ไฟไหม้ห้างบิ๊กซีเมืองพัทยาหนีตายอลหม่าน
ที่เกิดเหตุเป็นห้างสรรพสินค้าสูง 3 ชั้น มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากวิ่งออกมาจากภายในห้างอย่างโกลาหล เจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานของห้างและตำรวจได้ระบายคนทั้งพนักงานขายสินค้าและลูกค้าที่กำลังเดินช็อปปิ้งอยู่ออกให้เร็วที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าฉีดน้ำดับไฟ ภายร้านบาจา อยู่ชั้นที่ 2 ของห้าง ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องหนังรองเท้าและกระเป๋า ยังมีร้านขายสินค้าต่าง ๆ อยู่กันกันอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถดับไฟได้ ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้เครื่องหนังภายในร้านอย่างรุนแรงไว้ได้ แต่ควันไฟพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าและพนักงานรวมทั้งเจ้าของร้านขายสินค้า ต่างสำลักควันไฟ โดยมีพนักงานประจำห้างสำลักควันไฟสลบจำนวน 2 คน ถูกนำตัวส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลทันที ขณะที่การจราจรโดยรอบห้างนั้นเป็นไปอย่างติดขัด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีบาร์เบียร์และสถานบันเทิงจำนวนมาก ตำรวจจราจรต้องเร่งระบายรถลงสู่ถนนเลียบชายหาดพัทยา
จากการสอบสวน น.ส.สุวัฒนา สนั่นไพร อายุ 31 ปี พนักานขายรองเท้า ประจำร้าน คอนเส็ฟ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านที่เกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ลูกค้าประชาชนกำลังจับจ่ายซื้อของและดูหนังอยู่ภายในโรงหนังบนชั้นที่ 3 จู่ ๆ ตนก็ได้ยินเสียงกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ร้านบาจา และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น โดยพนักงานในร้านบาจาต่างพากันช่วยดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถดับได้ ไฟจึงลุกท่วมอย่างรุนแรงเนื่องจากติดเครื่องหนัง มีควันไฟโพยพุ่งทั่วห้าง แต่ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ให้คนในห้างรู้จนพนักงานและเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งประกาศให้คนที่อยู่ในห้างทราบ
จากนั้นทุกคนก็ต่างทยอยวิ่งหนีออกจากห้างกันอลหม่าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาช่วยเหลือดับไฟได้ดังกล่าว ในเบื้องต้นหลังเกดิเหตุตำรวจได้เข้าตรวจสอบภายในร้านที่เกดิเหตุพบว่ามีรองเท้าเสียหายบางส่วน แต่เขม่าของควันไฟทำใหร้านค้าอื่น ๆ ที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายจำนวนมาก ตำรวจจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบหาผู้ที่ตกค้างภายในห้างทั้งหมด แต่ก็ไม่พบผู้บาดเจ็บแต่อย่างไร อย่างไรก็ตามพนักงานร้านบาจา บอกว่าสาเหตุเกิดจาก ไฟไฟ้าลัดวงจร จนเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นดังกล่าว สำหรับคสามเสียหายประเมิณแล้วกว่า 3 แสนบาท แต่ต้องเข้าตรวจสอบความเสียหายที่แน่ชัดอีกครั้งเช้าวันนี้ (31ธ.ค.)
// //
อาถรรพณ์นรกซานติก้า ที่ดินนี้มีตำนาน...เลือด!!!
จากที่ดินทำเลทองย่านเอกมัย เพียงชั่วข้ามคืนของวันแรกที่ย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2552 กลับกลายเป็นสุสานของเหยื่อเพลิงนรก นำมาสู่การผูกโยงถึงความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับ สุสานซานติก้าผับ ด้วยความหวาดผวา และบอกเล่าถึงเรื่องราวอาถรรพณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงลางร้ายบอกเหตุที่อาจจะเป็นสาเหตุที่นำมาสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้