Dragon Rider ผจญภัยไปกับมังกรเพื่อนรัก

Dragon Rider ผจญภัยไปกับมังกรเพื่อนรัก

Dragon Rider ผจญภัยไปกับมังกรเพื่อนรัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่จะพาทั้งครอบครัวไปสำรวจดินแดนมหัศจรรย์ ความสัมพันธ์ระหว่างคนและมังกร รวมไปถึงการผจญภัยสุดตื่นเต้นระทึกใจ

 

ไฟร์เดรคคือมังกรสีเงินหนุ่มรู้สึกหน่ายกับการซ่อนตัวในหุบเขาไม้ เขาอยากจะแสดงให้เหล่ามังกรอาวุโสเห็นว่าเขาเป็นมังกรที่แท้จริง เมื่อมนุษย์พยายามจะทำลายที่ซ่อนสุดท้ายของครอบครัวเขา ไฟร์เดรคจึงวางแผนการผจญภัยแบบลับๆกับภูตภูเขา ซอร์เรล เขาพยายามที่จะค้นหา สุดขอบสวรรค์ (Rim of heaven) ตำนานที่ว่ากันเป็นว่าเป็นที่หลบภัยลึกลับของเหล่ามังกร ในการออกเดินทางสำรวจของไฟร์เดรคและซอร์เรลพวกเขาได้พบกับ เบนเด็กกำพร้าเร่ร่อนที่อ้างว่าตนเองเป็นผู้ขี่มังกร ในขณะที่เบนและไฟร์เดรคเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว ซอร์เรลกลับมีความหวาดระแวงและทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดเบนเมื่อมีโอกาส แต่ทั้งสามได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันเพราะพวกเขากำลังถูกไล่ล่าจาก เนทเทิลแบรนด์ ปีศาจกินมังกร ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีจุดประเด็นที่จะทำลายมังกรให้หมดสิ้นไปจากโลกมนุษย์

 

งานเขียนเรื่องดังสัญชาติเยอรมัน

Dragon Rider เป็นผลงานการเขียนของคอร์เนลีอา ฟุงเคอนักเขียนที่มีผลงานโดดเด่นในการเขียนวรรณกรรมเด็กและการพัฒนาการของเด็ก เธอประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในเยอรมันกับงานเขียนแนวนิยายชุดอย่าง Wild Chicks และ Ghosthunters ส่วนนิยายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอาทิ Hands off Mississippi และ When Santa Fell to Earth

ฟุงเคอตีพิมพ์ Dragon Rider ในปี 2007 และได้รับความนิยมจากผู้อ่านทั่วโลก ซึ่งสามารถทำยอดจำหน่ายได้มากกว่าสามล้านเล่มตั้งแต่วันนั้นถึงปัจจุบัน ฟุงเคอจึงได้รับการยกย่องว่าเธอเป็นหนึ่งในนักเขียนชาวเยอรมันที่ประสบความสำเร็จและได้รับการจดจำ เธอได้รับรางวัลเกี่ยวกับนักเขียนมากมายอาทิรางวัลแฟนตาซี เซเว่นธ์ ฟิกเกอร์ รางวัลนวนิยายที่น่าติดตามตอนต่อไป และรางวัลนวนิยายขายดีอื่นๆอีกมากมายในขณะเดียวกันฟุงเคอ เป็นเจ้าของผลงานการเขียนในตลาดมากกว่า60 เรื่อง ในปี 2005 นิตยสารไทม์ ได้จัดชื่อของเธอเป็นหนึ่งในนักเขียนผู้ทรงอิทธิพลใน 100ลำดับด้วย

ผลงานนิยายของเธอได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์มาแล้วอาทิ Ink Heart, The Thief Lord, Wild Chicks และ Ghosthunters: On Icy Trails เป็นต้น

 

จากนวนิยายการเดินทางสุดแฟนตาซี สู่เนื้อเรื่องและภาพยนตร์

สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดคือการเปลี่ยนจากเรื่องราวแฟนตาซีของคอร์เนลีอา ฟุงเคอ ที่สร้างมาเพื่อเด็กและเยาวชน ให้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมทุกช่วงวัย สิ่งที่สำคัญที่สุดของ Dragon Rider คือการแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างกันของบรรดาตัวละคร โดยทีมงานและมือเขียนบทเลือกจะหยิบเอาประเด็นที่ว่า มนุษย์คืออะไร หรือมนุษย์มีมุมมองภายนอกที่แตกต่างออกไปอย่างไร การวาดภาพมนุษย์ให้ตั้งคำถามได้หลายแง่มุมมาก จริงๆแล้วมนุษย์ดีหรือเป็นปีศาจร้ายหรือเป็นระหว่างสองสิ่งนั้น เราแสดงให้เห็นว่ามนุษย์สามารถเลือกที่จะเป็นได้ว่าจะเป็นแบบไหน

มนุษย์รุกรานที่หลบภัยที่สุดท้ายของเหล่ามังกรถูกเล่าในหนังสือต้นฉบับของคอร์เนลีอา ฟุงเคอ และนี่คือจุดเรื่องต้นของเรื่อง แต่ในอดีตเกิดอะไรขึ้นกับมังกรและมนุษย์อันนี้ขึ้นกับมุมมองของคนสร้างภาพยนตร์ ประเด็นสำคัญที่สุดคือการทำให้คนดูสามารถทำความรู้จักกับมังกรโดยละเอียดว่าพวกมันมีหน้าที่อย่างไรกับธรรมชาติ มังกรมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร มนุษย์มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร มังกรใน Dragon Rider จึงถูกสร้างมาอย่างยิ่งใหญ่และแตกต่างจากมนุษย์ที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง อวดดี ทะนงตนและมุ่งทำลายธรรมชาติ

 

5 ปีในการผลิตและเตรียมงาน

Dragon Rider ใช้เวลาถึง 5 ปีในการเตรียมงานสร้าง โดยจอห์น อาร์. สมิธ ผู้ที่มีความสามารถในการกำกับภาพงานแอนิเมชั่น รับผิดชอบงานภาพทั้งหมด เนื่องด้วยหนังสือของคอร์เนลีอา ฟุงเคอมีมากกว่า 440 หน้ามันจึงสำคัญที่จะต้องจัดการให้เนื้อเรื่องทั้งหมดอยู่ภายใน 90 นาที ส่วนใหญ่แฟนๆที่เข้ามาชมภาพยนตร์คือคนที่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ในอดีตอาจจะตอน10ขวบและตอนนี้อยากจะพาครอบครัวมาดูภาพยนตร์จากนิยายที่เคยอ่านในอดีตมันเป็นความทรงจำดีๆในการอ่านหนังสือ มันเป็นการเติมเต็มความรู้สึกในอดีตด้วยประสบการณ์จริง ในขณะเดียวกันทีมงานได้สร้างตัวละครที่ตลกและทันสมัยขึ้นมาใหม่อย่าง กราเวลเบรียด ซึ่งสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสร้างเสียงหัวเราะที่เราจะได้เห็นในฝั่งของตัวร้าย

Dragon Rider เป็นการร่วมมือกันทำงานของ 5 บริษัทใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นทั้ง ไรซ์ พิกเจอร์, ไซบอร์น, เอเบิลแอนด์เบคเกอร์, บิ๊กฮัค เอฟเอ๊กซ์ และลูมาติกแอนิเมชั่น ทำงานพัฒนาภาพยนตร์นี้ร่วมกัน จากจุดเริ่มต้นในการวาดตัวละคร เสียงที่จะใช้ในเรื่อง ไรซ์พิกเจอร์สร้างภาพสามมิติและจัดวางภาพร่วมกับบิ๊กฮัค เอฟเอ๊กซ์ ในขณะที่ไซบอร์นหน้าที่หลักคือสร้างสรรค์และแต่งตัวให้ตัวละครในภาพยนตร์ ที่จะแสดงตัวตนในความเป็นแอนิเมชั่นร่วมกับเอเบิลแอนด์เบคเกอร์ ผลงานเรื่องนี้จึงถือว่าเป็นงานสเกลใหญ่ไม่แพ้กับแอนิเมชั่นจากฝั่งฮอลลีวูด

 

Dragon Rider เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook