ยูบีซี จัดแถลงข่าวยืนยันยินดีให้ทุกองค์กรเข้าตรวจสอบหลังถูกองค์กรคุ้มครองสิทธิมนุษยชนยื่นหนังสือถึงปปง.ช่วยตรวจเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่กรณีมีการเปลี่ยนแปลงกติกาโหวตนักล่าฝันที่ตกรอบไปแล้วกลับเข้าบ้าน ชี้แจงวุ่น 3 ใน 5 ของผู้ที่ถูกโหวตกลับจะไม่มีสิทธิ์รับรางวัลชนะเลิศ ยังคงมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องสำหรับรายการเรียลลิตี้โชว์ อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ปี 2 หลังผู้จัดอย่างยูบีซีได้ประกาศออกมาในช่วงต้นสัปดาห์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกติกาใหม่ด้วยการจัดให้มีการโหวตนักล่าฝัน 3 ใน 5 คนที่ตกรอบไปแล้วกลับเข้าสู่การแข่งขันได้อีก ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในเรื่องของการหวังผลทางธุรกิจของยูบีซี กระทั่งล่าสุดได้มีตัวแทนขององค์กรคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้ยื่นหนังสือไปยัง ปปง. ( สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ) เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบว่า การกระทำดังกล่าวของยูบีซีนั้นเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่เนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งไว้ก่อนล่วงหน้า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันนี้ ทางผู้บริหารของยูบีซีจึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวขึ้นทันที โดยนายองอาจ ประภากมล ผอ.อาวุโสฝ่ายการตลาดและการขายของยูบีซี ได้บอกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า หากทางปปง.จะตรวจสอบจริงทางยูบีซีก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบเนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริตใจไม่มีอะไรแอบแฝง พร้อมทั้งย้ำด้วยว่าเรื่องของรายได้จากการโหวตผ่านเอสเอ็มเอสนั้นเป็นรายได้ที่น้อยมากๆ ตอนนี้ทางเรายังไม่ได้รับเรื่องที่โดนตรวจสอบ เราต้องรอให้ทางโน้นเขาส่งเรื่องมา ยูบีซีก็ยังไม่รู้จะต้องทำอย่างไร มันเป็นสิ่งที่เกิดข้เพราะคนดูรายการก็มีทั้งคนผิดหวังคนเสียใจ แต่เรายืนยันว่าการที่เรามีการโหวตเข้า เรามีเจตนาแค่ให้เกมสนุก มันก็มีมุมที่ต้องหักเหเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ ไม่ได้มุ่งประโยชน์ที่ SMS เข้าใจว่าบางอย่างคนดูก็รับไม่ได้ ผมเคยบอกหลายครั้งแล้วว่ารายได้จาก SMS มันไม่เท่าไหร่หรอกครับ เราก็ให้คนดูที่โหวตเป็นคนตัดสินเมื่อก่อนเป็นโทรศัพท์ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปก็เป็น SMS แทน เราลงทุนไป 120 ล้านครับ กี่ล้านโหวตเราถึงจะได้คุ้มทุน เราได้ 3 บาท บริษัทมือถือได้ 3 บาท มันไม่ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เราคิดว่ามันต้องคุ้ม ถ้ายีบีซีเข้าข่ายผิดจริงคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป? ขออนุญาตให้ตรงนี้เกิดขึ้นก่อนค่อยบอก รายการที่ทำก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ชม ถ้าไม่มีคนดูเราก็ไม่ทำ โชว์ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าคนมองว่าเราเอาเปรียบจริง เขาก็ไม่ดู คนดูเป็นคนตัดสิน เราให้องค์กรต่างๆ ที่จะตรวจสอบเรามาตรวจสอบได้ เราเชื่อว่าเจตนาเราบริสุทธิ์แค่อยากให้เกมมันสนุก มันก็ไม่น่าจะมีอะไร ส่วนจำนวนโหวตเราขอสงวนไว้เป็นข้อมูลที่เราไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ แต่สำหรับผลป๊อปปูล่าโหวตเราเชื่อว่าเราโปร่งใส 100 % ส่วนกรณีของการเปลี่ยนกติกาที่หลายคนมองว่าไม่เป็นการยุติธรรมกับผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่นั้น นายอรรถพล ณ บางช้าง ผอ.อาวุโสฝ่ายรายการของยูบีซี ชี้แจงว่า ในส่วนของ 3 ผู้เข้าแข่งขันที่ได้โหวตกลับเข้าบ้านนั้นจะไม่มีสิทธิ์ก้าวขึ้นไปรับรางวัลชนะเลิศแต่อย่างไร แต่อาจจะได้รางวัลป๊อปปูล่าร์โหวต พร้อมกับยืนยันว่าที่ทำทั้งหมดก็เพื่อให้เกมสนุกเท่านั้น เรื่องยุติธรรมผมว่ายุติธรรมนะ 7 คนประสบการณ์มากกว่า แล้วการโหวตเข้า 3 คน ในรูปแบบที่เราซื้อจากเม็กซิโกมก็สามารถที่จะทำได้ เพราะเป็นการให้โอกาสเด็ก แต่ผมจะบอกว่ารางวัลที่ 1 ที่เป็นบ้าน หรือรางวัลชนะเลิศ เด็กที่โดนโหวตเข้าจะไม่มีสิทธิ์ได้นะ เพราะรางวัลพวกนี้จะล็อกให้เด็ก 7 คนแล้ว ส่วนเรื่องของฟีดแบ็กของเด็ก 7 คนเมื่อเขารู้ว่ามีคนได้โหวตกลับเขาน่าจะดีใจ เพราะว่าจุดประสงค์ของยูบีซีเราสอนให้เด็กรักกัน มีทีมเวิร์ค ไม่ได้สอนให้เขารู้สึกว่าต้องแข่งขันกัน ( แบบนี้จะคุยกับเด็ก 7 คนได้ไหมว่าเขาคิดยังไง? ) ตรงนี้เราคงยังให้คุยไม่ได้เพราะเขาไม่ทราบกระแสอะไรเลย ข้างนอกเป็นอย่างไรเขาไม่รู้ แต่ถ้าจบเกมแล้วให้คุยได้ เรื่องรางวัลผมเรียนตรงนี้ว่ารางวัลทั้งหมดที่เด็ก 7 คนที่อยู่ในบ้านจะได้นั้น เขาจะได้อยู่แล้วตามจริงของเขา ส่วน 5 คนนอกบ้านเขาก็จะมีรางวัลอีกอย่างหนึ่ง แต่ยืนยันว่ารางวัลที่ 1 ต้องเป็นของ 7 คนนี้แน่นอน ถ้วยทองจะมีแค่คนเดียว นอกนั้นก็จะเป็นถ้วยเงิน เกมมันก็ต้องมีเซอร์ไพรส์ครับ มันถึงจะสนุก เราทำโชว์บอกเลยว่ามีเจตนาแค่อยากให้โชว์มันสนุก และให้คนดูมีส่วนร่วม เราคนทำโชว์ สร้างละครแต่บอกหมดเลยว่านางเอกจะตายตอนท้ายแล้วละครจะสนุกหรือครับ สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย

อัลบั้มภาพ ยูบีซี ชี้แจงเพิ่ม คนโหวตกลับไม่มีสิทธิ์ชนะ ภาพที่ 3 / 3

ยูบีซี ชี้แจงเพิ่ม คนโหวตกลับไม่มีสิทธิ์ชนะ