จั๊กจั่น-โบ คู่แล้วไม่แคล้วกัน

คู่แล้วก็ไม่แคล้วกัน ประโยคนี้น่าจะเหมาะกับคู่รักของนางเอกสาวหน้าหวาน จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข และนักร้องหนุ่ม โบ-ธนากร ชินกูล แห่งวงโอโซน เพราะคู่นี้เคยเลิกรากันไปถึงสองครั้งสองครา แต่สุดท้ายก็กลับมารักกันอีกครั้ง คอลัมน์ เปิดประตูใจ ฉบับนี้จึงรีบคว้าตัวมาคุย ถึงต้นสายปลายเหตุของการบอกเลิกและการรีเทิร์นรักครั้งใหม่..... ความรักของเราเริ่มก่อตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? โบ : ที่รู้จักเพราะว่าเพื่อนบอกว่ามีคนหน้าตาเหมือนเรา แล้วก็บอกว่าเป็นคนนี้ ก็เลยมาดู เห็นหน้าเขาแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนนั้นเพื่อนผมเค้าชอบจั๊กจั่นด้วย ครั้งแรกที่เจอก็ไม่รู้สึกว่าหน้าเหมือนนะ หลังจากที่เจอกันวันนั้นก็คุยกัน แล้วก็โทรฯ ไปหาไปคุยกับเขา จั๊กจั่น : รู้จักกับโบที่ ม.กรุงเทพ ตอนแรกเข้าไปเรียนมีคนบอกว่ามีพี่น้องหรือว่ามีฝาแฝดหรือเปล่า มีคนหน้าเหมือนเรามาก เรา ก็ถามหาว่าคนไหน พอมาเห็นแล้วก็ เออ... เหมือน ก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ตามประสาวัยรุ่นธรรมดา ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนตอนไหน? โบ : เริ่มจากการคุยเรื่องทั่วไป เรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เพราะว่าจั่นเขาอยู่กับแม่สองคน พี่ชายเขาอยู่เมืองนอก เขาก็คุยกับโบ มีเรื่องนิดหน่อยเขาก็คิดมาก เขาเป็นคนเก็บรายละเอียดเยอะ ซึ่งจริง ๆ มันอาจนิดเดียว พอคุยกันนานเข้าความรู้สึกมันเลยเปลี่ยน จั๊กจั่น : คือเหมือนเราเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้คุยกับเขาแล้วเหงา ก็จะโทรฯ ไปคุย บางทีมุมของเรามองแบบผู้หญิง ส่วนโบเขาเป็นผู้ชายเขาจะไม่คิดมาก คุยแล้วทำให้เราสบายใจ แล้วมาคบกันจริง ๆ ช่วงไหน? โบ : น่าจะเป็นช่วงที่เราทั้งคู่เตรียมจะเข้าวงการกันแล้ว ผมเริ่มทำงานเพลง ส่วนจั๊กจั่นก็ เริ่มที่จะมีงานละคร น่าจะเป็นช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิด จั๊กจั่น : ถ้ามาตกลงคุยกันว่าคบกัน ก็ประมาณช่วงเรียนปี 3 ค่ะ จั่นเริ่มเข้าวงการแล้วเป็นช่วงถ่ายละครเรื่องหน้าต่างสีชมพูประตูสีขาว ช่วงที่คบกันข่าวว่าห่าง ๆ กันไปพักนึง? โบ : ช่วงปี 3 แยกภาคเรียนจั่นต้องไปนอนหอที่รังสิต โบไปเรียนกล้วยน้ำไท คือแยกกันไปเลย บังเอิญยังไงไม่รู้โบโทรฯ ไปหาจั่น หลังจากนั้นก็กลับมาคุยกันอีก จั๊กจั่น : คือตอนคบกันก็ไปดูหนังไปกินข้าวปกติ แต่พอแยกภาคเรียน ก็จะห่าง ๆ กันไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เพราะอะไรจึงพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้น? โบ : ก็คุยกันมานาน และก็ไม่ต้องเรียนรู้นิสัย เพราะโบก็รู้เกือบทุกอย่างของจั่น แล้วจั่นก็รู้เกือบทุกอย่างของโบด้วย เพราะเราเป็นเพื่อนกันมาก่อนไงครับ ก็เลยโอเค ไม่ต้องตกลง เหมือนกลับมาคุยกันก็รู้สึกดีมีคนเป็นห่วง ช่วงหลังที่กลับมาคุย เขาจะโทรฯ มาถามอยู่ไหน ไปไหน อะไรต่ออะไร มันก็ดีกว่าไม่มีใครสนใจเราเลย มันรู้สึกดี ๆ แล้วต่อมามันก็รู้สึกชินกันไปเอง จั๊กจั่น : ก็รู้สึกว่าโบเป็นเพื่อนที่ดี คอยดูแลเรา ไปไหนก็จะเป็นห่วงเป็นใย คอยบอกว่าขับรถดี ๆ นะ ถามว่าเลิกงานกี่โมง ง่วงหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวคุยเป็นเพื่อนนะ อะไรอย่างเนี้ย มันก็รู้สึกดี ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ช่วงหลังก็มีข่าวว่าเลิกกันอีกครั้ง เป็นเพราะอะไร? โบ : มันน่าจะมาจากหลาย ๆ เรื่องครับ ช่วงนั้นห่างกันนานเหมือนกัน แต่เขาเหมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เวลาคิดถึงเพื่อนก็โทรฯ หา จั๊กจั่น : ก็ทั้งเรื่อง งานและเรียน แต่ว่าแม้จะห่างกันก็ยังคุยกัน แค่ไม่ได้คุยทุกวันเหมือนเดิม ถึงนานเราก็ยังได้โทรฯ คุยกัน เพียงแต่ไม่ได้เจอหน้าก็ไม่ถึงปีค่ะ มีมาเดินเจอกันที่สยามบ้าง เหมือนกับว่านึกถึงที ก็โทรฯ หา เป็นไงบ้าง หลังจากที่ห่างกันไปแล้วกลับมาคุยกันใหม่ เคยคุยกันมั้ยว่า ที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น? โบ : ก็เอาเรื่องเก่า ๆ มาคุยกันนะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สิ่งสำคัญ คือ ความเข้าใจกันมากกว่า เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่คบกัน ผมเห็นว่าเขาน่ารัก ผมก็เข้าไปจีบ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่หน้าตา เป็นความเข้าใจกันมากกว่า จั๊กจั่น : ก็คุยกันว่าถ้ามีปัญหาก็ต้องคุยกัน ถ้าโกรธก็ให้บอก อย่าปิด เพราะถ้าไม่อย่างงั้นก็ไม่รู้ ยิ่งเก็บ ๆ ไว้มันก็สะสมหลายเรื่อง อย่างที่ห่างกันไปก็มีคนเข้ามาจีบ แต่เขาไม่เหมือนโบ ไม่มีใครดีกับเราเท่าโบ คุยกับใครก็ยังไม่ใช่ มันบอกความรู้สึกไม่ถูก เพราะอะไรถึงเลือกซึ่งกันและกัน? โบ : จั่นเขาเป็นน่ารัก ที่เลือกเขาเพราะว่าเขาเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรมาทำให้เขาเปลี่ยนไป อีกอย่างหนึ่งเราเคยห่างกันมาถึงสองครั้ง เจอปัญหามาด้วยกัน ก็เยอะ แต่รู้สึกว่าเขาจะอยู่เคียงข้างกับเราเสมอ และคุยกับจั่นแล้วจะมีความสุข ก็น่าจะเลือกเขานี่แหละ จั๊กจั่น : จั่นรู้สึกว่าโบเป็นคนที่จั่นคุยด้วยแล้วสบายใจ คุยแล้วหยุดทุกอย่างได้ ถ้าจั่นฟุ้งซ่านแล้วได้คุยกับโบ จะหยุดได้จริง ๆ ถ้าคุยกับคนอื่นก็ยังคิด ไม่เข้าใจ บางทีก็ยิ่งทำให้คิดมากขึ้น และโบเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยนแปลง สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย ภาพจาก : นิตยสาร In Magazine