ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น106.20จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.)พุ่งขึ้น 106.20 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 14,818.75 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.37 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 1,593.61 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 27.76 จุด หรือ 0.85% ปิดที่ 3,307.02 จุด  ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดขายสัญญาขายบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาด   สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนก.พ. สู่ระดับ 105.7 ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ             อัตราการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายเดือนของดัชนีดังกล่าว สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ประเมินว่าจะปรับขึ้น 1.0% ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเป็นมาตรวัดสัญญาการซื้อบ้านที่มีการเซ็นต์สัญญาแล้ว และโดยทั่วไปจะใช้เวลาราว 1-2 เดือนในการปิดการขาย           ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่ปรับขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันยังคงมีกำลังจับจ่าย ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 96.5 ในเดือนมี.ค.                       นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 3.10% หลังจากมีข่าวซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันว่า แอปเปิลอาจจะเปิดตัวไอโฟน 5 เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ดีดตัวขึ้น 2.58% หุ้นไมโครซอฟท์ทะยานขึ้น 2.49% และหุ้นไอบีเอ็มพุ่งขึ้น 2.49%             ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังจากรัฐบาลสามารถประมูลขายพันธบัตรได้มากขึ้น ภายหลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลใหม่ของอิตาลีได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดการกับภาวะถดถอย             นายเอ็นริโก เลตตา สมาชิกคนสำคัญของพรรค Democratic Party (PD) ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ซ้าย ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นผู้นำรัฐบาลผสมที่รวมถึงพรรค People of Freedom (PdL) ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ขวาที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี             ทั้งนี้ คาดว่านายกรัฐมนตรีเลตตาและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะได้รับการลงมติไว้วางใจจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในวันจันทร์นี้ และจะเริ่มภารกิจเร่งด่วนในการจัดการกับเศรษฐกิจที่ตกต่ำและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นในอิตาลี อันเป็นผลจากภาวะถดถอยหลังจากอิตาลีกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศรายแรกๆของยูโรโซนที่ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตการเงินโลก