ท่องดินแดนคอสเพลย์ไปกับ meico และเบื้องหลังที่ไร้ซึ่งเมคอัพบดบังใบหน้า

ท่องดินแดนคอสเพลย์ไปกับ meico และเบื้องหลังที่ไร้ซึ่งเมคอัพบดบังใบหน้า

ท่องดินแดนคอสเพลย์ไปกับ meico และเบื้องหลังที่ไร้ซึ่งเมคอัพบดบังใบหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ่งที่คุณกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้คือเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่หลงใหลในวัฒนธรรม “คอสเพลย์” อย่างหัวปักหัวปำ คุณสมบัติอันโดดเด่นที่เธอมี รวมถึงชีวิตจริงที่ไม่อิงนิยาย “ไมโกะ” พร้อมแล้วที่จะมาเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังในโลกแห่งคอสเพลย์ที่คุณอาจไม่เคยล่วงรู้มาก่อน


อาจดูเป็นวายร้าย แต่ฉันนี่แหละ... โอตาคุตัวจริง

meico_cosplay_2017_003 meico_cosplay_2017_004 meico_cosplay_2017_005 meico_cosplay_2017_006 meico_cosplay_2017_007

 

อันที่จริงแล้วไมโกะอ่านมังงะและดูอนิเมะมาตั้งแต่เด็กๆ แต่แทนที่จะกลายเป็นแฟนมังงะตัวยง เธอกลับเติบโตมากับ WEEKLY JUMP และ Weekly Shōnen Magazine และที่โปรดปรานเป็นพิเศษก็คงจะเป็นซีรีส์หุ่นยนต์ จำพวกกันดั้มและมาครอสอะไรจำพวกนั้น

“ฉันเติบโตมากับสภาวะแวดล้อมทางบ้านที่ไม่ค่อยดีนักน่ะค่ะ ตอนที่ฉันกำลังจะก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบาก ฉันก็บังเอิญได้รู้จักการ์ตูนเรื่อง Neon Genesis Evangelion และฉันก็กลายเป็นโอตาคุไปโดยปริยาย” ไมโกะเล่า อีกทั้งยังบอกว่าเธอชอบ คาโวรุ นากิสะ ซึ่งเป็นตัวละครหนึ่งใน Neon Genesis Evangelion รวมถึง อาคิระ อิชิดะ ด้วย

ตอนอยู่ที่โรงเรียน เธอมักจะซ่อนตัวตนโอตาคุเอาไว้ และค่อนข้างเกเรอยู่ไม่น้อย แต่พอกลับถึงบ้าน เธอก็จะอุทิศเวลาให้กับการต่อหุ่น Gunpla ซึ่งเป็นโมเดลพลาสติกหุ่นกันดั้มอย่างเต็มที่

หลังจากนั้นไมโกะก็พบกับจุดเปลี่ยนแรกของชีวิต เมื่อเธอได้เข้าไปทำงานพาร์ตไทม์ในร้านเกม และมีโอกาสได้พบและพูดคุยกับผู้ที่สร้างหุ่น Gunpla เธอได้เรียนรู้เทคนิคจากพวกเขามากมาย และในที่สุด ไมโกะก็อยู่ในจุดที่มีคนเดินมาบอกว่า "ผมอยากได้หุ่นที่คุณเป็นคนต่อ"

และแล้วเธอก็ก้าวเข้าสู่โลกของเกมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Final Fantasy XI อย่างเต็มตัว และติดมันอย่างงอมแงม “ช่วงนั้นฉันก็ยังต่อหุ่น Gunpla อยู่ด้วย แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยล่ะค่ะ แล้วฉันก็โดนแฟนทิ้งด้วย (หัวเราะ)” เธอกล่าว


เมื่องานอดิเรกกลายเป็นความจริงจัง

ไมโกะเริ่มต้นการใช้ชีวิตคนเดียวตอนที่ทำงานในเมืองฟูกูโอกะ และหากมีเวลาว่าง เธอก็มักจะไปขลุกตัวอยู่ที่เกมเซ็นเตอร์ เล่นเกมต่อสู้แบบตัวต่อตัว นอกเหนือจากเวลางาน เธอจะโฟกัสแต่เรื่องเกม คอยขัดเกลาทักษะการต่อสู้ในเกม และในที่สุดเธอก็คว้าตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขันเกมต่อสู้ได้ "มันก็ไม่ต่างจากการต่อหุ่น Gunpla หรอก หากคุณทำงานหนัก มีความพยายาม คุณจะสามารถดลบันดาลอะไรก็ได้ นั่นคือสิ่งที่เข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของฉันเป็นอย่างมาก" ไมโกะเผย


