กระแสตอบรับเกินคาด! “ฉลาดเกมส์โกง” หนังไทยที่มาแรงสุดๆจนต้องเพิ่มรอบฉายทั่วญี่ปุ่น

“ฉลาดเกมส์โกง” ภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและสร้างปรากฏการณ์ทำรายได้ถล่มทลายในหลายประเทศในเอเชียมาแล้ว และตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากในญี่ปุ่นในชื่อเรื่อง バッド・ジーニアス 危険な天才たち (Bad Genius Kiken na Tensaitachi) ซึ่งหลังจากที่เข้าฉายที่ญี่ปุ่นได้เพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางและเต็มทุกที่นั่งติดต่อกันจนต้องเพิ่มรอบและเพิ่มโรงภาพยนตร์เพื่อรองรับจำนวนผู้ชมที่จองตั๋วเข้ามาชมอย่างไม่ขาดสาย

ภาพยนตร์เรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” เข้าฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2018 ที่โรงภาพยนตร์ Shinjuku Musashinokan และก็ได้สร้างปรากฏการณ์ผู้ชมเต็มทุกที่นั่งติดต่อกันถึง 14 รอบตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย แม้ในวันที่มีพายุและต้องประกาศยกเลิกการฉาย ความนิยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ซึ่งจำนวนผู้ชมในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 2 ที่เข้าฉายทั้งหมด 3 โรงมีจำนวนสูงถึง 1,445 คน รวมรายได้กว่า 2,233,200 เยน และตั้งแต่เข้าฉายจนถึงวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมาทั้งหมด 3 โรง มีผู้เข้าชมเต็มทุกที่นั่งถึง 34 รอบ ในทั้งหมด 42 รอบที่เข้าฉาย ทำรายได้สูงถึง 6,949,700 เยน ทำให้ต้องมีการขยายโรงภาพยนตร์ที่เข้าฉายขึ้นอย่างกะทันหันเพื่อรองรับกระแสความฮิตของหนังเรื่องนี้

เนื้อหาในภาพยนตร์เรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของเด็กจีนกลุ่มหนึ่งที่ทำการโกงข้อสอบ โดยทำออกมาเป็นภาพยนตร์แนวดราม่า-ระทึกขวัญที่ทำให้คนดูต้องลุ้นไปกับตัวละครในทุกๆตอน จากการสำรวจผู้ชมจากโรงภาพยนตร์ Shinjuku Musashinokan มีทั้งหญิงและชายเท่าๆกัน อาทิตย์แรกๆส่วนใหญ่จะเป็นเด็กมัธยมต้น-ปลาย จากนั้นก็หลากหลายทั้งวัยรุ่นไปจนถึงวัยสูงอายุ ในส่วนของโรงภาพยนตร์ Human Trust Cinema Yurakucho ผู้ชมจะมาเป็นคู่ชาย-หญิงอายุระหว่าง 30-59 ปี และเป็นขาประจำที่มาดูหนังกันบ่อยๆ

ชาวญี่ปุ่นยกให้เป็นหนังที่ได้รับความพึงพอใจ 100% “coco” เว็บไซต์ชื่อดังของญี่ปุ่นที่รวมรีวิวภาพยนตร์ไว้จำนวนมากได้รวบรวมรีวิวจากคนที่ไปดูภาพยนตร์นี้มาแล้ว ผลปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” ได้รับความพึงพอใจสูงถึง 100% และความชื่นชอบ 96％ ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ

ความเห็นจากผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ “สนุกสุดๆไปเลย” “จะถูกจับได้หรือไม่ได้ หนีรอดหรือไม่รอด ทำเอาตื่นเต้นไปด้วยตลอด ดูได้ไม่เบื่อเลย” “ชื่นชมผู้กำกับที่เอาการลอกข้อสอบมาเชื่อมโยงกับปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นได้อย่างแนบเนียน” “ไม่ใช่แค่เพียงหนังแนวตื่นเต้นระทึกขวัญ แต่เป็นหนังที่ลึกซึ้งมาก” “ภาพยนตร์ดีที่ต้องบอกต่อ” เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความเห็นในแนว “แม้จะเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ดูแต่ก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด” “หลงรักนางเอกในเรื่องซะแล้ว” “นางเอกของเรื่องดูมีออร่าสวยเหมือนยู อาโออิ” และมีเสียงชื่นชมในการแสดงของนักแสดงสาวชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ที่รับเป็น “ลิน” “คนที่แสดงเป็นลิน แสดงได้สุดยอดมากๆ” ตัวเอกของเรื่องที่เล่นได้อย่างมีเสน่ห์และสมบทบาทอย่างมากจนทำให้คนดูอินสุดๆ