นายกฯระบุท่าทีฮุนเซนดีขึ้นย้ำต้องเจรจา

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงถึง ท่าทีล่าสุดของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ต้องการให้กำกับพื้นที่การปะทะของทหารอยู่เพียงบริเวณปราสาทพระวิหาร ว่า เป็นท่าทีที่ดีขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตนมองว่า ต้องโน้มน้าวให้กลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาตามแนวทาง ขณะที่ การประสานงานกับกัมพูชานั้น ขณะนี้ก็มีการติดต่อกันอยู่แล้ว ทั้งนี้ ในการนัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ. นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย นั้น คงจะมีการใช้การประชุมดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญ และคิดว่ากัมพูชาก็ต้องยอมรับด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การเยียวยาชาวบ้านในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะของทหารว่า ทางจังหวัดมีงบประมาณทดลองจ่ายการดำเนินการได้ โดยขณะนี้จะเร่งรัดเรื่องที่อยู่อาศัย โรงเรียน เรื่องการปรับปรุงหลุมหลบภัย และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งโดยรวม งบฯ ของพื้นที่ยังดูแลได้อยู่ แต่หากงบฯ ยังขาด ก็สามารถเสนอขออนุมัติได้

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ แถลงถึง การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในขณะนี้ว่า ตนอยากให้นำความห่วงใยที่มีอยู่ มาบอกกับรัฐบาล ขณะที่ตนก็ไม่ทราบเหตุใด ที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำเรื่องการให้สัมปทาน ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล กับนักธุรกิจชาวอียิปต์ มาเปิดเผย เพราะรัฐบาลชุดนี้แขวน MOU ปี 2544 ไว้แล้ว จึงไม่มีปัญหาผลประโยชน์ และเรื่องของสัมปทาน ส่วนจะเป็นรัฐบาลก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น เห็นว่า หากเป็นรัฐบาลไทยที่ไปทำสัญญาเช่าซื้อกฎหมาย ก็จะผูกพัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล จึงยังไม่มีการเดินหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนขอรอดูสถานการณ์ก่อนว่า จะมีการฟ้องร้องกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ ภายหลังที่มีการกล่าวหาว่า ตนมีผลประโยชน์ทับซ้อน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนมีความยินดีที่จะตรวจสอบข้อมูลที่กลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหาว่า พล.ท.ธวัชชัย
สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 มีผลประโยชน์ทับซ้อนในพื้นที่ชายแดนกับกัมพูชา