศรี ----การปฏิวัติมันไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยเรามองดูว่าเหตุการณ์ที่มันเป็นขึ้นมาในขณะนี้มากกว่าสภาวะข้าวยากหมากแพงไหมในขณะนี้ สภาวะสิ่งที่เกิดขึ้นการที่ประชาชนแตกแยกกันการเลือกตั้งจะเป็นการแก้ปัญหาไหมคำตอบคือไม่ใช่ ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา
วิกฤติจะเกิดขึ้นก็อาจจะมากกว่าเดิม


พุทธอภิวรรณ ----อะไรทำให้คิดแบบนี้
สดศรี ----มันมองดูหลายๆส่วน สำคัญที่สุดคือด้านเศรษฐกิจการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเราคิดไหมว่าจะได้รัฐบาลชุดเดิมกลับมามันก็ไม่แน่ ทุกอย่างมันไม่มีอะไรแน่นอน และในประกอบกับว่าการไปหาเสียงที่ยุ่งยากมากกว่าเดิม หรือว่าไปไม่ได้ และเราต้องใช้กำลังพลที่จะต้องไปคุ้มครองผู้ที่ไปสมัครรับเลือกตั้งในการหาเสียง เหล่านี้มันไม่ได้เป็นคำตอบว่าการเลือกตั้งและทำให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบ

พุทธอภิวรรณ ---- พูดแบบนี้ เดี๋ยวจะมีบางคนฟังคิดว่า สดศรี สัตยธรรม ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง
สดศรี ----ไม่ใช่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง แต่ต้องการให้สถานการณ์ทุกอย่างควรจะเรียบร้อย


พุทธอภิวรรณ ----หมายความว่าไปสร้างความสมานฉันท์ให้มันเกิดขึ้นก่อน
สดศรี ----ก็ในลักษณะแบบนั้น

พุทธอภิวรรณ ----คาดเดาใจนายกฯไหมว่า จะต้องเอากฎหมายลูกเข้าสภา หรือจะให้ กกต.ทำ
สดศรี --- ในความคิดของตัวเองก็คิดว่าสงสัยจะให้กกต.ทำ ท่านคงเห็นพวกเรามีความสามารถในการที่จะออกประกาศเหล่านี้ก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านที่ท่านให้ภารกิจอันนี้ มันเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง

พุทธอภิวรรณ ----ไม่ใช่ประชดนะพูดอย่างนี้
สดศรี --- ไม่ได้ประชดเป็นเรื่องที่ดี คนเราถ้าเขาไม่เห็นความสำคัญของเรา ก็คงไม่ให้ภาระแก่เรา

พุทธอภิวรรณ -----แกนนำบางกลุ่มมีคดีติดตัวมาลงรับสมัครเลือกตั้ง จะทำให้วุ่นหนัก
สดศรี -----คือการตัดสินไม่ได้อยู่ที่กกต. อยู่ที่ประชาชนจะเลือกท่านไหม เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนเลือกท่าน ก็แสดงว่าท่านมีอะไรดีในการที่เขาเลือกท่านเข้ามาแม้ว่าท่านยังมีอะไรติดตัวอยู่

พุทธอภิวรรณ ----ตามหลักคนมีคดีติดตัวควรลงสมัครหรือไม่
สดศรี ----มันก็ขึ้นอยู่จิตสำนึกของคนว่า เขาห้ามไม่ได้ ตราบใดที่ศาลยังไม่ถึงที่สุดทุกคนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

พุทธอภิวรรณ ---ในอนาคต ถ้าโดนตัดสินว่ามีความผิด ก็ควรต้องรับผิดชอบ
สดศรี ----ในเรื่องนี้เราก็เคยฟ้องมาแล้วเรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้ง และส่งเรื่องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง ให้พิพากษา อย่างเป็นต้นว่า ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน เมื่อปปช.ฟ้องเข้ามาอันนี้กกต.ก็ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายอยู่ ซึ่งก็เราก็ปล่อยให้เป็นกระบวนการของทางศาลเงินของรัฐจะไม่มีสูญหาย

พุทธอภิวรรณ ----แสดงว่าคนกลุ่มนี้คุณก็ต้องพร้อมชดใช้ถ้าเกิดอะไรขึ้น
สดศรี ----แน่นอน

พุทธอภิวรรณ ----หมดวาระ กกต.จะไปทำอะไร
สดศรี ----คงเข้าวัด เพราะว่าอายุป่านนี้ แล้วคนเราถ้า 60 กว่าแล้วก็ควรจะสงบ

