"พิง ลำพระเพลิง"กับชีวิตที่ถูกขีดไว้...จากคนบนฟ้า

"พิง ลำพระเพลิง"กับชีวิตที่ถูกขีดไว้...จากคนบนฟ้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
"เพิ่งรู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน ที่ต้องใช้ชีวิตลำพัง ฟ้าทุกเช้ามันอ้างว้าง ตั้งแต่เธอจากไป ชีวิตต้องเดินก็รู้ แต่ไม่รู้จะเดินเพื่อใคร ดาวบนฟ้าคว้ามาได้ ใครจะร่วมชื่นชม......" หลายคนคงเคยได้ฟังและคุ้นหูกันบ้างแล้ว สำหรับเพลง "เขียนถึงคนบนฟ้า" เพลงประกอบภาพยนตร์รักโรแมนติก "โคตรรักเอ็งเลย" ที่แต่งโดยผู้ชายชื่อ "พิง ลำพระเพลิง" ที่มาวันนี้ไม่ได้เป็นแค่ นักแสดง พิธีกร นักเขียนบทและผู้กำกับละครโทรทัศน์ "ภูพิงค์ พังสะอาด" หรือ "พิง ลำพระเพลิง" ได้ก้าวข้ามความฝันสู่ความจริงด้วยการนั่งแท่นเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ของตัวเองได้เป็นผลสำเร็จ แถมยังนั่งตำแหน่งนักร้องเพลงประกอบหนังอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใครเลยจะรู้ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 ปี เขาได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากใครคนหนึ่งที่อยู่บนฟ้า โดยไม่มีใครสัมผัสถึงนอกจากเขาเท่านั้น ชีวิตนี้ไม่ขอเป็นตัวเลือก "พิง" เอ่ยปากยอมรับว่าวงจรชีวิตในวงการบันเทิงหมุนไปเร็วมาก นักแสดงทุกคนสามารถถูกเหวี่ยงออกจากวงการบันเทิงได้ง่าย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทำงานเบื้องหลัง สร้างหนังของตัวเอง โดยขอเป็นผู้เลือกแทนที่จะรอถูกเลือก ท่ามกลางความเชื่อว่าทุกอย่างดำเนินไปตามคำสั่งคนบนฟ้า "ผมรู้สึกว่าวงการนี้หมุนเร็วจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากอยู่วงการนี้นานๆ เราต้องเข้าไปอยู่แกนกลางของมันให้ได้ ดังนั้นการที่ผมจะเข้าไปอยู่ตรงแกนกลางได้ ต้องเริ่มไต่เต้าจากการเป็นผู้เขียนบทก่อน เพื่อที่จะดำเนินไปสู่การเป็นผู้กำกับ เพราะถ้าหากเราสามารถปั้นโปรเจ็กเองได้เราจะสามารถเกาะอยู่ใกล้แกนกลางบันเทิงได้ จะทำให้สถานภาพของเราไม่ต้องรอที่จะถูกเรียก แต่เราจะเป็นฝ่ายเรียกคนที่เข้ามาเลือกมากกว่า ทำให้ผมรู้สึกว่าผมขอเลือกเป็นผู้กำกับแล้วก็อาจมีเล่นเองบ้าง และทำในสิ่งนั้นด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ใครมาเรียก จริงๆ แล้วผมไม่ได้เลือกที่จะอยู่แต่เบื้องหลัง แต่เป็นเพราะสถานการณ์บังคับ เราไม่มีใครที่จะเลือกเราอยู่เบื้องหน้า ใจจริงก็อยากทำเบื้องหน้า ไม่อยากทำเบื้องหลังหรอก ขี้เกียจ แต่เบื้องหน้ามีคนต่อแถวเข้าคิวกันเยอะเหลือเกิน แล้วของแบบนี้ไม่ใช่ว่าเราไปต่อคิวแล้วจะได้อยู่เบื้องหน้า บางครั้งคนที่มาทีหลังก็สามารถแซงคิวได้ ด้วยเงื่อนไขปัจจัยที่เขาพร้อมกว่าเราทั้งอายุ หน้าตา เลยทำให้คิดว่าถ้าอยากอยู่เบื้องหน้า งั้นเรามาปั้นโปรเจกเองดีกว่า และเลือกโปรเจกที่เราอยากอยู่เองด้วย ผมว่าใครก็อยากอยู่เบื้องหน้า เพราะไม่ว่าจะชื่อเสียง เงินทองก็หลั่งไหลเข้าไปหา ที่ผ่านมาผมไม่ได้รู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้ถูกเรียก เพราะคิดว่าโอกาสยังมาไม่ถึง เดี๋ยวโอกาสมาก็คงมาเอง เพราะผมรู้สึกว่าชีวิตผมถูกดูแลโดยสิ่งที่เรามองไม่เห็นอยู่บนฟ้า จึงทำให้ผมคิดเสมอว่านาทีนี้ที่เรายังไม่ได้มา เพราะว่าบนฟ้าเล็งเห็นแล้วว่าถ้าเราได้มาตอนนี้ชีวิตจะไม่มีความสุข เลยยังไม่ให้มา ผมเชื่อว่าเขาจะให้มาในวันที่ให้แล้วเรามีความสุข ผมมองย้อนกลับไปในชีวิตของผมรู้สึกว่ามันงดงามตามกาลเวลา ผมจะจำได้แต่ความสุขจำความทุกข์ไม่ค่อยได้ อย่างตอนที่ เอาบทหนังเรื่องโคตรรักเอ็งเลยไปเสนอตามสตูดิโอต่างๆ ผมจำได้ลางเหมือนกันว่าท้อ จ๋อยแดก ที่ต้องถูกปฏิเสธผลงาน ตอนนั้นไปประมาณ 5 ที่ เป็นค่ายหนังท็อปไฟว์ของเมืองไทย ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลในการปฏิเสธด้วยความนุ่มนวลว่าหนังรักแบบนี้ไม่ขาย เศร้าไป แต่พองานหนังออกมาแล้วผมเลือกที่จะจำว่านี่คืออีกบทหนึ่งที่ทดสอบว่า ถ้าที่หนึ่งไม่ได้บอกว่าไม่ดี ไม่ได้หมายความว่างานเราไม่ดี แต่อาจไม่ถูกใจเขาเท่านั้น ก็เลือกที่จะจำในสิ่งที่สนุกสนานมากกว่า ซึ่งผมรู้สึกว่าคนข้างบนฟ้าเขามองไว้แล้วว่า ถ้าผมทำหนังเรื่องนี้กับบริษัทอื่น อำนาจการตัดสินใจจะไม่อยู่ในมือผม 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนทำกับบาแรมยู เพราะผมทำหนังกับค่ายนี้ สามารถเลือกพระเอก นางเอกได้ รวมถึงยังสามารถร้องเพลงประกอบเองได้ด้วยซ้ำไป แต่ถ้าไปที่อื่นเขาคงไม่ยอมให้ผมร้องเพลงประกอบเองหรอก "โคตรรักเอ็งเลย" ไทม์แมนชีนแห่งรัก ถึงแม้หนังเรื่องโคตรรักเอ็งเลย ได้นำเรื่องราวความรักจากชีวิตจริงของ "พิง ลำพระเพลิง" มาสร้าง แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น แต่กลับบอกว่าหนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์ให้กับทุกคู่รักได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างไรก็เอ่ยปากยอมรับว่าอาจมีบางส่วนของหนังที่ทำให้เขานึกย้อนไปถึงความรักในอดีต หนังเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนไทม์แมนชีนส่วนตัว "มันเหมือนชีวิตของพวกเราทุกคนมากกว่า ผมทำเรื่องที่ใกล้ตัวมนุษย์มากๆ ทำเรื่องเกี่ยวกับความรัก อาจมีบางส่วนที่ตรงกับผม และบางส่วนที่ตรงกับคุณ หลายๆ อย่างเกิดขึ้นกับชีวิตจริงของเรา แต่เรากลับลืมมันไป จวบจนผมทำมาเป็นหนังและอยู่บนจอภาพยนตร์ คนจึงนึกขึ้นได้ว่า สิ่งนี้เราเคยทำนี้ เพราะผมเลือกทำหนังที่ใกล้ตัวมากๆ จนอาจทำให้คุณนึกขึ้นได้ว่าไม่น่าจะทำอย่างนี้กับคนที่คุณรักเลย ทำให้เรามองเห็นตัวเองได้มากขึ้น เพราะเป็นหนังที่เกี่ยวกับความจริงของเราทุกคน มุมมองความรักของผม ผมว่าไม่มีรักจริงในโลกนี้หรอก เพราะเท่าที่ผ่านมาเมื่อรักกันเวลาตายจากกันก็เสียใจ ยอมรับว่า ผมทำหนังเรื่องนี้มาไม่ได้ทำให้ใคร ผมทำให้ตัวของผมเอง ซึ่งเคยมีคนบอกว่าหนังเรื่องนี้เหมือนไทม์แมชชีนส่วนตัวที่ผมนั่งได้คนเดียว ส่วนคนอื่นที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็จะได้ภาพที่ปรากฏอยู่บนจอเท่านั้นคือสิ่งที่มันสนุกสนานเฮฮา ได้ความอิ่มเอมใจกับบทบาทของตัวละคร แต่ไม่สามารถก้าวข้ามจอเข้ามาในหนังได้ มีผมคนเดียวที่ดูแล้วสามารถอินไปกับมันได้เพราะผมมีทาร์มแมชชีนส่วนตัว (หัวเราะ) แต่ในชีวิตจริงคนเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ในโลกของหนังผมเป็นพระเจ้าซึ่งสามารถดลบันดาลให้ทุกอย่างเป็นไปตามใจ อะไรที่ผมไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ในชีวิตจริง ในหนังเรื่องนี้ผมได้กลับไปแก้ไขจนหมดทุกอย่างแล้ว ผมอยากให้ผู้ชมได้รู้ว่าถ้าคุณสามารถกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้เหมือนผม คุณจะไม่ดูเลยหรือ พูดถึงขนาดนี้แล้วอย่าพลาดไปชมกันนะครับ ที่สำคัญในหนังเรื่องนี้ผมยอมให้ลูกชายสุดที่รักได้ลองเล่นด้วยถึงแม้จะมีบทนิดหน่อย แต่ก็ให้เขาได้ลองสัมผัสดู ใจจริงแล้วผมไม่อยากให้เขาเข้ามาในวงการเพราะมันเหนื่อย ให้เขาอยู่กับโลกความเป็นจริงดีกว่า แค่มีความรักจากผมกับย่าของเขาก็พอแล้ว ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ "พิง ลำพระเพลิง"กับชีวิตที่ถูกขีดไว้...จากคนบนฟ้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook