"วัยแสบสาแหรกขาด 2" พร้อมขยี้ 5 ปมใหญ่ สะท้อนปัญหาเด็กในสังคม

"วัยแสบสาแหรกขาด 2" พร้อมขยี้ 5 ปมใหญ่ สะท้อนปัญหาเด็กในสังคม

"วัยแสบสาแหรกขาด 2" พร้อมขยี้ 5 ปมใหญ่ สะท้อนปัญหาเด็กในสังคม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลับมาอีกครั้งสำหรับละครน้ำดีตีแผ่ปัญหาสังคมอย่างละคร วัยแสบสาแหรกขาด 2 หลังจากกวาดรางวัลมาแล้วอย่างมากมายในภาคแรก ครั้งนี้ผู้จัดหนุ่มไฟแรง เอิน-ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล ขอยกระดับความเข้มข้นศึกษาทุกปัญหาแบบเจาะลึกเข้มข้นมากกว่าภาคแรก คัดออกมา 5 ปัญหาหลัก แถมยังทำการออดิชั่นคัดจากเด็กหลายพันคนกว่าจะได้เด็กที่มีความสามารถมาถ่ายทอดบทบาทนี้ให้สื่อถึงผู้ชมได้อย่างถึงอารมณ์!

โดยได้ ฟลุท-ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์ รับบท ใบพัด ที่มีอาการ /ออทิสซึ่ม (Autism) , ยอร์ช-ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ รับบท บุ๊ค ที่มีอาการ /ติดเกมส์ (Gaming Addiction) , พลอย ศรนรินทร์ รับบท ไออุ่น ที่มีอาการ/ความ หลากหลายทางเพศ (Gender Creative), ลิลลี่-ณิชภาลักษณ์ ทองคำ รับบท วีหนึ่ง ที่มีอาการ/มนุษย์สายท็อป(Perfectionnism), เซนท์-ธนพัชญ์ จันทศร รับบท พีท ที่มีอาการ /เด็กกรี๊ด (Temper Tantrum) ที่พร้อมให้ทุกคนให้พิสูจน์ฝีมือกัน

ส่วนพระเอกนางเอกของเรายังคงเป็น จ๊ะ-จิตตาภา แจ่มปฐม ในบทบาทของ ครูทราย ที่อุทิศตนเต็มที่เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ พร้อมเดินเคียงข้างไปกับ อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุท กับบทบาทของ ผู้อำนวยการโรงเรียน ผอ.กร ที่มุ่งมุ่นในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ความพิเศษของภาคนี้ไม่เพียงเจาะลึกปัญหาเด็ก ยังจะได้เห็นมุมมองความรักของพระนางกันอีกด้วยเข้มข้นไม่แพ้กัน

เปิดเทอมแรกนี้ “ครูทราย” จะได้ทำงานเป็นครั้งแรกโดยมีตำแหน่งภรรยาของ ผอ. พ่วงท้าย! นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วยนักแสดงมากความสามารถคุณครูอีก 3 ท่านที่จะมาคอยช่วยแก้ปัญหาของเด็กๆ นิว ชัยพล ในบทบาทของ ครูป้องเกียรติ ครูแนะแนวช่วยโครงการพิเศษพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนในการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ นิ้ง ศรัณยา รับบท ครูชิชา ครูสาวจบใหม่ที่มาจากต่างจังหวัดทำงานเป็นครั้งแรก และ รัดเกล้า อามระดิษ นักแสดงมากฝีมือ มาในบทบาทของ ครูพรรณี รองผอ.ฝ่ายวิชาการ ครูเจ้าระเบียบเข้มงวด

เอิน ณิธิภัทร์ "สำหรับละครเรื่อง วัยแสบสาแหรกขาด 1 ที่ทำไปนั้นกระแสตอบรับดีมีคนชอบอีกด้านนึงก็มีคนบอกปัญหายังมีอีกเยอะนะอยากให้เราทำต่อ เราก็ตกใจนะว่ายังมีปัญหาอีกเยอะเลยเหรอ และถ้าเราปล่อยให้จบไปและไม่หยิบมาทำอีกก็คงจะไม่ได้ เพราะเราคิดว่าสิ่งไหนที่เราช่วยได้สิ่งไหนที่เราอยากนำเสนอและช่วยหาทางออกให้ได้ก็อยากช่วยและตัดสินใจทำโครงการ สองขึ้นมาครับ ก็ได้คุยกับทีมงานและทีมเขียนบทและที่ปรึกษาว่าควรจะเป็นเคสไหนดี

พอได้ไปศึกษาหาข้อมูลได้ไปสัมผัสเราก็อยากจะหยิบยกเคสที่ใกล้ตัวพวกเรา แต่เราจะทำยังไงให้คนเข้าใจคีย์หลักเลยจะเป็นว่า “การฟังเสียงที่อยู่ข้างใน” เพราะว่าบางเคสเหล่านี้คนรอบข้างต้องสังเกตและเข้าใจ จนได้มาทั้งหมด 5 ประเด็นทุกอย่างใหม่หมด ทั้งเคสใหม่ นักแสดงใหม่เรียกได้ว่าเปิดโลกของเราเหมือนกัน การรีเสิร์ชแน่นมากเพราะคอนเซ็ปของเราคือไม่ได้ทำแค่สะท้อนสังคมแต่เรานำเสนอแนวทางให้กับสังคม อาจจะไม่ใช่ 100% แต่เรายังเชื่อว่าสิ่งที่เรานำเสนอยังมีทางให้เราไปบอกให้ผู้ชมเข้าใจว่ายังมีทางนะปัญหายังมีทางออก"

จ๊ะ จิตตาภา "ทรายในภาคนี้จะโตขึ้นมากจากภาคที่แล้วมากค่ะ ทั้งในแง่ของชีวิตส่วนตัว และในแง่ของชีวิตการทำงานด้วย ในเรื่องของความรักเราเหมือนเป็นตัวแทนของคู่สามีภรรยา ชีวิตคู่ก็จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง มีปัญหามีเข้ามา ส่วนในเรื่องของที่โรงเรียน แน่นอนเรามีเคสเด็กที่เราต้องดูแลอยู่แล้วค่ะ ความยากของเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องบทค่ะ บทพูดยากมาก เพราะเป็นศัพท์ทางวิชาการเยอะ แล้วเราต้องพูดด้วยความเข้าใจจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะดูเหมือนท่องบทมากๆ และจะมีภาษาอังกฤษแทรกตลอด เป็นศัพท์ที่ต้องพูด มี 5 เคส เราต้องพูดทั้ง 5 เคส แล้วมีว่าบางวันที่ทั้ง 5 เคสมาเจอกันในวันเดียว จ๊ะแบบสมองกลับมากค่ะ

แต่ถ้าเวลาที่คุณครูทั้งหมดมาเจอกัน บทจะโยนไปทางพี่ต๊งเหน่งเยอะ (ยิ้ม) เพราะเขาจะเป็นตัวแทนในเรื่องของการศึกษาไทย แต่ที่จะมีเวลาเข้าฉากกับผู้ปกครอง เข้ากับนิว-ชัยพล เหมือนเราตอบวิชาการใส่กัน จำยากมาก อีกอย่างหนึ่งที่ยากคือ การเล่นกับน้องพลอยค่ะ ยากที่จะไม่ร้องไห้ น้องพลอยเขามาเต็มมาก อินเนอร์เขาส่ง เวลาเราเล่นด้วยกันกับน้องเราจะรู้สึกว่าสนุกมาก เพราะเขาเป็นคนเล่นตาเป็น แล้วเวลาส่งคำพูดตอบโต้กัน รวมถึงการมองตากับน้องเป็นเรื่องยากมากที่เราจะไม่ร้องไห้ตามเขา แล้วความเป็นทรายทิพย์จะต้องไม่ร้องไห้ต่อหน้าคนที่เรากำลังบำบัดอยู่ ก็ต้องมีการหลุบตาบ้าง เหลือบตามองบน ทำยังไงก็ได้ไม่ให้น้ำตาไหล มีเด็กกรี๊ด, มนุษย์สายท็อป, ออทิสซึ่ม, ติดเกม และความหลากหลายทางเพศ