พุทธอภิวรรณ --- ทุกวันนี้ยังไม่สงบ
สดศรี ----ไม่สงบ

พุทธอภิวรรณ ----ถูกมองด้วยซ้ำว่าเป็น 1 ใน 5 เสือ กกต. ที่เป็นเป้าล่อมากที่สุด
สดศรี ----บางคนเขาพูดด้วยซ้ำว่าอยากดังหรอ ซึ่งจริงๆไม่ใช่ คือกกต.เราเหมือนฝาแฝดเราทำงานอะไรเราไปด้วยกัน เราพ้นคดีก็ต้องพ้นด้วยกัน เราติดคุกก็ต้องติดด้วยกัน ตรงจุดที่ว่าเคยพูดหลายครั้งแล้วไม่อยากเป็นฝาแฝดกับพวกนี้เลย อยากจะเดินเดี่ยวสักหน่อย อยากเป็นศิลปินเดี่ยวแต่มันทำไม่ได้ บางอย่างที่มีกระแสกลับมา ที่กกต.มันกระทบหมด ถ้าเรานั่งเป็นเป้านิ่ง ให้เขาด่าทอให้เขาเข้าใจเราผิดไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย ถามว่าคนก็ยังเข้าใจผิดใช่ไหม

พุทธอภิวรรณ ----เขาไม่ได้เข้าใจผิดแค่คุณสดศรี แต่อาจหมายถึงทั้งองค์กร
สดศรี --- ผิดทั้งองค์กร คือทำไมเราไม่เสียสละตัวเองให้ชี้แจงเขาไปเลย คนเราถ้าทำงานแน่นอนโดนตีโดนด่า ถ้านั่งเฉยๆไม่มีใครเขาทำอะไร

พุทธอภิวรรณ ---อายุขนาดนี้เก็บเนื้อเก็บตัวหน่อยดีกว่าไหม
สดศรี ----คือการเก็บเนื้อเก็บตัวถ้าต้องเก็บเพื่อตัวเองก็จะเก็บ แต่ตอนนี้เพื่อองค์กร

พุทธอภิวรรณ ----วาระกกต.ตอนนี้เหลืออีกเท่าไหร่
สดศรี --- 2 ปีเศษ

พุทธอภิวรรณ -----เข้าวัดแต่ไม่ได้บวชชี
สดศรี ----เข้าวัดแต่บวชชีไม่ชอบ เพราะว่าชอบแต่งตัวก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้สูงอายุ

พุทธอภิวรรณ ----ไม่คิดไปสอนหนังสือ
สดศรี --- เป็นคนไม่ชอบสอนหนังสือ ไม่ชอบเด็ก

พุทธอภิวรรณ ---ชอบนักการเมืองไหม
สดศรี ----แต่ชอบการเมือง ชอบนักการเมือง และมีความรู้สึกว่าเราชอบการเมืองแต่ถามว่าลงไปเล่นไหมคงเล่นไม่ได้เพราะว่าปัจจัยต่างๆมันไม่พร้อมที่จะเล่น

พุทธอภิวรรณ ----มีคนชวนไหม
สดศรี ----ไม่มีคนชวน ต่อไปอาจจะชวนก็ได้ตอนนี้ยังไม่มีคนชวนเป็นเพราะว่าเขาคงมองดูลาดเลาก่อนว่าเข้าไปแล้วทำให้พรรคเขาเสียหายหรือป่าว คงไม่ได้หวังในเรื่องการเมือง

พุทธอภิวรรณ --- อนาคตหลังจากนี้การเมืองจจะไปจบลงตรงไหน
สดศรี --- คือจบลงที่อาจจะมองดูว่าประชาชนจะตีกันไหม ยังข้าวยากหมากแพงกันไหมและวิกฤติจะมากขึ้นไหมเราจะหวังไหมว่ารัฐบาลชุดหน้าจะเป็นรัฐบาลชุดเดิมหรือเป็นชุดรัฐบาลชุดใหม่ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็เป็นเรื่องอนาคตประเทศไทยซึ่งขึ้นอยู่พระสยามเทวาธิราชเหมือนกันอยากให้ท่านดูแลรักษาประเทศไทยไม่มีใครอยากจะให้เกิดศึกสงครามในประเทศไทยเราอยากจะอยู่ด้วยความสงบก็อยากจะให้ว่าการเมืองในคราวหน้าลดความรุนแรงลงมีความรักกันสมานฉันท์กันในคนในประเทศไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook