เพราะเหตุใด? ประเทศญี่ปุ่นจึงเป็น “เจ้าแห่งหน้ากากอนามัย”
ไม่นานมานี้เกิดประเด็นหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นพูดถึงไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อสำนักงานราชการเมืองมุซึ จังหวัดอาโอโมริ สั่งห้ามพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์สวมหน้ากากอนามัยโดยไม่มีความจำเป็น
พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์จะต้องไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะให้บริการ ยกเว้นมีความจำเป็นที่ “บุคคลในครอบครัวติดเชื้อไข้หวัดใหญ่” และ “มีอาการแพ้เกสร” ซึ่งทางสำนักงานราชการเมืองมุซึให้เหตุผลว่า การสวมหน้ากากอนามัยทำให้ไม่สามารถสังเกตสีหน้าของผู้ที่สวมอยู่ได้ อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่พึ่งพอใจ อีกทั้ง การพูดขณะสวมหน้ากากอนามัยทำให้ฟังได้ยากขึ้น และเกรงว่าจะทำให้ผู้สอบถามได้รับเนื้อหาคำอธิบายไม่ชัดเจน
แต่ทว่า ชาว Twitter ในญี่ปุ่นก็ได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายถึงเรื่องนี้ว่า การสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้ใช้เฉพาะแค่ในผู้ป่วย แต่ยังเป็นการป้องกันโรค รวมทั้งความคิดเห็นที่บอกว่า มีเพียงประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่วุ่นวายเรื่องการใช้หน้ากากอนามัยเป็นพิเศษ ซึ่งต่างประเทศไม่ค่อยใช้หน้ากากอนามัยกันเท่าไหร่นัก
เพราะเหตุใดที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นเจ้าแห่งหน้ากากอนามัย? หากย้อนไปดูในประวัติศาสตร์ มีการบันทึกว่า “หน้ากากอนามัยถูกนำมาใช้ก่อนคริสตกาล” แต่ “หน้ากากอนามัย” รูปแบบที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคยและรู้จักกันอย่างกว้างขวางเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปีค.ศ. 1918 – 1920 จากการระบาดของโรค “ไข้หวัดใหญ่สเปน”
ซึ่งมีสถิติการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สเปนในทั่วโลกกว่า 6 ร้อยล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 20-40 ล้านคน ถือเป็นไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดไปทั่วโลก และประชากรประเทศญี่ปุ่นในยุคนั้น มีสถิติติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สเปนกว่าครึ่ง หรือราว 23 ล้านคน จึงทำให้หน้ากากอนามัยที่มักจะใช้ป้องกันปอดจากผงหิน, ผงโลหะ ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่นั้นมา นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ผ่านโปสเตอร์กับประโยค “อันตรายถึงตาย! หากไม่สวมหน้ากากอนามัย” แพร่หลายในยุคนั้นด้วย
จากนั้นมา เมื่อไข้หวัดใหญ่แพร่ระบาดในญี่ปุ่น ทำให้มีการส่งออกสินค้าหน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ในปี 2009 ที่มีเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่รูปแบบใหม่ระบาด ก็ส่งผลให้หน้ากากอนามัยขาดตลาดทั่วญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งในยุคปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นจึงเริ่มสวมหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการป้องกันตัวจากการติดเชื้อโรคระบาดแพร่หลายมากขึ้น
ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ Twitter เกี่ยวกับ “ชาวญี่ปุ่นชอบสวมหน้ากากอนามัย” พบว่ามีหลากหลายความคิดเห็น เช่น “การสวมหน้ากากอนามัยในต่างประเทศเป็นเรื่องไม่ปกติ”, “ถึงแม้ว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะทำให้ดูน่าสงสัย แต่ก็ยังดีกว่าที่ต้องมาทนไอหรือจามโดยไม่มีหน้ากาก”, “การสวมหน้ากากอนามัยยังช่วยป้องกันอากาศหนาวและปกป้องระบบหายใจของเราได้อีกด้วย” และยังมีมุมมองในแง่ลบจากรูปลักษณ์ภายนอกของคนที่สวมหน้ากากอนามัยอีกว่า “ดูน่ากลัว”, “ดูประหลาด” ฯลฯ
ที่มา : news.biglobe