ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น7.22จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น7.22จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.)ขยับขึ้น 7.22 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 13,986.52 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.83 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,512.12 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 3.10 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 3,168.48 จุด  ขานรับผลประกอบการภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป พร้อมกับจับตาดูการประชุมผู้นำยุโรปซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้   ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปได้สกัดแรงบวกในตลาดและส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนด้วย   ทั้งนี้ โพลล์สำรวจความคิดเห็นในอิตาลีบ่งชี้ว่า การที่นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี ชูนโยบายเลิกใช้มาตรการรัดเข็มขัด ทำให้เขาได้รับคะแนนนิยมมากขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่า หากนายแบร์ลุสโคนีกลับสู่อำนาจอีกครั้งก็อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของประเทศซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เริ่มต้นเอาไว้   ส่วนสถานการณ์ในสเปนนั้น นายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย ของสเปนกำลังถูกกดดันจากฝ่ายค้านให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขามีส่วนพัวพันในกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งข่าวดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสเปน โดยล่าสุดมีรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสเปนในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 47.0 จาก 44.3 ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แต่ดัชนียังคงปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องในช่วงกว่า 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคบริการของสเปนยังอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่ นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสชะลอการปรับลดรายจ่ายจำนวนมากของรัฐบาลในระยะใกล้ออกไป โดยโอบามากล่าวว่านโยบายงบประมาณของรัฐบาลจะมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ การลดรายจ่ายรัฐบาลขนานใหญ่จะส่งผลกระทบต่อการสร้างงาน และทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง   ทั้งนี้ การลดรายจ่ายราว 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐจำนวนมากในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ตามที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ตกลงกันไว้ในเดือนม.ค.เพื่อเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังหรือ fiscal cliff

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook