ส่อง 10 ผีไทย ในโลกละคร
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/mv/0/ud/18/91961/thai.jpgส่อง 10 ผีไทย ในโลกละคร

    ส่อง 10 ผีไทย ในโลกละคร

    2019-10-30T16:54:19+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ต๊าย ตาย ฉันก็ตกใจแทบแย่ เห็นหล่อนหน้าสดออกจากบ้าน อ๋อ ไปงานฮาโลวีนนี่เอง แต่ก็ว่าไม่ได้เทศกาลฮาโลวีนนั้นเป็นอะไรที่ทั่วโลก ก็ฉลอง เปิดปาร์ตี้ร่วมกันทั้งนั้น ความผี ความหวาดกลัวในเรื่องผีสางนี่นะคะ ก็เป็นวัฒนธรรมร่วม คนทั้งโลกกลัวเหมือนกันหมด มีรูปร่างของผีที่ก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันเท่าไหร่เลย และเอาเข้าจริงๆ แล้วนะคะคุณขา ผีไทยเนี่ย ก็ขึ้นชื่อเลื่องลือเรื่องความล้ำโลกมากประมาณหามิได้เลยค่ะ

    เพราะงั้น ฮาโลวีนทั้งที เทยขอเปิดคลังสยอง เรื่องของผีไทยในละครก่อนเลยค่ะ

    ในวงการละครไทย มีผีที่น่ากลัววนเวียนมาสร้างสีสันให้กับคอละครอยู่มากมาย แต่ละเรื่องก็สร้างปรากฏการณ์สยองขวัญสั่นประสาทคาบ้านกันมานักต่อนักแล้ว ความสยองของผีละครไทยนั้น ไม่ใช่แค่การเป็นละครที่มีเนื้อหาสนุกสนาน ที่ผู้จัดผลิตออกมาให้รับชม แต่ละครหลายเรื่อง ได้ฝังรากความกลัวลงไปให้คนดูชาวไทยด้วยนะเออ

    ผีไทยในละครที่ทรงอิทธิพล 10 เรื่องที่เทยจะขอนำมาเมาท์มอยให้ฟัง ก็มีดังนี้

     

    10.กระสือ

    รูปลักษณ์ของผีตัวนี้เป็นที่ตรึงตาตรึงใจ ด้วยความถอดหัว จนเห็นลำไส้ ลอยได้ไปมาพร้อมแสงวูบวาบ ใครจะรู้ว่าจากผีในหนังสือการ์ตูนเล่มละ 5 บาท 10 บาท ก็ถูกนำมาผลิตเป็นละครแล้วถึง 3 ครั้ง โดยเป็นบทประพันธ์จาก “บุราณ” เจ้าแม่นิยายกลิ่นไทยทั้งหลาย และต้นฉบับของกระสือ “ยายสาย” ก็เป็นที่กล่าวขวัญถึงความน่ากลัวได้เป็นอย่างดี ซีนจดจำอย่างหมาหอนกลางคืนเพ็ญ ก็เป็นภาพจำของคอละครมาทุกยุคสมัย

    ความพิเศษของกระสือคือการพูดถึงการปกปิดตัวตนในตอนกลางวัน แต่พอตกกลางคืนผู้หญิงคนนั้นก็ถอดหัวตัวเองไปกินของสกปรก และด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อเรื่องที่เป็นสัญญะชัดเจน กระสือ ถูกนำมาสร้างเป็นหนังอีกครั้งในปีนี้เองถึงสองเรื่อง “แสงกระสือ” และ “กระสือสยาม” ซึ่งถือเป็นการตกย้ำความเกรียงไกรของผีตัวนี้ได้เป็นอย่างดี

    9. ปอบผีฟ้า

    “เลือด เลือด ฉันจะกินเลือด” ประโยคอันคุ้นหูนี้ แน่นอนว่ามาจากเพลงประกอบละครปอบผีฟ้า บทประพันธ์จาก ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นละครไปแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมผีฟ้า ที่เป็นความเชื่อของชาวอีสาน และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูง มาผนวกเข้ากับปอบ ผีที่ล้วงกินตับ และถือเป็นปีศาจของต่ำของชาวอีสาน เมื่อนำสองสิ่งที่มีขั้วตรงข้ามกัน มาผสานไว้ด้วยกัน ความสนุกสนานปนสยองขวัญจึงลงตัวมากๆ ยิ่งเพลงประกอบละครที่นำมาจากเพลงบูชาผีฟ้าเดิม “ผีฟ้าเอย หมู่เฮา….” ตั่งต่าง ก็กลายเป็นเพลงที่ถูกนำมาทำใหม่ จนฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองในยุคนึงทีเดียว

    ปอบผีฟ้า เป็นการรวมเอาเรื่องราวของผีสองแบบในร่างเดียว ผีฟ้าซึ่งเป็นผีชั้นสูง ไว้รักษาโรค ไว้รักษาคน กับผีปอบ ที่ไว้ทำลายชีวิต เมื่อมีผีสองแบบอยู่ในร่างคนคนเดียว เราจะเชื่อว่าร่างไหน นิสัยใดเป็นเรื่องจริงนั้น ก็เป็นเส้นเรื่องที่น่าค้นหา และยิ่งทำให้ความเชื่อของอีสาน เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นอีกด้วยนะ

    8. ทายาทอสูร / คุณยายวรนาฏ

    “เจ้าคือทายาท คนต่อไป” อีกบทเพลงที่ชวนขนหัวลุกโชนจากละคร ทายาทอสูร บทประพันธ์ของ ตรี อภิรุม ซึ่งถูกนำมาผลิตเป็นละครไปทั้งสิ้น 3 ครั้ง โดยเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลเก่าแก่ที่มีคุณยายวรนาฏ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ประจำตระกูล แต่ตัวคุณยายนั้นดันไม่มีความแก่ลงเลย ยังคงสาวสะพรั่ง และดูเหมือนความงามของคุณยายจะมีความลึกลับซ่อนอยู่ และเหมือนว่าหลานเหลนสาวสวย จะดูเป็นเหยื่อการถ่ายทอดวิญญาณร้ายของคุณยายด้วยล่ะ แน่นอนว่าทายาทอสูร เป็นละครแนวสยองขวัญที่มีเอกลักษณ์ด้วยการเล่าเรื่องที่วางอยู่ในสังคมเมือง แต่สามารถย้อนกลับไปไกลถึงยุคอาณาจักรตั่งต่างได้ด้วย รวมถึงความชั่วร้ายในรูปแบบการคายตะขาบ ก็ชวนสยอง ชวนอ้วกอยู่ไม่น้อยเลย

    ทายาทอสูร สามารถมองได้ในรูปแบบของความงาม ที่งามเกินไป คนสวยเกินไปจนดูน่ากลัว และมาลองคิดเอาว่า แก ถ้าแบบคนสวยๆ มีมนต์ดำ คงความสวยของตัวเองเอาไว้ได้เนี่ย มันก็น่าขนลุกอยู่ไม่น้อยเลยนะ เป็นมุมมองของการพยายามอยู่ในอำนาจของผู้หญิง โดยใช้ความสาว ความสวยเป็นเครื่องมือ และถ่ายทอดมันไปยังเด็กสาวรุ่นต่อไป

    7. สุสานคนเป็น

    ความสยองขวัญที่ไปแตกขีดสุดถึงขั้นที่ว่า ใครปลูกดอกลั่นทมไว้หน้าบ้าน ก็จะขนหัวลุกกันได้เลย เพราะกลัวว่าเจ้าของบ้านจะเฉลยว่ามีศพนอนอยู่ในบ้านแน่นอน สุสานเป็นเรื่องราวของ คุณนายลั่นทม ภรรยาอันแสนดีที่ป่วยเป็นโรคหลับไหลตายได้ง่าย สามีผู้คิดร้าย จ้องจะมีชู้และเริ่มฮุบสมบัติของเธอไปแต่งงานใหม่ ก็ฉกฉวยโอกาสที่เธอหลับ จัดงานศพให้เธอทันที โดยไม่รอชันสูตร ครั้งแรกๆ เธอยังไม่ตาย จึงลั่นวาจาไว้ว่า หากเธอมีอาการอีก ให้เก็บศพเธอเอาไว้ในบ้าน จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า เธอตายแล้วจริงๆ และการเก็บคุณนายลั่นทมไว้ในบ้าน เธอจึงพยาบาท ออกจากโลงแก้ว มาเอาคืนทุกคนที่คิดร้ายกับเธอ

    ความแปลกใหม่ของสุสานคนเป็น จึงเป็นเรื่องการตายแล้วแต่ยังไม่ตาย การเริ่มเอาอาการป่วยไข้ และเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง มาเรียงร้อยเป็นละครและความสยองขวัญจนทำให้คนดูรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น เป็นความน่ากลัวที่เกิดขึ้นได้จริงนั่นเอง

    6. ห้องหุ่น

    ห้องหุ่น เป็นละครโทรทัศน์ สร้างจากอีกบทประพันธ์ของ ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชอบปั้นหุ่นเสมือนคนจริง และความหลงใหลลุ่มหลงของเขา เขาใส่จิตวิญญาณลงไปในหุ่นนั้น และเมื่อเขาตายไป หุ่นพวกนั้น ก็เหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาได้ และคอยคุกคามคนที่พยายามจะทำร้ายคนที่เขารัก ห้องหุ่นเคยถูกสร้างเป็นละครถึง 3 ครั้ง และภาพยนตร์ 1 ครั้ง ด้วยการที่ผีในเรื่องนี้ ไม่ใช่ผีที่เกิดจากคน แต่เป็นหุ่นที่เกิดจากการปั้นแต่ง ความน่ากลัวของมัน คือการที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่จริง ไม่มีที่มาที่ไป แถมหุ่นแต่ละตัว ก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน รวมถึงความสามารถในการไล่ล่าที่แตกต่างกันด้วย ทั้งหุ่นนักธนู นักรบ หุ่นนางพยาบาล ลามไปยันหุ่นท่านเจ้าคุณโน่นแหนะ

    ความโด่งดังของเรื่องนี้ ตอนที่ละครออกอากาศครั้งแรก มันคือการฉีกขนบผีไทย ที่มักจะวนเวียนอยู่กับความเชื่อท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ หากแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ความสยองขวัญกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตมาตั้งแต่แรก แฟนละครถึงขั้นหลอนฉากที่ท่านเจ้าคุณเดินไปตามถนนเลยทีเดียว และมันก็ยังสะท้อนความบ้าคลั้งหลงใหลในงานศิลปะของตัวละครที่ปั้นหุ่นขึ้นมา เพื่อให้มันพิทักษ์ปกป้องสมบัติ ครอบครัว หรืออาจจะพูดว่ามันคืออีโก้ของตัวเขาเองก็ได้ด้วยนะเธอ

    5. จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า

    จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า เป็นนวนิยายที่ประพันธ์โดยนรอินทร์ นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ไปทั้งสิ้นแค่หนึ่งครั้ง แต่ความน่ากลัวของละครเรื่องนี้ คือการแต่งหน้าแต่งตาของผีที่ปรากฎตัวในเรื่องนั้น มันน่ากลัวติดตาประหลาดมาก รวมถึงชื่อละครที่ดูไม่มีอะไรน่ากลัวเลย แต่ทว่าเอาผสมผสานกันอย่างลงตัว รวมไปถึงเส้นเรื่องที่ไม่ใช่แต่จะมีผีมาตามหลอกหลอนอย่างเดียว แต่มันคือการผสมความเป็นละครสืบสวนเพื่อหาตัวฆาตกรที่แท้จริงในเรื่องอีกด้วย 

    ผีในจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ไม่ได้มีแค่หนึ่งตัว แต่ทว่าทีมเมกอัพของเรื่องนี้ ทำให้ผีทุกตัวในเรื่องมีเอกลักษณ์ร่วมอย่างชัดเจนคือผิวที่ขาวซีด ปากที่ฉีกกว้างแสยะยิ้ม ตาที่ขาวโพลน เป็นหญิงสาวในชุดขาวในความมืด ซึ่งเป็นการถอดแบบผียุคใหม่ ที่คงได้รับอิทธิพลมาจากหนังสยองขวัญที่ยุคใหม่มากขึ้น เลยทำให้ผีจากเรื่องนี้มีรูปลักษณ์ที่น่าจดจำมากพอ

    4. เปรตวัดสุทัศน์

    ถือเป็นละครที่เทยยอมรับว่าทำให้หวาดผวาได้จริงๆ แค่เพลงประกอบ และภาพเปิดไตเติ้ลที่ผสมผสานความน่ากลัวแบบไทยๆ ด้วยฟุตเทจจากละคร สลับกับภาพเปรต คือทำเอาขนหัวลุก ละครโฆษณาก็ไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำเลยแม่ เฟรตวัดสุทัศน์ เป็นอีกหนึ่งบทประพันธ์จาก บุราณ ที่บอกเล่าเรื่องราวของแสนเสน่ห์ หญิงสาวจากเมืองเหนือที่ใช้ชีวิตด้วยบาป จนต้องมาจบชีวิตลงแล้วกลายเป็นเปรต ชดใช้เวรกรรมไปชั่วกัปกัลป์ แม้ละครเรื่องนี้จะเพิ่งนำมาทำเพียง 2 ครั้ง แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องและเพลงประกอบ ยังคงติดตรึง และถือเป็นละครขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่งของวงการละครเลยค่ะ

    เปรตวัดสุทัศน์ มีความพิเศษอย่างนึงคือ เมื่อเราพูดถึงเปรต ก็มักจะเห็นเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ละครเรื่องนี้ ก็ปรับให้เปรตเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นการทลายภาพจำของเปรตได้อีกด้วย นับเป็นของใหม่ในด้านของภาพเอามากๆ เลยทีเดียว

    3. ซีรีส์ผีผ้า สาปภูษา / รอยไหม  / กี่เผ้า / กลกิโมโน

    ละครทั้งสี่เรื่องนี้ เป็นบทประพันธ์ของโดย พงศกร โดยทั้งสี่เรื่องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผ้าทั้งหมด โดยเชื่อว่าผ้าตั่งต่างมีที่มา และเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ โดยเริ่มจากผ้าผืนแรกอย่างภูษา “ผีเจ้าสีเกด" ที่มีพลังรุนแรง ได้ถูกผนึกฝังลึกลงในผ้าไหมตาดทอง และคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ ตามมาด้วย “ผีอีเม้ย” ในรอยไหม ที่เกี่ยวพันกับผ้าตุ้มทำมาจากไหมทองคำลวดลายล้านนาที่งดงามจับใจ ที่เกี่ยวพันกับโศกนาฏกรรมรักเมื่อครั้งอดีต หรือจะข้ามกลิ่นไปยังประเทศจีน ด้วยกี่เผ้าและ "ผีเมย์ลี" วิญญาณฝังลึกในกี่เพ้าชุดงาม ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดชุดสีแดงลายดอกโบตั๋น ก็ไม่มีวันเก่า ราวกับมีบางสิ่งปกปักษ์รักษามัน และปิดท้ายด้วยความอลังการของกลกิโมโน และ “นางปีศาจหิมะ" ที่โกรธแค้น "โฮชิ" เทพเจ้านกกระเรียนที่ไม่ยอมรับรักเธอ นางปีศาจหิมะต้องการให้โฮชิเห็นประชาชนที่โฮชิรักต้องมีอันเป็นไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งทั้ง 4 เรื่อง ได้นำเอาผีมาปรุงแต่งให้เรื่องราวความรักโรแมนติก หรือดราม่า ให้มีความน่าติดตามมากขึ้น

    ในด้านของความสยองขวัญ ซีรีส์เหล่านี้อาจจะไม่เต็มที่เท่าไหร่ แต่ผีทั้งสี่ ดันมีดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป และยิ่งเอาเรื่องราวมาผนวกกับผ้าจากที่ต่างๆ ก็เลยกลายเป็นว่าผีมีคุณค่าขึ้นมาทันใดเลยเธอขา โดยเฉพาะผีอีเม้ยที่ก็สยองได้ที่อยู่นะว่าบาป

    2. บ่วง / ผีอีแพง

    บ่วง เป็นงานเขียนนวนิยายแนวพีเรียด-ดราม่า-สยองขวัญ ของ จุลลดา ภักดีภูมินทร์ ซึ่งถูกนำมาผลิตเป็นละครโทรทัศน์แล้ว 2 ครั้ง ซึ่งทั้งสองครั้งก็ได้รับความนิยมถล่มทลาย ด้วยเส้นเรื่องที่ผสมผสานเรื่องชนชั้น การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การพยายามเอาชนะความอาฆาตพยาบาทของกันและกัน ระหว่างคุณหญิง กับ “อีแพง” หญิงสาวในเรือนเบี้ย ที่หมายจะมักใหญ่ใฝ่สูง จนเธอต้องจบชีวิตลงด้วยการเป็นปีศาจร้าย ผีร้ายที่คอยคุกคามตัวละครทุกตัวในเรื่อง จนนำไปสู่บทสรุปที่กลายเป็นโศกนาฎกรรมความรักอันหดหู่ ในบ่วงเวรบ่วงกรรมตั่งต่าง

    เอกลักษณ์อันโดดเดนของบ่วง คือการที่ตัวละครอย่างอีแพง เป็นผีที่ถ่ายทอดความเกลียดอย่างตรงไปตรงมา ขึ้นกูมึงกันอย่างออกอรรถรส ความแค้นกินเวลายาวนาน ไม่ยอมเป็นอื่น รวมถึงการพูดถึงชนชั้นที่ถูกกดทับ ความรักที่ไม่อาจเป็นจริงด้วยกำพืด สิ่งเหล่านี้เลยขับชูให้อีแพง กลายเป็นผีที่ได้รับความนิยมสูง กะเทยทั่วฟ้าเมืองไทย ต่างต้องเคยแต่งเป็นอีแพงกันบ้างแหละค่ะ

    1. แม่นาคพระโขนง

    คงไม่ต้องพูดกันมาก กับความเกรียงไกรของผีไทยขึ้นแท่นอันดับหนึ่งเรื่องนี้ ลำพังเฉพาะละคร แม่นาค ถูกผลิตไปทั้งสิ้น 8 ครั้งค่ะ ส่วนภาพยนตร์เหรอ โอ้โห คงต้องขอกระดาษทดกันบ้าง เพราะมากมายจนนับไม่หมดแล้ว และทุกครั้ง ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามไม่น่าเชื่อ โดยเรื่องราวก็เล่ากันจนเปื่อย เกี่ยวกับผีแม่นาคกับพ่อมาก ที่จากกันเพราะพ่อมากต้องไปออกรบ ส่วนแม่นาคที่อุ้มท้องอยู่ลำพัง ก็มาตายเพราะคลอดลูก ความห่วงหาอาวรณ์ยังคงอยู่ เมื่อเธอไม่ยอมไปสู่สุขคติ ยังคงตามหลอกหลอนเพราะอาวรณ์ผัวอยู่ที่คุ้งน้ำพระโขนง เป็นที่หวาดผวาของคนไปทั้งบาง จนกระทั่งหลวงพ่อโตได้มาเทศนาธรรมกำราบแม่นาคไว้ได้นั่นเอง

    แม่นาค นับเป็นต้นตำรับผีไทย ที่คงเส้นเรื่องเก็บรายละเอียดความไทยแท้ไว้ได้ทุกเม็ด ชนิดลงมิลลิเมตรได้เลยแม่ ทั้งการเป็นผีจากการคลอดลูก ซึ่งถือเป็นช่วงที่น่ากลัวชี้เป็นชี้ตายของหญิงไทยสมัยก่อน แต่กระนั้น ในฐานะหญิงไทย ก็ต้องซื่อสัตย์กับผัวไปจนตัวตาย แต่ความตายก็มิอาจพรากได้จริง ก็ยังคงต้องมารอพี่ที่ท่าน้ำอยู่ทุกวันเลยนั่นแล

    ผีทั้ง 10 ของละครไทย ดูเผินๆ เหมือนจะเต็มไปด้วยความต่าง แต่หากเรามองดูดีๆ จะเห็นว่าแทบทุกเรื่องล้วนเป็นผี “ผู้หญิง” ทั้งสิ้น ซึ่งเหมือนจะเป็นมุมมองที่ผู้ประพันธ์ได้คิดว่า ผู้หญิงไทยนั้นไม่มีสิทธิมีเสียงเรียกร้องอะไร ต้องรอตายไปซะก่อน ถึงจะอาละวาด แก้แค้นได้สมใจ หรืออาจจะมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่มีอารมณ์มากกว่าผู้ชาย ตายไปความโหยหารุนแรงจึงมีมากกว่า ซึ่งนับเป็นค่านิยมแบบไทยไทยที่มองผู้หญิงไว้ผ่านเรื่องราวสยองขวัญเอามากๆ ความน่ากลัวผ่านผู้หญิงนี้ก็ไม่ได้อยู่แค่ในละคร เพราะเหล่าคนเสพย์เอง หากเราลองหลับตานึกถึงผี ก็มักจะวนเวียนอยู่กับผีผู้หญิงชุดขาว ไม่ก็นางรำ นางละครอยู่ร่ำไป

    แต่ว่าบาปค่ะคุณ ผีไทยนี่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ากลัวเสมอนะคะ ต้องให้ ต้องถือเป็นของดีเด้อ

     

    เหยี่ยวเทย รายงาน

    อัลบั้มภาพ 45 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 45 ภาพ ของ ส่อง 10 ผีไทย ในโลกละคร