ลูกชายกัดดาฟีเผยสื่อนอกปท.สงบกว่าครึ่ง
สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายซาดี กัดดาฟี บุตรชายคนที่ 3 ของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ระบุว่า 85 % ของประเทศ ยังมีความสงบและปลอดภัย โดยประชาชน 50 - 60 % ยังใช้ชีวิตตามปกติ ขณะที่เมื่อวันพุธ (23 ก.พ.) ที่ผ่าน
มา ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล สามารถยึดครองชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศ นับตั้งแต่พรมแดนที่ติดกับอียิปต์ กระทั่งถึงเมืองโทบรุค และเบงกาซี ขณะที่ทหารจากฝ่ายรัฐบาลเริ่มแปรพักตร์ เพื่อเข้าร่วมการประท้วงรัฐบาล ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะ
ยังไม่ประสบชัยชนะ นายซาดี ยังคงไม่ล่าถอย และสัญญาว่า ดินแดนที่ถูกยึดครองไปจะสามารถนำกลับคืนมา
พร้อมกันนี้ยังยอมรับว่า ทางการได้ทำลายคลังอาวุธยุทธภัณฑ์ ทางภาคตะวันออกของประเทศจริง เพื่อป้องกันอาวุธสงครามจำนวนมาก ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มนักรบอัล เคดา นับพัน ที่มีความพยายามในการก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งกองทัพจะไม่ลังเลที่จะใช้กำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไฮโดรคาร์บอนที่สร้างผลประโยชน์มหาศาลให้แก่ประเทศ
นายซาดี ยังระบุว่า พี่ชาย นายวาอิฟ อัล-อิสลาม ซึ่งเป็นทายาททางการเมืองคนสำคัญ กำลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะได้รับการเปิดเผยในเร็ววัน ขณะเดียวกัน นายซาดี ยังแสดงความเพิกเฉยต่อข่าวที่ระบุว่า นักการทูตลิเบีย ที่อยู่ทั่วโลก ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อร่วมขบวนการต่อต้านรัฐบาล
มา ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล สามารถยึดครองชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศ นับตั้งแต่พรมแดนที่ติดกับอียิปต์ กระทั่งถึงเมืองโทบรุค และเบงกาซี ขณะที่ทหารจากฝ่ายรัฐบาลเริ่มแปรพักตร์ เพื่อเข้าร่วมการประท้วงรัฐบาล ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะ
ยังไม่ประสบชัยชนะ นายซาดี ยังคงไม่ล่าถอย และสัญญาว่า ดินแดนที่ถูกยึดครองไปจะสามารถนำกลับคืนมา
พร้อมกันนี้ยังยอมรับว่า ทางการได้ทำลายคลังอาวุธยุทธภัณฑ์ ทางภาคตะวันออกของประเทศจริง เพื่อป้องกันอาวุธสงครามจำนวนมาก ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มนักรบอัล เคดา นับพัน ที่มีความพยายามในการก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งกองทัพจะไม่ลังเลที่จะใช้กำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไฮโดรคาร์บอนที่สร้างผลประโยชน์มหาศาลให้แก่ประเทศ
นายซาดี ยังระบุว่า พี่ชาย นายวาอิฟ อัล-อิสลาม ซึ่งเป็นทายาททางการเมืองคนสำคัญ กำลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะได้รับการเปิดเผยในเร็ววัน ขณะเดียวกัน นายซาดี ยังแสดงความเพิกเฉยต่อข่าวที่ระบุว่า นักการทูตลิเบีย ที่อยู่ทั่วโลก ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อร่วมขบวนการต่อต้านรัฐบาล