5 เคสนี้ยากกว่า 5 เคสแรก การแก้ยากขึ้นมาก จ๊ะว่าภาคนี้ยากขึ้นจริงๆ ทุกอย่างลึกขึ้นกว่าเดิม ปัญหา 5 เคสที่เลือกมาในภาคนี้ละเอียดอ่อนมากขึ้น อย่างเคส ออทิสซึ่ม เราโชคดีเพราะว่าเราได้ไปโรงเรียนเฉพาะทางจริงๆ เราได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้ก่อนทั้งตัวของครูทุกคน และตัวของน้องฟลุทด้วย ได้ไปเห็น ได้ไปอยู่ ได้ไปสัมผัส ทุกอย่างก็ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆ ทุกอย่างจะต้องมีการตีความแล้วตีความอีกว่าได้ไหม? ถูกไหม? จ๊ะชอบฉากที่เขาโยกตัวอยู่หน้าบ้าน หลังเขากระแทกกับกำแพง วันนั้นฟลุทกระแทกหลายเทคมาก
ทำให้เรารู้สึกว่า น้องใช่มากๆ เขาเล่นด้วยความเป็นออทิสซึ่มจริงๆ ไม่ได้เป็นแอคติ้ง รู้สึกว่าเขาเอาออกมาจากอินเนอร์จริงๆ หรืออย่างเด็กเด็กติดเกม ได้น้องยอร์ชมาแสดง จะค่อนข้างไปในทางรุนแรง มีความก้าวร้าว ต้องไปดูในละครว่าจะมีวิธีการแก้ยังไงบ้าง แต่ว่าเป็นตัวละครที่ถูกแก้ตั้งแต่แรกๆ เลยของเรื่อง เพราะว่าเขามาถึง ก็อาละวาด ฝาดงวงฝาดงา เขาก็จะถูกแก้ก่อนเพื่อนๆ แต่กว่าจะแก้สำเร็จก็พร้อมๆ กัน

เวลาเราพูดว่าเด็กติดเกม เราอาจจะเห็นภาพเด็กบ้าเล่นเกม จริงๆ แล้วอาการเหมือนเด็กติดยา ติดจนแบบไม่ไหวต้องมีอะไรอยู่ในมือ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทั้งตัวน้อง แล้วก็ตัวเราด้วย เพราะว่าเด็กประเภทนี้เขาจะมีความก้าวร้าวอยู่ ในเรื่องของการบำบัดเราไม่รู้ว่าเขาจะทุ่มเก้าอี้ใส่เราเมื่อไร มีความเดาทางตัวละครไม่ถูกเหมือนกันว่า อารมณ์ดีหรือว่าฉุนเฉียว ฉากที่เข้ากับน้องแล้วรู้สึกว่าผู้ชมห้ามพลาดเลย คือ ฉากที่เข้าไปพูดคุยกับเขา อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง ตั้งแต่อ่านบทเราก็น้ำตาไหล เป็นการพูดถึงปัญหาของน้อง คิดอยู่เหมือนกันว่าตอนเล่นน้องจะยังไงนะ พอเล่นแล้วก็มาเต็มคะทำให้ข้างหน้ามอนิเตอร์เขาร้องไห้ได้ อยากจะให้ดูต่อ เพราะว่าภาคนี้ตัวละครที่เคยอยู่ในภาคแรกโตขึ้นหมดเลยในเรื่องของการใช้ชีวิต แม้แต่เรื่องของการทำงานด้วย แล้วก็มี 5 เคสใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากๆ

รวมถึงเรามีนักแสดงใหม่เพิ่มขึ้นมาที่จะมาสร้างสีสันให้เรามากมายเหลือเกิน ครบรสจริงๆ เพราะจะมีดราม่าแบบที่รู้สึกอุ่นหัวใจ มีดราม่าในลักษณะที่เป็นแบบครอบครัวที่ไม่เข้าใจ ซึ่งจ๊ะเชื่อว่าจะต้องโดนใครหลายๆ คนแน่นอน ดูแล้วรู้สึกว่า ครอบครัวเราก็เป็นแบบนี้ ที่พูดมาไม่ได้บอกว่าจะเครียดอย่างเดียวนะคะ จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊กในตัวละครแต่ละตัวด้วย สำหรับใครที่เป็นแฟนภาคแรกก็น่าจะชอบภาคสองต่อแน่นอน ฝากสำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคแรกก็อยากให้ลองเปิดใจให้เรานิดหนึ่ง ถือว่าเป็นละครที่สร้างสรรค์สังคมแบบจริงๆ อยากให้ดูเพื่อที่เราจะได้เห็นปัญหาว่ายังมีอีกมากมายเลย อยากให้ทุกคนช่วยกันเพื่อที่จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น โดยเฉพาะผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมีลูก ตั้งแต่ลูกเล็กๆ ไปจนถึงวัยรุ่นที่รู้สึกว่า ไม่รู้ว่าจะรับมือกับลูกยังไง ไม่รู้ว่าสิ่งที่ลูกเป็นคืออะไร บางทีละครเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณได้เห็นอาการต่างๆ ที่ลูกเป็นว่าใช่ไหม แล้วมีวิธีแก้ไขยังไง ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ อยากให้ดูกันเยอะๆ ค่ะ"

อาเล็ก ธีรเดช "รู้สึกถึงอำนาจครับ ไม่ใช่ก็หน้าที่ที่มันยิ่งใหญ่ขึ้นมันก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มันยิ่งใหญ่กว่าครับผม เอ้ะนี่มันสไปร์เดอร์แมนปะเนี่ย(หัวเราะ)แต่จริงๆ พอหน้าที่การงานมันสูงขึ้น ความรับผิดชอบมันก็ต้องยกขึ้นตามไป ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีคุณแม่คอยช่วยตอนที่คุณแม่เป็น ผอ.คุณแม่คอยคุมทุกอย่างพอมาเรื่องนี้ พอมาภาคนี้เราต้องเป็นคนคุมทุกอย่างเอง ก็กลายเป็นโรงเรียนของเราจริงๆ แล้ว เด็กๆ ของเราจริงๆ โรงเรียนของเราจริงๆ แล้ว ด้วยความที่ หนึ่งคือเรื่องของบทที่มันไม่ใช่บทที่เราพูดคำในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ด้วยความที่เป็น ผอ.อยู่ในโรงเรียน มีการประชุมบ่อยๆมันไม่ใช่แบบการพูดเล่นแบบสไตล์อาเล็กอยู่แล้ว มันมีอะไรที่วิชาการ มีศัพท์ทางเทคนิค มีศัพท์ทางวิชาการเยอะขึ้น ก็บทเนี่ยเราก็ต้องท่องจริงจังอยู่แล้ว และด้วยความเข้มข้นของบทการที่เราต้องเข้าไปใส่ใจเด็กหรือว่าแม้แต่ตอนที่เราต้องทะเลาะกับทราย มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเยอะ ซึ่งก็ต้องทำการบ้านเยอะเหมือนกันครับผม ตอนแรกก็กดดันด้วยความที่มันเป็นภาคต่อของภาคแรกซึ่งภาคแรกเราก็เล็กรู้สึกว่าประสบความสำเร็จนะ กับการที่คนมองเห็นถึงประโยชน์ของละครเรื่องนี้ครับผม ซึ่งพอมันมาเป็นภาค 2 ตอนแรกเราก็กดดันเหมือนกัน ได้เห็นบทได้เห็นการแสดงของทุกคนในเรื่องได้เห็นทั้งหมดนี้แล้วก็หายห่วง แล้วก็ไม่กดดันแล้วเพราะว่าเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันดีมากจริงๆ มันต้องให้อะไรกับคนดูมากๆเล็กว่ามันต้องให้มากกว่าภาคแรกแน่ๆ ก็เลยไม่ห่วง"

นิว ชัยพล "ครับผมพูดง่ายๆ เลยคือโดนพี่เอิร์นหลอกมาครับ พี่เอิร์นบอกว่าผมจำได้แม่นเลยพี่เอิร์นโทรมาแล่วบอกว่า นิวใช่มั้ยครับมีบทเรื่องนึงครับวัยแสบสาแหรกขาดภาค 2 ผมก็รู้อยู่แล้วล่ะภาคแรกเพราะผมไปงานประกาศรางวัลวัยแสบก็จะได้ชิงตลอดแล้วก็ได้รางวัลด้วย เราก็แบบ เห้ย น่าสนใจ เล่นเป็นครูที่แบบประมานนี้ๆ เป็นครูที่อาจต้องวิชาการหน่อยเป็นศัพท์วิชาการหน่อย อาจจะไม่ได้มาทุกตอนนะ แต่ว่าเหมือนพูดแล้วน่าสนใจ พูดแล้วน่าเชื่อถือเพราะเป็นครูที่มีศัพท์วิชาการหน่อย เป็นการศึกษาแล้วก็นำมาสอนเป็นวิธีการศึกษาแบบใหม่ เราก็แบบเออน่าสนใจก็อยากเล่นเลย

ตอนนั้นก็มีหลายเรื่องนะติดต่อมาแต่ว่าเราเป็นคนที่ชอบเล่นละครทีละเรื่อง ก็จะเลือกเรื่องที่เราสนใจมากที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็แบบฟังปุ๊บรู้สึกแปลกดี แตกต่างดีแล้วก็ไม่เคยเล่นแบบนี้ก็เลยคิดง่ายเลยครับเล่นเรื่องนี้ละกัน วัยแสบสาแหรกขาดโครงการ 2 แต่พอมาอ่านบทจริงๆแล้วที่บอกว่าโดนหลอกก็เพราะว่า ทุกฉากครับแทบจะทุกฉากทุกตอน และก็แทบจะทุกฉากที่มีผมบทยาวมาก เป็นหน้าครับเยอะมาก แล้วก็ศัพท์แต่ละศัพท์เนี่ยเป็นวิชาการทั้งนั้น แล้วก็ไม่สามารถพูดแบบปกติได้ เพราะว่าเราต้องรับผิดชอบเคสเด็กพิเศษ 2 เคสหลักๆ คือหนึ่งคือเด็กที่มีภาวะออทิสซึมเราก็ไม่สามารถพูดหรืออธิบายเหมือนกับเราพูดกับคนปกติได้ เพราะว่าเด็กที่มีสภาวะออทิสซึมเขาจะมีการรับรู้ พฤติกรรมหรือวิธีคิดแตกต่างจากเรา เราจึงต้องมีวิธีการสอนหรือวิธีการพูดที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไป

รวมถึงอีกเคสนึงคือเคสเด็กกรี๊ดและผมก็เป็นเหมือนครูประจำชั้นของห้องป.1/6 ด้วย แค่พูดว่าเด็ก ป.1/6 ก็ว่ายากแล้วครับในห้องก็ประมาน 20 คนได้ครับ ผมก็ต้องรับมือกับเด็ก 20 คนนั้น รวมถึงอธิบายหรือสอนในแต่ละเรื่องให้เด็กทุกคนเข้าใจได้ และเด็กทุกคนครับก็จะมีปัญหาเป็นของตัวเองที่จะอยากรู้มากในทุกๆ เรื่อง แล้วเด็ก 20 คนอยู่ด้วยกันผมก็แทบจะตอบคำถามเกือบไม่ทันครับ เพราะทุกคนจะมีคำถามทุกๆ 5 วินาทีมาถามครูป้อง ครูป้องก็ต้องตอบให้ได้เราก็ต้องหาคำตอบมาตอบเด็กๆ ให้ได้ว่าคำตอบในคำถามของเค้าเป็นยังไง แล้วบางคนไม่เข้าใจเราก็ต้องอธิบายให้ได้เยอะๆ อธิบายไปเรื่อยๆ คือมันเยอะมากอ่ะ รวมถึงรับผิดชอบเด็กพิเศษอีกคนนึงที่เป็นเด็กกรี๊ดด้วยเราก็ต้องมีวิธีการพูดที่แตกต่างกันไปอีกเพราะว่า เค้าเป็นเด็กที่ได้รับการสปอยล์มาตั้งแต่เด็ก คือปัญหาของเด็กบางทีมันไม่ได้เกิดขึ้นที่ตัวเด็ก มันเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมและสิ่งแวดล้อมที่เค้าโตมาตั้งแต่เด็กจนมาถึงปัจจุบันนี้ เค้าอาจจะโดยสปอยล์มาโดยตายาย แม่สปอยล์มาไม่มีเวลาเลี้ยง ทุกสิ่งทุกอย่างมันก่อให้เกิดการที่เค้าเป็นแบบนี้ได้ แล้วพอเค้าเข้ามาในโรงเรียนแล้วเจอคำว่าไม่ครั้งแรกปุ๊บ! โอ้โหกรี๊ดปรี๊ดแตกครับ เราเป็นครูเราก็ต้องค่อยๆ หาวิธีและทำให้เค้าเย็นลง แล้วก็ทำให้เค้ากลับมาเป็นปกติให้ได้เร็วที่สุดครับ"

เรียงว่าแต่ละเคสใหม่ในภาคนี้ ทำให้ละครน่าติดตามสุดๆ แถมการันตีด้วยนักแสดงและเนื้อหาเรื่องราวสะท้อนสังคม ที่จะทำให้คุณได้รับประโยชน์และความสนุกจากละครเรื่องนี้ไปเต็มๆ ติดตามละคร วัยแสบสาแหรกขาด 2 ได้ทุกวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3HD ช่อง33 เริ่มตอนแรก ศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2562 นี้

 

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ "วัยแสบสาแหรกขาด 2" พร้อมขยี้ 5 ปมใหญ่ สะท้อนปัญหาเด็กในสังคม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook