รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาด   ย่อเพื่อขึ้นต่อ รายวันคาดดัชนีฯ พักฐาน ใครที่ขายเล่นสั้นตามคำแนะนำวานนี้ คงแนะรอซื้อคืนที่แนวรับ บริเวณ 1,395/1,390 จุด ส่วนแนวต้านคาด 1,415/1,418 จุด อิง รายงานการประชุมเฟดวานนี้ มีสามาชิกเสนอยุติ QE ก่อนสิ้นปีนี้ (คาดลบต่อหุ้นไทยจำกัด) ส่งผลตลาดวิตกเฟดดำเนินการถอนมาตรการ QE เร็วกว่าคาด (Exit strategy) ระยะสัปดาห์-เดือน คงมุมมองหุ้นไทย ซิ๊กแซกขึ้น ก่อนจะปรับฐานปลาย มค.-กลาง กพ. กลุ่มเด่น บ้าน (จิตวิทยาบวกจากเงินเฟ้อไทยพุ่งเกินคาด-ดอกเบี้ยอาจขึ้นเร็วกว่าคาดเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อบ้าน) รับเหมาฯ แบงก์ พลังงาน ปิโตร-โรงกลั่น อาหาร หุ้นปันผลดี หุ้นเด่น คาดหุ้นกลาง-เล็ก ปรับสูงขึ้นสวนหุ้นใหญ่ที่พักฐาน แนะนำ CFRESH (Dividend yield 5.7%) VGI KKC (ราคาเหมาะสม 7 บ.) สะสม TCAP STA ใครที่ซื้อตามแนวรับวานนี้บริเวณ 18.5 บ. แนะนำ ขายเล่นรอบ บริเวณแนวต้าน 19.8-20 บ.) Update: ถือ VGI (แนวโน้ม Sideway แนะสะสม /ผลการดำเนินงานไม่กระทบจากข่าว DSI ฟ้องผู้ว่ากทม.ประเด็นสัญญาจ้าง BTS) แนวรับ 91.75 บ. แนวต้าน 94 บ. / KBANK รอซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 194 บ. ต้าน 199 บ. คาดพักฐานหลังจากวานนี้ทดสอบแนวต้าน -แนะสะสมเมื่ออ่อนตัว PTT แนวรับ 333 บ.ต้าน 340 บ. KTB แนวรับ 19.5 บ. ต้าน 20 บ.   ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ (-/0) เฟด สรุปรายงานการประชุม เดือน ธค.เผยสมาชิกบางรายต้องการยุติมาตรการ QE ก่อนสิ้นปี 2013 ส่งผลวิตกเฟดอาจดำเนินมาตรการ Exit strategy เร็วกว่าคาด (+/0) รายงานการจ้างงานสหรัฐฯวันนี้ คาดส่งสัญญาณชะลอตัว คาดการจ้างงานเดือน ธค. คาดลดลง เหลือ 1.4 แสนราย จาก 1.46 แสนราย และ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 7.8% จาก 7.7% / การจ้างงานที่อ่อนแอ คาดเฟดยังคงมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องต่อไป (+) วายุภักดิ์ 2 ผ่านมติบอร์ดแล้ว รอเสนอ ครม. เร็วๆนี้ บลจ.คาดระดมทุนเกิน 5 แสนล้านบาท เน้นลงทุนใน SET50-100 และโครงสร้างพื้นฐาน / บวกต่อ หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ, แบงก์ (*) US fiscal cliff สภาครองเกรสสหรัฐฯ ได้ข้อตกลงปรับลดงบประมาณและเลื่อนการขึ้นภาษีทั้งระบบไปอีกสองเดือน และรอการขยายเพดานหนี้ คาดคุยอีกครั้งปลายเดือน กพ.นี้   Investment theme: January effect: หุ้นใน MSCI THAILAND: KBANK KTB BBL PTT PTTEP PTTGC SCC CPN หุ้นปันผลดีปันผลสูง CFRESH SRICHA SORKON UMI   วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   'กิตติรัตน์'ตีปี๊บเศรษฐกิจไทยปี'56 รุ่งชง 10 มาตรการเข้าครม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังประชุมหารือคณะทำงาน 9 กระทรวง เพื่อติดตามวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ครั้งที่ 1/2556 โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั้งระดับโลก ระดับภูมิภาค ภายนอกและภายใน จากการติดตามตัวเลขต่างๆ ในการประชุมครั้งนี้มั่นใจว่าเศรษฐกิจในปี 2556 จะเติบโตดีเท่ากับหรือดีกว่าปี 2555 เพราะเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มปรับขึ้น ยกเว้นญี่ปุ่นประเทศเดียวที่ยังมีปัญหา ส่วนการส่งออกของไทยในปี 2556 คาดว่าจะโตได้ไม่น้อยกว่า 9% (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   ธปท.จับตาเงินทะลักหวั่นหุ้น-อสังหาฟองปุด นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามภาวะเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเท่าที่ประเมินเบื้องต้นยังไม่เห็นปรากฏการณ์ฟองสบู่ โดยอัตราการขยายตัวของสินเชื่อสถาบันการเงินที่ขยายตัว 15% สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐขยายตัวถึง 17-18% นั้น ส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ไม่ใช่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่ธปท.ยังคงติดตามภาวะที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดว่าจะสร้างปัญหาความไม่มีเสถียรภาพทางการเงินหรือไม่ในระยะต่อไป (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   ธปท.ชี้แนวโน้มเงินทุนคนไทยไหลออกลงทุนต่างชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ธปท.ได้รายงานสถานการณ์การนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศในปี 2555 ที่ผ่านมา ใน 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.55) มีเงินลงทุนของคนไทยไปลงทุนโดยตรง ซื้อกิจการ ย้ายฐานการผลิต และลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งกองทุนหุ้นและตราสารหนี้รวมกันสูงถึง 18,363 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 550,890 ล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) สูงกว่ายอดในปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเม็ดเงินออกไปลงทุน 8,467 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 254,010 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 296,880 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 116% (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   บีโอไอจัดตั้งทีมเห่กล่อมเอสเอ็มอีญี่ปุ่น หอบเงินย้ายฐานการผลิตในไทยพวยพุ่ง นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอในฐานะคณะทำงานชักจูงการลงทุนและเชื่อมโยงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น จะทำการชักจูงการลงทุนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากเอสเอ็มอีญี่ปุ่น ในกลุ่มผู้รับช่วงการผลิต (Tier 2 และ Tier 3) ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในรูปแบบต่างๆ และเผยแพร่ศักยภาพและจุดแข็งของประเทศไทยต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่น รวมถึงให้ข้อมูลการทำธุรกิจในไทยที่ตรงต่อความต้องการของบริษัทที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพและเน้นผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วน ที่ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ แต่ไม่เพียงพออาทิ ชิ้นส่วนยานพาหนะ เครื่องจักรและแม่พิมพ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง โลหะและชิ้นส่วนที่มีความเที่ยงตรงสูง เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนโทรคมนาคม และกิจกรรมการผลิตหรือถนอมอาหาร เป็นต้น (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   'บัวหลวงทศพล'แชมป์หุ้นปี'55 ผลตอบแทน 75.92% กองทุนบัวหลวงกวาด 8 ใน 10 เปิดผลตอบแทนกองทุนหุ้น 10 อันดับแรก ปี 2555 บลจ.บัวหลวง กวาดเรียบ 8 กองทุน\"บัวหลวงทศพล\" คว้าอันดับ 1 กำไร 75.92% จากการจัดอันดับกองทุนหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2555 ทั้งกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยรวมกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ปรากฏว่ากองทุนหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง ถึง 8 กองทุน ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ใน 10 อันดับขณะที่กองทุนหุ้นของ บลจ.ยูโอบี(ไทย) และ บลจ.วรรณ ติดเข้ามาบลจ.ละ 1 กองทุน (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)   เพื่อไทยจ้องโละโครงการยางชี้ทำผลผลิตล้นตลาดราคาตกแถมผลาญงบประมาณไม่หยุด โครงการปลูกยาง 6 แสนไร่ สะเทือน รมช.เกษตรฯคนใหม่ จ้องโละทิ้ง ห่วงซ้ำเติมผลผลิตล้นตลาด ฉุดราคาตกไม่เลิก นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการให้นโยบายสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.) ว่า ในเรื่องของโครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราพื้นที่ใหม่ 6 แสนไร่ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา จะหารือกับรัฐบาลอีกครั้งว่าสมควรจะเดินหน้าต่อหรือไม่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผลผลิตมากเกินความต้องการของตลาดจนราคาตกต่ำ เพราะเพิ่งปลูกได้เพียง 6.5 หมื่นไร่ (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)   'กิตติรัตน์'บี้คมนาคมแก้สัญญา 3 สายสีแดง กิตติรัตน์ จี้คมนาคม เร่งเคลียร์ปัญหาสัญญารถไฟสายสีแดง เร่งชงเข้า ครม.เดินหน้า หรือประมูลใหม่ นายกิตติรัตน์ ณ.ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมต้องเร่งแก้ไขปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ให้มีความคืบหน้าว่าจะเดินหน้าหรือเปิดประมูลใหม่ เพราะขณะนี้พบว่าสัญญาที่ 1 และ 2 มีความคืบหน้า แต่สัญญาที่ 3 มีปัญหายืดเยื้อ จึงควรเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ดังนั้นทางกระทรวงคมนาคม ต้องรับไปดำเนินการให้เกิดความชัดเจนในสัญญาที่ 3 โดยระยะเวลาไม่ควรเกิน 6 เดือน เพื่อเสนอกลับเข้ามาใน ครม.ว่าจะเลิกการประมูลสัญญาเดิม หรือเปิดประมูลใหม่ หรือจะทำอย่างไรกับผู้ประมูล 4 ราย (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   หุ้น: BBL          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 246.00 เราคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/55 ที่ 8.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% YoY และ 7% QoQ ธนาคารตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อปี 2556 ในเชิงอนุรักษ์นิยมที่ 6-8% ผู้บริหารแนะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4/55 จะลดลง 10-15 bps QoQ และปี 2556 อยู่ในช่วง 2.5-2.6% BBL จะตั้งการกันสำรองหนี้สูญฯในระดับปกติสำหรับปี 2555 และ 2556 ที่ 6.5-7.0 พันล้านบาท   นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม   กลุ่ม: นิคมอุตสาหกรรม          คำแนะนำ: NEUTRAL          ราคาเป้าหมาย (บาท): - จากการสำรวจของเราพบว่าผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งสามรายภายใต้การวิเคราะห์ของเราได้บรรลุเป้าหมายยอดขายที่ดินในปี 2555 แล้ว ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของยอดขายที่ดินในปีหน้า ยกเวิน HEMRAJ ที่ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในเชิงอนุรักษ์นิยม แนวโน้มอุปสงค์ในการเช่าที่ดินเติบโตแข็งแกร่ง   นักวิเคราะห์: จินดารัตน์ เล้าทวีรุ่งสวัสดิ์   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: KBANK Position: ซื้อ เป้าหมาย : 205/208 Stop loss: < 196 Reason: ปรับตัวขึ้นตามคาดลุ้นทะลุยอดเดิม 203 โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 205-208   Security: PTT Position: ซื้อ เป้าหมาย : 346/350 Stop loss: < 335 Reason:ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นโดดเด่นในกลุ่มพลังงาน โดยพบปริมาณหุ้นสะสมที่เพิ่มขึ้นหลังจากการทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน   Security: CPF Position: ซื้อ เป้าหมาย : 38/40 Stop loss: < 34 Reason: ดีดตัวขึ้นจากแนวรับบริเวณ 33-34 ส่งสัญญาณบวกจากวอลุ่มที่เพิ่ทสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับ  MACD ตัดเส้น Signal line   Security: TCAP Position: ซื้อ เป้าหมาย : 42/44 Stop loss: < 37.5 Reason: ราคาหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นจากฐานบริเวณ 36-37 ปัจจุบันราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น และเครื่องมือทางเทคนิคกำลังจะตัดขึ้นเป็นบวกอีกครั้ง   Security: ADVANC Position: ขายทำกำไร Reason: ปิดต่ำหลังจากหลุดแนวรับสำคัญ 210. ขณะที่วอลุ่มหนาแน่นมาก สอดคล้องกับเครื่องมือทางเทคนิค MACD ที่ตัดลง   Security: CPALL Position: ขายทำกำไร Reason:โมเมนตัมลดลงและปิดต่ำเครื่องมือทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเมื่อ  MACD อยู่ในระดับที่สูง Overbought   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 4 ม.ค. 2556

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook