เมื่อฉันโดนร้านโกง! : โศกนาฏกรรมของชาวติ่งเกาหลี โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง | Sanook Music

เมื่อฉันโดนร้านโกง! : โศกนาฏกรรมของชาวติ่งเกาหลี โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

เมื่อฉันโดนร้านโกง! : โศกนาฏกรรมของชาวติ่งเกาหลี โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในโลกของนกฟ้า-ทวิตเตอร์-เรามักเห็นแฮชแท็กเกี่ยวกับวงการเพลงเกาหลีขึ้นเทรนด์ในประเทศไทยเสมอ ไม่ว่าศิลปินจะเดบิวต์ ออกเพลงใหม่ มีข่าวเดท ข่าวดี หรือข่าวฉาวใดๆ แต่อีกแฮชแท็กที่มาแรงตีคู่กันมาและเห็นอยู่เนืองๆ คือเกี่ยวกับการโดนร้านรับสั่งของเกาหลีโกง เรียกได้ว่ามีดราม่าแนวนี้แทบทุกเดือน บางทีก็เป็นเรื่องของร้านเดิมที่วนกลับมา ประมาณว่าผ่านไปหลายเดือนยังเคลียร์เงินไม่ลงตัว หรือหลายครั้งร้านที่เคยโดนจับได้ว่าโกงชาวบ้าน ก็กลับมาขายอีกด้วยการเปลี่ยนชื่อร้านเปลี่ยนชื่อแม่ค้า จนชาวเน็ตต้องช่วยกันออกมาเตือนภัยสังคม

มีคำกล่าวเชิงตลกร้ายว่า “หากยังไม่เคยโดนร้านโกง ถือว่ายังไม่ใช่ติ่งเกาหลีตัวจริง” สำหรับผู้เขียนเองที่เป็นติ่งมาเกินสิบปีแล้ว ก็หวิดจะโดนอยู่หลายที และแม้จะเชื่อว่าตัวเองระมัดระวังขนาดไหน สุดท้ายก็เคยโดนโกงจนได้ ดังนั้นเลยขอมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เป็นแนวเม้ามอยขำขันเฮฮา แต่อาจมีน้ำตาซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด

คดีที่ 1 : แม่ค้าวัยใสหัวใจมัธยม

หลายปีก่อน ผู้เขียนเคยสั่งโฟโต้บุ๊คของ Girls’ Generation จากร้านหนึ่งด้วยความที่ร้านนี้ขายถูกกว่าร้านอื่น แต่เลยจากกำหนดวางขายไปเป็นเดือนก็ยังไม่ได้ของเสียที โชคดีว่ามีลูกค้าสั่งร้านนี้เยอะ ทุกคนเลยช่วยกันทวงและกดดันแม่ค้า จนได้รู้ว่าคนขายยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมเอง อันนี้ก็ไม่อาจทราบว่าน้องเขามีปัญหาอะไร (ได้ของไม่ครบ? หมุนเงินไม่ทัน? บริหารจัดการไม่ดี?) แต่น้องก็เครียดจนไม่มาตอบ แล้วให้เบอร์พี่สาวแทน สักพักก็กลายเป็นเบอร์แม่ ตอนนั้นผู้เขียนเลยได้คุยกับญาติพี่น้องของแม่ค้าไปซะงั้น

สุดท้ายคุณแม่ของแม่ค้ารายนี้ต้องมาช่วยเคลียร์ให้ ยังจำได้แม่นว่าไปนัดรับของกันที่ลานจอดรถห้างแห่งหนึ่ง (จริงๆ ก็แอบกลัวว่าฉันจะโดนดักตีหัวหรือเปล่า เพราะจิกทวงไม่หยุด) ปรากฏว่าคุณแม่เป็นคนเอาของมาให้และขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ เห็นแล้วก็ใจบาง

คดีที่ 2 : เกือบได้บุกโรงเรียนไปทวงเงิน!

เคสนี้เกิดจากการสั่งเสื้อแฟนเมดของวง Girls’ Generation ผู้เขียนไปเจอเสื้อลายหนึ่งเห็นว่าสวยดี ก็เลยสั่งไปแบบขำๆ แต่สักพักเริ่มไม่ขำ หลังจากโอนเงินไปแล้ว แม่ค้าหายหน้าหายตา ไม่มีอัปเดตอะไรทั้งสิ้น จนต้องรับบทนักสืบเอาชื่อน้องเขาไปค้น ด้วย digital footprint ต่างๆ นานาเลยได้ทราบว่าน้องยังเรียนมัธยม (อีกแล้ว) เจอเฟซบุ๊กน้อง รู้หน้าน้อง รู้โรงเรียนน้อง รู้ไปถึงน้องเรียนชั้นอะไร ห้องทับอะไร ยังคิดในใจว่าฉันต้องบุกไปถึงหน้าห้องเรียนน้องเขาเลยมั้ย

ทว่าพอส่งข้อความไปทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของน้องเขาว่า “ถ้าไม่ได้เสื้อพี่คงต้องแจ้งความนะ” น้องก็พิมพ์มาเหมือนจะร้องไห้ อ้างว่าหนูไม่มีเวลาทำเสื้อเพราะยุ่งงานกีฬาสี (!?) สุดท้ายน้องโอนเงินคืนทันที ปิดคดีไป

คดีที่ 3 : เสื้อรายการที่ไม่มีอยู่จริง

ช่วงที่รายการ Running Man ดังสุดขีดในบ้านเรา มีร้านทำเสื้อแฟนเมดรายการนี้เยอะมาก ผู้เขียนเลยสั่งเสื้อร้านหนึ่งไปขำๆ แต่แน่นอนว่ามันไม่ขำตามเคย สุดท้ายไม่มีใครได้เสื้อ แม่ค้าหายสาบสูญ เพจไร้การเคลื่อนไหว แถมไม่ค่อยมีคนโวยวายอะไรด้วย เพราะเสื้อมันตัวละสองร้อยกว่าบาท อันที่จริงผู้เขียนแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยโดนโกงจากเคสนี้ เพจชื่ออะไรก็จำไม่ได้แล้ว แต่สมมติว่าถ้าคนสั่งกันหลักร้อย แม่ค้าก็ได้เงินไปแบบสบายใจเฉิบหลักหมื่นเลยทีเดียว (กำหมัดไปพิมพ์ไป)

คดีที่ 4 : จุดอ่อนจากการไว้ใจ

อันนี้ถือเป็นเคสที่เสียหายหนักสุดและเจ็บปวดที่สุด เป็นร้านรับสั่งของเกาหลีร้านหนึ่งที่ราคาไม่แพง ตัวพ่อค้าเองค่อนข้างเฟรนด์ลี่ สั่งอะไรได้ของครบถ้วน ผู้เขียนเลยซื้อกับร้านนี้ยาวนานถึงสองปี ยิ่งไปกว่านั้นตัวพ่อค้ายังเคยหลังไมค์มาทำนองว่า “โอ้ว ผมเพิ่งรู้ว่าคุณคันฉัตรเป็นนักเขียนชื่อดัง ร้านเรารู้สึกเป็นเกียรติมากเลยครับ” (แหม ความจริงฉันก็ไม่ได้ดังขนาดนั้น) จากนั้นนางก็แอดเฟซบุ๊กมา เมนต์อะไรนู่นนี่ประปราย ซึ่งสังเกตเห็นอยู่ว่านางค่อนข้างสนิทสนมกับลูกค้าหลายคน ถึงขั้นว่านัดกินข้าวกันก็มี

ด้วยความไว้ใจบวกกับพ่อค้าที่ดูพินอบพิเทากับเรา ช่วงหลังมีอะไรอยากได้เลยสั่งตูมๆๆ กับร้านนี้ร้านเดียว โอนเงินให้ไปหลายพันบาท แต่แล้ววันหนึ่งพ่อค้าก็หายตัวไปเลยจ้า ลูกค้าทุกคนงง เหวอ ช็อค ตอนแรกยังนึกว่าแกไม่สบาย เจออุบัติเหตุ หรือตายกะทันหันหรือเปล่า แต่พอสืบไปสืบมาก็ได้ความว่านางตั้งใจมาโกงนั่นแหละ เพราะก่อนหน้านี้นางก็เคยไปโกงมาแล้วในวงการอื่น บอกตามตรงว่ารู้สึกเจ็บยิ่งกว่าตอนจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กเสียอีกกก

ช่วงที่เกิดเรื่องก็มีการรวมตัวกันไปแจ้งความ แต่คดีไม่คืบหน้านัก บางคนไม่สะดวกเดินทางไปสถานีตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ หรือลูกค้าหลายคนยังเรียนอยู่มัธยมหรือมหาวิทยาลัย ไม่กล้าบอกพ่อบอกแม่ว่าโดนโกง กลัวจะถูกที่บ้านด่า สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านเลยไป ทุกคนก็ทำใจว่าคงไม่ได้เงินคืนและมูฟออนใช้ชีวิตต่อไป

ทั้งนี้คดีทั้งหมดในข้างต้นเป็นเรื่องเกิดขึ้นหลายปีแล้ว เพราะหลังจากโดนโกง ผู้เขียนก็พยายามซื้อกับเว็บทางการเป็นหลัก อาทิ Ktown4U, Yes24, Gmarket, Cdjapan, Withdrama หรือเว็บช็อปทางการของไทย (SM True Store, YG SELECT TH, Thaiticketmajor) ถึงหลายครั้งจะราคาแพงกว่าพวกร้านในทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊ก แต่ก็เน้นความสบายใจเป็นหลัก ไม่ต้องมาพะว้าพะวงให้วุ่นวาย

อย่างไรก็ดี กรณีสินค้านั้นไม่มีร้านทางการไทยขาย จนต้องไปสั่งกับเว็บต่างประเทศ ก็อาจเจอปัญหาสองประการ หนึ่ง-ค่าส่งแพงหูฉี่ เพราะส่วนใหญ่ส่งทางเครื่องบิน สอง-ถ้าสินค้าราคาเกิน 1500 บาทก็มีแววจะโดนภาษี (แถมช่วงหลังมานี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำงานกันขยันขันแข็งมากจ้า) บางครั้งจึงต้องกลับมาซบอกร้านไทยที่เขาขายถูกหน่อยเพราะส่งทางเรือ หรือหลายร้านก็จัดการเคลียร์ภาษีให้เรา ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเลือกร้านที่มีกดติดตามเยอะประมาณหนึ่ง และค่อนข้างระวังร้านที่ขายถูกผิดปกติ

แต่ขนาดร้านที่เชื่อใจมาสองปียังหักหลังเราได้เลย จากบทเรียนคราวนั้นผู้เขียนเลยทำการซื้อของโดยมีคติประจำใจจากประโยคดังในซีรีส์ The X-Files นั่นคือ “Trust No One” (อย่าไว้ใจใคร)

____________________

kanchat

ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

(Kanchat Rangseekansong)

เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook