คุยกับ Dru Chen ศิลปินสิงคโปร์ กับเพลง “Eiffel Tower” และการแต่งเพลงในช่วงโรคระบาด | Sanook Music

คุยกับ Dru Chen ศิลปินสิงคโปร์ กับเพลง “Eiffel Tower” และการแต่งเพลงในช่วงโรคระบาด

คุยกับ Dru Chen ศิลปินสิงคโปร์ กับเพลง “Eiffel Tower” และการแต่งเพลงในช่วงโรคระบาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Dru Chen นักร้อง นักแต่งเพลงชาวสิงคโปร์ เปิดตัวอัลบั้มแรก Mirror Work ในปี 2019 และได้เซ็นสัญญาในสังกัดค่าย Warner Music และเมื่อปลายปี 2020 Dru Chen เขาร่วมเขียนเพลง “Carnival” ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้ในเกมชื่อดังของ Riot Games อย่าง League of Legends ด้วย

นอกจากนี้ Dru Chen ยังคงมีผลงานเพลงปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้รู้จักเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลก่อนหน้าอย่าง “Future Me + U”, “Givin' It Up” และ “Replay ในดนตรี pop, disco, R&B ที่เขาได้แรงบันดาลใจการร้องเพลงมาจาก D’Angelo, Freddie Mercury และ Jeff Buckley รวมไปถึงพาร์ทของดนตรีที่ได้ทำออกมาเป็นแนวร่วมสมัยมากขึ้นโดยมีอิทธิพลจากศิลปินอย่าง DEON, Gentle Bones และ Daniel Caesar 

ล่าสุดซิงเกิล “Eiffel Tower” ของ Dru Chen ก็ปล่อยออกมาในดนตรีสไตล์ pop, R&B โรแมนติก ที่ได้ร่วมกันแต่งกับ Joel Tan หรือ Gentle Bones ด้วย โดยเขาพูดถึงเพลงนี้ว่า “ผมเขียนเพลงนี้ขึ้นมาในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเปราะบางมากๆ เมื่อช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตและความรักเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เราต้องพยายามช่วยชีวิตตัวของเราเองให้ผ่านความยากลำบากเหล่านั้นเพื่อให้แข็งแรงกว่าเดิม ได้กลับมามีชีวิตที่มีชีวากว่าก่อน นั่นแหละคือประสบการณ์ที่ผมว่าเป็นอีกขั้นของความเป็นมนุษย์ของทุกคนที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้”

Sanook Music มีบทสัมภาษณ์สั้นๆ จากเขามาฝากแฟนๆ ชาวไทย ให้ได้ทำความรู้จักเขา และเพลงของให้มากขึ้นกัน


Dru ChenDru Chen

แนะนำตัวให้แฟนๆ ชาวไทยรู้จักกันหน่อย 

Dru: สวัสดีครับ ผม Dru Chen จากสิงคโปร์ ผมเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ที่มีอิทธิพลแนวดนตรีสไตล์โซล อาร์แอนด์บี แจ๊ส และฟังค์

คุณเพิ่งปล่อยซิงเกิล “Eiffel Tower” เพื่อเปิดตัว EP ใหม่ของคุณ ช่วยบอกเราหน่อยว่าเพลงนี้เกี่ยวกับอะไร?

Dru: “Eiffel Tower” เป็นเพลงที่ผมชอบมากเลยครับ เพราะเป็นเพลงที่พูดถึงความเปราะบางและความโหยหา เป็นเพลงที่สื่อออกมาว่าในความกลัวนั้นคุณต้องใช้ความกล้าหาญที่จะเผชิญกับมัน ความกล้าที่จะเข้าไปเสี่ยงกับสิ่งที่คุณต้องการแม้อาจจะต้องได้รับความเจ็บปวดก็ตาม 

อะไรทำให้คุณได้เข้ามาเป็นนักดนตรีอย่างทุกวันนี้?

Dru: ตั้งแต่ผมอายุ 4 ขวบ ดนตรีเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผมมาตลอด ถ้าพูดในทางเคมีมัน มันทำอะไรบางอย่างกับสมองของผม ซึ่งทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขที่ได้ทำมัน ดนตรีอยู่ในสายเลือดของผมครับ และผมจะทำงานศิลปะนี้ต่อไป เพราะมันมีความหมายต่อผมมาก

ในขณะที่สถานการณ์การระบาดไวรัสโคโรนาที่มันบ้ามากแล้ว แต่การที่คุณทำเพลงปล่อยออกมาในช่วงนี้เป็นอะไรที่บ้ากว่า อยากรู้ว่าจากสถานการณ์นี้มันทำให้คุณสร้างสรรค์ผลงานเพลงของคุณอย่างไรบ้าง?

Dru: คำถามดีมาก! อัลบั้ม Mirror Work ของผมนี้ เราทำงานกับมันด้วยคนสามคนในห้องเดียวกัน โดยที่เราไม่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการตัดต่อ ไม่มีเครื่องเมโทรนอม เราทำมันออกมาจากความรู้สึก จากนั้นเราก็นำแมททีเรียลที่เราทำมาก่อนแล้วไปสู่ขั้นตอนการทำซาวด์ ตัดต่อ ตบๆ เนื้อเพลงให้ลงล็อคซึ่งก็ได้เพื่อนสนิทของผมมาช่วยด้วยนั่นก็คือ Joel Tan, Jesse Bear, Paul McMurray และ Weiwen Seah ผมว่าอัลบั้มนี้มันโดดเด่นด้วยการที่ผมได้ลองทำเพลงสไตล์ใหม่ๆ ตอนนี้ตัวผมเหมือนเป็นฟองน้ำเลยครับที่ดูดซับเอาอิทธิพลดนตรีต่างๆ มา แล้วก็สนุกไปกับมันเหมือนอย่างตอนที่ผมเป็นเด็ก!

ศิลปินในใจคุณตลอดกาลคือใคร?

Dru: ตอบแบบไม่คิดเลย คือ Prince ครับ แล้วก็ Jimi Hendrix เขาเป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงที่สุดยอดมากๆ เขาสร้างผลงานระดับตำนานได้ในระยะเวลาแค่ 3-4 ปี ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ในวงการดนตรี ผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่าง "Hey Joe" และ "All Along The Watchtower" อัลบั้มที่มีแนวคิดที่แหวกแนวอย่าง Electric Ladyland หรืออัลบั้ม Band of Gypsys เขาเป็นอัจฉริยะทางดนตรีจริงๆ ครับ

หลังจากปล่อยซิงเกิล “Eiffel Tower” แล้ว คุณมีแพลนอะไรต่อ?

Dru: ผมตื่นเต้นมากครับที่จะได้เริ่มต้นทำเพลงที่แตกต่างออกไปจากแมสมาร์เก็ต ผมชอบให้คนอื่นคาดเดา และผมก็ชอบกระบวนการทำเพลงที่ตัวเองได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ผมรู้สึกสนุกในการได้ทดลองทำดนตรีหลายๆ แบบ ดังนั้นผมจึงเรียนรู้จะทำเพลงและทยอยปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังเรื่อยๆ ครับ และหวังว่าสักวันผมจะได้แสดงโชว์ให้คุณดูสักครั้ง

ฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทย

Dru: ผมรักประเทศไทยครับ และก็อดทนรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ไปแสดงที่นั่นสักครั้ง ขอให้คุณปลอดภัยและดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook