Sir Sean Connery กับ 10 ผลงานภาพยนตร์ที่โลกควรจดจำ

นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด เมื่อ Sir Sean Connery หรือ Sean Connery นักแสดงชาวสกอตชื่อดังที่เคยรับบทเป็นสายลับอังกฤษ 007 หรือภาพยนตร์แฟรนไชส์ James Bond คนแรก เสียชีวิตด้วยวัย 90 ปี

• Sir Sean Connery อดีตพระเอก James Bond เสียชีวิตด้วยวัย 90 ปี

Sir Sean Connery เจ้าของรางวัล Oscar มีภาพยนตร์ระดับตำนานให้เราได้ชมฝีมือการแสดงของเขามากมาย Sanook Movie จึงรวบรวมผลงานเด่นๆ ของเขามาให้ได้หาชมกัน

Sir Sean Connery กับ 10 ผลงานภาพยนตร์ที่โลกควรจดจำ

1. DR. NO (1962)

ภาพยนตร์เรื่องแรกเปิดตัวแฟรนไชส์มหากาพย์ของ James Bond สร้างคาแรกเตอร์ของสายลับ 007 เอาไว้ได้อย่างมีเสน่ห์ และเป็นภาพจำของคนทั้งโลกตั้งแต่เรื่องแรกที่ฉาย เพราะเป็นหนังแอคชั่นที่เต็มไปด้วยฉากแอคชั่นตระการตา ลุ้นระทึกไปกับภารกิจแต่ละด้าน และยังผสมกับอารมณ์ขันที่มาถูกที่ถูกเวลา ใครที่รัก James Bond จะต้องไม่พลาดต้นกำเนิดของ James Bond ในเรื่องนี้

2. FROM RUSSIA WITH LOVE (1963)

ภาคต่อของ James Bond ที่ยังกวาดคะแนนจากผู้ชมและนักวิจารณ์หนังได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของฉากแอคชั่นที่สมจริงสมจัง เต็มไปด้วยไหวพริบ ซีนแอคชั่นของนักแสดงที่คล่องแคล่วว่องไว และบรรยากาศในหนังสงครามเย็นที่ทำออกมาได้สมจริงเช่นกัน

 

3. GOLDFINGER (1964)

ต้นกำเนิดของประโยคยอดฮิตของ James Bond ที่ว่า "A martini. Shaken, not stirred" มาจากภาคนี้ เป็นการสื่อถึงตัวละคร James Bond ว่าเป็นสายลับมีสไตล์และเป็นรักความเพอร์เฟกต์ นอกจากนี้ยังเป็นอีกภาคที่โชว์ความหรูหรากับอุปกรณ์สุดล้ำสำหรับการเป็นสายลับ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ James Bond เป็นที่เรียบร้อย

 

4. THUNDERBALL (1965)

แม้ว่าจะมีบางกระแสมองว่า Thunderball ทำได้ไม่ดีเท่ากับภาคก่อนๆ แต่ James Bond ในภาคนี้โดยฝีมือการแสดงของ Sean Connery ก็ยังมีเสน่ห์ในแบบของเขาเอง รวมถึงเนื้อเรื่องของหนังที่จะคงพาผู้ชมร่วมลุ้นระทึก และผจญภัยไปกับสายลับสุดเท่คนนี้ได้เป็นอย่างดีเหมือนเดิม

 

 

5. YOU ONLY LIVE TWICE (1967)

ภาคนี้ได้รับคำชมอย่างล้นหลามในเรื่องของสถานที่ถ่ายทำที่สวยงามและน่าจดจำมากเป็นอันดับต้นๆ ของหนัง James Bond ทั้งหมด รวมถึงการใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และบทบาทของตัวร้ายในเรื่องที่ทรงพลังที่ทำให้ผู้ชมคอยเอาใจช่วยสายลับจนถึงฉากสุดท้าย

 

 

6. MURDER ON THE ORIENT EXPRESS (1974)

ลองหันมาดูผลงานอื่นๆ ของ Sean Connery กันบ้าง กับหนังลุ้นระทึกไปกับการฆาตกรรมอำพรางบนรถไฟขบวนมรณะที่นอกจากพล็อตเรื่องจะน่าสนใจชวนติดตามหาฆาตกรตัวจริงกันตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ยังมีนักแสดงมากฝีมือทั้ง Albert Finney, Lauren Bacall และ Ingrid Bergman ที่ยกขบวนกันมาสร้างเรื่องราว เหตุจูงใจในการฆาตกรรม และยังเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากผลงานของนักเขียนชื่อดังอย่าง Agatha Christie ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งอีกด้วย

 

7. THE UNTOUCHABLES (1987)

ภาพยนตร์ดราม่าที่ส่งให้ Sean Connery ได้รับรางวัล Oscar สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในปี 1987 เต็มไปด้วยฉากอารมณ์ลึกซึ้งกินใจ ผสมผสานไปกับฉากลุ้นระทึกท่ามกลางสถานการณ์การฆาตกรรมในเมืองชิคาโก้ นอกจากนี้ยังได้นักแสดงมากฝีมือทั้ง Kevin Costner, Robert De Niro และ Andy Garcia มาร่วมรับส่งอารมณ์ต่างๆ ได้ดี จนทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar มากถึง 4 สาขา และ Sean Connery ก็คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครอง

 

 

8. INDIANA JONES AND THE LAST CRUSADE (1989)

หนังแฟรนไชส์ Indiana Jones ในภาคนี้ได้รับคำชมในเรื่องของการใส่อารมณ์ขันเข้าไปมากกว่าภาคก่อนๆ ทำให้เนื้อเรื่องดูสนุก และยังได้รับความตื่นเต้นจากการผจญภัยของตัวละครที่ได้ทั้ง Sean Connery และ Harrison Ford นำแสดงอีกด้วย

 

 

9. THE HUNT FOR RED OCTOBER (1990)

นอกจาก James Bond แล้ว Sean Connery ยังฝากฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมในภาพยนตร์สายลับลุ้นระทึกขวัญในเรื่องนี้อีกเรื่องหนึ่ง และได้รับคำชมทั้งในเรื่องของการคัดเลือกนักแสดงที่เล่นได้สมบทบาทเป็นอย่างดี และเนื้อเรื่องที่ชวนให้ลุ้นกันจนตัวโก่งในแบบคลาสสิกที่ควรค่าแก่การชม

 

 

10. FINDING FORRESTER (2000)

ภาพยนตร์ที่อยากแนะนำเรื่องสุดท้าย เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่หากใครชอบหนังแนวเดียวกันกับหนังรางวัลอย่าง Good Will Hunting ก็จะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก เพราะได้ผู้กำกับคนเดียวกัน นอกจากเนื้อเรื่องซึ้งกินใจ และการวางโครงเรื่องอันชาญฉลาดแล้ว คาแรกเตอร์ของตัวละครทั้ง Sean Connery และ Rob Brown ก็เข้าขากันได้ดีจนอาจกล่าวได้ว่าเป็นสองตัวละครที่เป็นที่น่าจดจำในโลกภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งได้เช่นกัน