BEN-HUR เตรียมถูกหยิบเอามาปัดฝุ่นรีเมค

BEN-HUR เตรียมถูกหยิบเอามาปัดฝุ่นรีเมค

 

ข่าวล่าสุดได้มีการประกาศออกมาอย่างแน่ชัดแล้วว่าทางสตูดิโออย่าง MGM และ Paramount Pictures จะหยิบงานคลาสสิคขึ้นหิ้งอย่าง Ben-Hur เอามาปัดฝุ่นทำใหม่อีกครั้งโดยการวางตัวผู้กำกับไว้ที่ ทิเมอร์ เบ็กแมมบีทอฟ ซึ่งผ่านการกำกับ Wanted และ Abraham Lincoln: Vampire Hunter มาแล้ว โดยสตูดิโอวางกำหนดวันเวลาในการเข้าฉายไว้คร่าวๆคือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปี 2016 

 

 

Ben-Hur นั้นเคยเป็นนวนิยายของ ลีว วอลเลส ที่ถูกประพันธ์ขึ้นในปี 1880 มาก่อนในชื่อหนังสือว่า Ben-Hur: A Tale Of The Christ และเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1959 กำกับโดยวิลเลียม ไวเลอร์นำแสดงโดยชาร์ลตัน เฮสตันและแจ็ค ฮอว์กกินส์ตัวหนังสามารถคว้ารางวัลออสการ์ได้ถึง 11 รางวัลอาทินักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ชาร์ลส์ตัน เฮสตัน รวมทั้งสาขาหนังยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกด้วย

 

 

Ben-Hur บอกเล่าเรื่องราวของ จูดาร์ เบนเฮอร์ เจ้าชายชาวยิว ที่ต้องพบกับความยากลำบาก เมื่อ เมสซาลา ทหารของโรมัน เพื่อนของเขาในวัยเด็ก ได้รับคำสั่งให้มาปกครองเมืองจูเดียของเยรูซาเรม ได้ขอให้จูดาร์ เบนเฮอร์ ช่วยตามล่าตัวพวกต่อต้านจักรพรรดิ์โรมัน แต่เขาปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ทำให้เมสซาลาไม่พอใจอย่างยิ่ง เมื่อแม่ทัพคนใหม่ถูกส่งเข้ามาปกครองเมือง เยรูซาเรม ขณะที่กำลังเดินขบวนอยู่นั้น น้องสาวของเบนเฮอร์ได้ทำกระเบื้องหล่นใส่แม่ทัพโดยไม่ตั้งใจ เมสซาลาจึงได้โอกาสใส่ร้ายเขาด้วยข้อหาพยายามฆ่าข้าหลวงคนหนึ่ง และส่งเบนเฮอร์ไปเป็นทาสในกองทัพเรือในระยะเวลากว่า 3 ปี แต่โชคชะตาได้ช่วย เบนเฮอร์ เมื่อเขาได้ช่วยแม่ทัพเรือท่านหนึ่งไว้ ก่อนที่ต่อมาแม่ทัพท่านนั้นได้รับเบนเฮอร์เป็นบุตรบุญธรรมของตน เบนเฮอร์ได้รอวันที่จะได้ชำระบัญชีแค้นกับเมสซาลา เพื่อจะได้กลับไปหาแม่กับน้องสาวและเอสเธอร์หญิงที่เขารักสุดหัวใจ

 

 

เนื้อหาของหนังเบนเฮอร์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาด้วยเนื่องจากมีการแทรกสอดเรื่องราวของนักเทศน์หนุ่มจากเมืองนาซาเรธเอาไว้ ซึ่งก็คือพระเยซูนั่นเอง โดยนักเทศน์คนนี้ก็เป็นกุญแจสำคัญที่คอยช่วยเหลือเบนเฮอร์อยู่เสมอ ในหนังเวอร์ชั่นปี 1959 นั้นมีฉากไฮไลท์ของเรื่องก็คือฉากแข่งขันรถม้าศึกที่จะใช้มาลากรถถึง 4 ตัว ซึ่งสนามที่ใช่ประลองความเร็วนี้ก็มีความน่าตื่นตาตื่นใจมากเมื่อฉากนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างเบนเฮอร์และเมซซาลาที่ตราตรึงผู้ชมตั้งแต่ยุคนั้นจนกระทั่งปัจจุบัน