ย้ายสู่เมืองใหญ่ และการแต่งคอสเพลย์ครั้งแรกในชีวิต

ไมโกะเกิดที่เมืองโอซาก้า แต่มาเติบโตและใช้ชีวิตในเมืองฟูกูโอกะ และมุ่งหน้าสู่กรุงโตเกียวด้วยวัยเพียง 20 ต้นๆ และสถานที่แห่งนั้นทำให้เธอได้ทำความรู้จักกับ "คอสเพลย์" เป็นครั้งแรก "เพื่อนที่เล่นเกมด้วยกันพาฉันไปงานอีเวนต์คอสเพลย์น่ะค่ะ ตัวละครแรกสุดที่ฉันแต่งคอสเพลย์ก็คือ อาสึกะ จากเรื่อง Evangelion ตอนนั้นฉันยังทำชุดไม่เป็น ก็ซื้อมาใส่ซะเลย" ไมโกะเล่าให้เราฟัง

 

meico_cosplay_2017_008 meico_cosplay_2017_009 meico_cosplay_2017_010 meico_cosplay_2017_011 meico_cosplay_2017_012

 

หลังจากนั้นไมโกะก็ได้รับเชิญไปงานอีเวนต์คอสเพลย์บ่อยครั้งขึ้น เธอยอมรับว่าช่วงแรกก็รู้สึกแค่ว่าสนุกดี แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกประหลาดใจในวัฒนธรรมของคนที่แต่งคอสเพลย์แต่ละคนที่ดึงดูดสายตาผู้คนเหลือเกิน หลังจากนั้นเธอก็ถูกชักชวนให้ไปเป็นนางแบบคอสเพลย์ เข้าสตูดิโอถ่ายภาพเพื่อลงในเว็บไซต์ Cure โดยตอนนั้นเธอเลือกตัวละครอย่าง อาสึกะ, เรอิ อายานามิ และ คาโวรุ นากิสะ จากเรื่อง Evangelion มาแต่งเป็นคอสเพลย์ประจำตัว

 


ถ้าคุณเดินหน้าต่อ มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ

ไมโกะเริ่มเลือกคาแรคเตอร์ตัวละครที่หลากหลายมากขึ้น Ranka Lee จากเรื่อง Maccross Frontier ซึ่งฮิตมากในช่วงเวลาหนึ่งกลายมาเป็นช้อยส์ต่อมาของเธอ และเรียกเสียงฮือฮาได้มากพอสมควร "ฉันรักคาแรคเตอร์ของ Ranka มาก เขาเป็นใครสักคนที่เติบโตในครอบครัวที่ค่อนข้างรันทด เจอตัวละครที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูในลักษณะนี้ทีไร อดสงสารไม่ได้สักที" คำกล่าวจากไมโกะ

meico_cosplay_2017_013 meico_cosplay_2017_014 meico_cosplay_2017_015


แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไมโกะกลับรู้สึกว่าตนเองไม่ค่อยเหมาะกับการแต่งคอสเพลย์เป็น Ranka สักเท่าไหร่ ในขณะเดียวกัน กลับมีผู้คนที่จดจำเธอได้จากการแต่งเป็น Ranka นี่ล่ะ ซึ่งมันก็คล้ายคลึงกับตอนที่เธอแต่งเพลง Narmaya จากเรื่อง Granblue Fantasy ที่คนก็จำเธอได้เช่นกัน ดูเหมือนว่าคาแรคเตอร์เหล่านี้เริ่มเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไมโกะเสียแล้ว

"แต่ฉันก็ไม่ได้มีคาแรคเตอร์หรือน้ำเสียงที่อ่อนหวานเหมือน Narmaya นะ (หัวเราะ)" เธอกล่าวติดตลก

meico_cosplay_2017_017


อาการป่วยฉับพลัน และการได้พบ Narmaya

ในที่สุดไมโกะก็ได้เริ่มทำคอสตูมคอสเพลย์เองเป็นครั้งแรก กับตัวละคร Juri Han ใน Street Fighter IV "มองย้อนกลับไปมันห่วยแตกมากเลยค่ะ" เธอเผยกับเรา แต่กระนั้นไมโกะก็ได้ทำความรู้จักกับ Pai ช่างภาพสาวมากความสามารถอีกคนของวงการ

meico_cosplay_2017_018 meico_cosplay_2017_019 meico_cosplay_2017_020


แต่แล้วอีก 1 ปีต่อมา ชีวิตของไมโกะก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า เมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับโรคที่รักษาไม่หาย และหมอก็สั่งให้เธอหยุดพักกิจกรรมทุกอย่าง แม้ว่าอาการของไมโกะจะดีขึ้นตามลำดับ แต่ผลข้างเคียงจากยาทำให้น้ำหนักของเธอเพิ่ม และแน่นอน... หุ่นของเธอก็เปลี่ยนไป ซึ่งตอนนั้นเธอเพิ่งจะได้ทำความรู้จักกับตัวละคร Narmaya ตัวละครหลักจาก Draph race ในเรื่อง Granblue Fantasy ไปไม่นาน

 

meico_cosplay_2017_021 meico_cosplay_2017_022 meico_cosplay_2017_023 meico_cosplay_2017_024 meico_cosplay_2017_025 meico_cosplay_2017_026 meico_cosplay_2017_027 meico_cosplay_2017_028 meico_cosplay_2017_029 meico_cosplay_2017_030 meico_cosplay_2017_031


แต่การที่น้ำหนักของไมโกะเพิ่มขึ้นก็ราวกับว่าชีวิตคอสเพลย์ของเธอแทบสูญสลาย "ฉันคิดมาตลอดว่า การจะแต่งคอสเพลย์ คุณต้องผอมนะ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาบอกฉันว่า ก็แค่ทำให้ดีที่สุดด้วยรูปร่างที่ฉันมี นั่นเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ฉันยังคงแต่งคอสเพลย์ต่อไป" เธอกล่าวอย่างหมดเปลือก

"คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ออกไปเที่ยวสิ ทำในสิ่งที่คุณรักโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ สิ คุณสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยหัวใจของคุณเอง" ไมโกะเล่าต่อถึงความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไปหลังล้มป่วย

ในที่สุด ไมโกะตัดสินใจเดินหน้าแต่งคอสเพลย์ต่อ และเธอกำลังจะมีโฟโตบุ๊คคอสเพลย์เป็นของตนเอง "ฉันอยากสร้างผลงานของตัวเองน่ะค่ะ เอาจริงๆ ฉันไม่ค่อยชอบทำคอสตูมเองหรอก ฉันชอบเวลาที่ช่างภาพพยายามทำให้ฉันดูดีที่สุดระหว่างการถ่ายภาพมากกว่า" 

meico_cosplay_2017_032 meico_cosplay_2017_033 meico_cosplay_2017_034


แมวและหนัง คือสิ่งที่ฉันหลงรัก

meico_cosplay_2017_035 meico_cosplay_2017_036 meico_cosplay_2017_037 meico_cosplay_2017_038

ขณะนี้ไมโกะกำลังทำงานด้านการศึกษา แต่งงานแล้ว และเป็นคอหนังตัวยง โดยเฉพาะซีรีส์ภาพยนตร์ของมาร์เวลที่เธอตกหลุมรักเข้าเต็มเปา และหากย้อนเวลากลับไปช่วงที่เธอเรียนไฮสคูล ไมโกะคือหนึ่งในสมาชิกวงดนตรีที่คัฟเวอร์เพลงของ SHAKALABBITS และ JUDY AND MARY แน่นอนว่าเธอรู้พื้นฐานในเรื่องการร้องเพลง เล่นกีตาร์ และเบส

แมวเป็นสัตว์ที่ไมโกะชื่นชอบ เธอเลี้ยงไว้ที่บ้านตัวหนึ่ง ชื่อว่า เบลล์ "ตอนนั้นเป็นช่วงที่เกม Pokemon Go กำลังฮิต ฉันก็ออกไปล่าโปเกม่อนเหมือนคนอื่น แต่ฉันดันไปเจอลูกแมวแทน พอฉันทวีตเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็กลายเป็นประเด็นที่มีคนพูดถึงกันมากมาย เซอร์ไพรส์ฉันจริงๆ" ไมโกะเล่าย้อนกลับไป

meico_cosplay_2017_049 meico_cosplay_2017_050 meico_cosplay_2017_051

เรื่องสำคัญคือ สมดุล และการแสดงออกถึงตัวตน

ไมโกะยกให้ความสมดุลคือองค์ประกอบสำคัญสำหรับคอสเพลย์ เธอยกตัวอย่างในเวลาที่เธอแต่งคอสเพลย์เป็น Narmaya ชุดของเธอต้องมีความพอดี ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าอกหรือความยาวของชุด แต่สำหรับช่วงลำตัวอาจจะยากอยู่สักหน่อย เธอจึงต้องพยายามลองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอดีที่สุด นั่นจึงกลายเป็นสาเหตุที่กว่าแต่ละชุดจะเสร็จสิ้นนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญก็คือ การแสดงออกถึงตัวตนของตัวละครที่หลากหลาย แต่กระนั้นก็ต้องมีความเหมาะสม ไม่ขาดหรือล้นจนเกินไป ไมโกะใช้การดูซีรีส์ หนังสือศิลปะเพื่อเรียนรู้การแสดงออกของแต่ละตัวละคร แต่งหน้าให้สอดคล้องกับการนำเสนอตัวตนของคาแรคเตอร์นั้นๆ แต่บางที ไมโกะก็มองหาการนำเสนอคาแรคเตอร์ที่แตกต่างออกไปเช่นกัน

meico_cosplay_2017_039 meico_cosplay_2017_040 meico_cosplay_2017_041 meico_cosplay_2017_042 meico_cosplay_2017_043 meico_cosplay_2017_044 meico_cosplay_2017_045 meico_cosplay_2017_046 meico_cosplay_2017_047 meico_cosplay_2017_048 meico_cosplay_2017_049

"ฉันเลือกตัวละครที่จะมาแต่งคอสเพลย์อย่างไรน่ะเหรอ ความชอบหรือไม่ชอบก็เป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกันนะ เวลาแต่งคอสเพลย์ที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างไปจากตัวตนของฉันโดยสิ้นเชิงเท่าที่จะเป็นไปได้ ฉันจะมีความสุขมาก นี่คืออความตื่นเต้นอันแท้จริงของโลกแห่งคอสเพลย์" ไมโกะเผยความลับกับเรา


คอสเพลย์คือกิจกรรมของผู้ใหญ่

ไมโกะมองว่า การแต่งคอสเพลย์คือการแสดงตัวตนของตัวละครนั้นๆ เธอบอกกับเราว่า มีความสุขทุกครั้งเมื่อได้ยินคนพูดว่าเธอสามารถแสดงความรู้สึกของคาแรคเตอร์ต่างๆ ผ่านภาพนิ่งได้ อีกทั้งเธอยังมองว่า โลกแห่งคอสเพลย์ทำให้เธอมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับผู้คนที่เธอไม่มีทางได้รู้จักในชีวิตปกติ อาจจะมาจากต่างทวีป ต่างภาษา เธอมองว่าคอสเพลย์เหมือนเป็นกิจกรรมของผู้ใหญ่ และจากการที่ได้รู้จักคนมากขึ้น มีคนเข้ามาคลิกไลค์ ติดตามเธอ ก็ทำให้ความคิดของไมโกะเปลี่ยนไป

"จากสิ่งที่ฉันเคยมีอคติ ฉันกลับเริ่มชอบมัน มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่สนุกนะ"

สิ้นปี 2017 คือกำหนดการวางขาย Gravity Daze โฟโต้บุ๊คคอสเพลย์เล่มแรกของ ไมโกะ ซึ่งเธอเล่าว่ามันจะเป็นงานที่ผสมผสานกลิ่นอายของเกมเข้าไป และเธอก็อยากทำเจ้าสิ่งนี้มานานแล้วด้วย "ฉันต้องการท้าทายความสามารถของตัวเองด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด ฉันว่ามันแตกต่างจากโฟโต้บุ๊คทั่วไปนะ และฉันก็หวังว่าทุกๆ คนจะได้เห็นมัน

 ใครอยากติดตามผลงานของ ไมโกะ คลิกเข้าไปได้ที่ https://worldcosplay.net/member/mmm_mii_

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook