Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลง - เสี่ยงซื้อหุ้นธนาคาร / ทรงถึงขึ้น – เกาะหุ้นกลาง   แนวโน้มตลาด:  ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับลดลงตามเอเชียหลังจีนเผยตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอ โดย HSBC PMI ของจีนก.ย.อยู่ที่ 47.8 จาก ส.ค.ที่ 47.6 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซิ้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนก.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 จาก ส.ค.ที่ 46.3 ทั้งนี้แม้ตัวเลข PMI จีนจะดูแย่ แต่ก็เริ่มไม่ลดลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกช่วงสั้นได้ ทั้งนี้ปัญหาเศรษฐกิจโลกเป็นประเด็นที่ตลาดซึมซับมานานแล้วจึงคาดว่าผลต่อตลาดจำกัด หากยังไม่มีข่าวร้ายของฝั่งยุโรปมากระทบ สำหรับตลาดหุ้นไทย กลุ่มที่น่าสนใจทั้งในเชิงมูลค่าในเชิงการวางกลยุทธ์ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ที่ยังราคาถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น หรือในส่วนของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างทั้ง 1) ประเด็นบวกจากการผ่านโครงการบริการจัดการน้ำ ITD  CK  CNT 2) พื้นฐานดี TRC NWR ยังน่าจะมีความปลอดภัยในการเก็งกำไรโดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นไร้ theme การลงทุนหลักอย่างเช่นขณะนี้ กลยุทธ์การลงทุน:  SET Index ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1260-1290 ผู้ลงทุนสะสมcommodity ซึ่งเรายังคงมุมมองเดิมตลาดมีปรับตัวดีๆครั้งหนึ่งในช่วง ปลายก.ย.- ต้นต.ค. / ในขณะที่ผู้เก็งกำไรระยะสั้น ลงซื้อหุ้นธนาคาร ทรงถึงขึ้นอสังหาริมทรัพย์รับเหมา และหุ้นกลาง-เล็กอื่นๆที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว หุ้นแนะนำ  VNT  HEMRAJ  SC  GUNKUL สำหรับนักลงทุนระยะกลาง:  (14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเราอยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังการเข้าซื้อและสะสมหุ้น ***หากตลาดปรับฐานก.ย.-ต.ค.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี และเดินเรือ*** สะสม  TTA  SOLAR  ERW  AJ   หุ้นแนะนำวันนี้ - VNT (ปิด 18.40 เป้าระยะสั้น 20.00 ขายเมื่อหลุด 18.00) ผู้ผลิตผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟรายใหญ่ + ขยายการลงทุนผลิต ECH (ใช้กันสนิมในหลายอุตสาหกรรม) ในประเทศจีนซึ่งจะทำให้ขึ้นเป็นผู้ผลิตอันดับ 2 ของเอเซีย + ราคาปัจจุบันคิดเป็น 10.2x PER และให้ปันผล 5.4% - HEMRAJ (ปิด 3.18 เป้าระยะสั้น 3.30 ขายเมื่อหลุด 3.10) ภาวะกังวลน้ำท่วมกระตุ้นการย้ายฐานการผลิตมายังภาคตะวันออกต่อเนื่อง + HEMRAJ มีแผนขยายรายได้จากสาธารณูปโภคและรายได้อื่นขึ้นต่อเนื่องซึ่งช่วยให้ valuation สูงขึ้น - SC (ปิด 16.70 เป้าระยะสั้น 19.00 ขายเมื่อหลุด 16.00) เตรียมเปิดโครงการใหม่ 5 แห่ง 3Q55 และอีก 5 แห่งใน 4Q55 + กำไร 2H55 จะเร่งตัวขึ้นเนื่องจากมีกำหนดการโอนคอนโด 3 โครงการ 1.8 พันล้านบาท ใน 4Q55 +SAA Consensus มองราคาปัจจุบันที่ 9.0x PER และให้ปันผลถึง 4.3% - GUNKUL (ปิด 18.20 เป้าระยะสั้น 19.60 ขายเมื่อหลุด 17.70) ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% ตามเป้า + เตรียมยื่นประมูลงานเพิ่ม 4 พันล้านบาท + ปี 56 จะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า 57MW เต็มจำนวนปีแรก +อยู่ระหว่างโรดโชว์ที่ฮ่องกง 20-21 ก.ย. - หุ้นแนะนำที่ยังคงน่าสนใจ HEMRAJ HMPRO LHK DSGT TTA SOLAR - หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STEC CK ITD /โรงแรม MINT ERW CENTEL - ทยอยสะสม Commodity: PTTGC IVL TOP SCC/ LANNA KSL KBS   Today’s Best Trades   ประเด็นการลงทุนหุ้น Today’s Best Trades HOLD KSL - เข้าสู่ช่วง high season ผลประกอบการไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.55) + ก.ค.เป็นเดือนที่ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-8% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา + แม้ราคาส่งออกน้ำตาลลดลง 5% QoQ แต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ 30% YoY กำไรจึงมีแนวโน้มดีขึ้น + ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.2 เท่า ให้ผลตอบแทนปันผล 4.1% (concensus) QH  - กระแสกังวลคอนโดชะลอทำให้มีแรง switching มายัง QH ที่มีสัดส่วนโครงการแนวราบสูง + คาดกำไรปี 2555 เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง 6.1x และมี yield ถึง 8.4% + เตรียมขาย 3 อสังหาริมทรัพย์เข้ากองทนอสังหาฯ ไตรมาส 3 AAV  - ผลประกอบการผ่าน soft season ไตรมาส 2 อย่างแข็งแกร่ง คาด low season ไตรมาส 3 ดีกว่าปกติ และเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ (4Q55-1Q56) + การย้ายฐานมายังดอนเมืองช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร + แผนเพิ่มฝูงบินจาก 24 เป็น 48 ลำใน 5 ปี คาดช่วยรักษาการเติบโตของรายได้ที่ปีละ 20-25% ได้ NMG  - การเปิดช่องโทรทัศน์ดาวเทียม “กรุงเทพธุรกิจทีวี” และ “คิดโซนส์” เพิ่มตั้งแต่ส.ค.ส่งผลดีต่อรายได้ + คาดกำไรปี2555-56 เพิ่มขึ้น 52% และ 61% ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 14.0x และ 9.3x + ผู้บริหารเพิ่มเป้ารายได้เป็นโต 15%(จาก 10%) ทำให้มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น PTTEP - ราคาสะท้อนผลประกอบการ 2Q55 ที่ย่ำแย่แล้ว + ราคาที่ Underperform หุ้นอื่นมานานเพราะกังวลเพิ่มทุน ช่วยจำกัด downside risk + โอกาสซื้อลงทุนที่ดี โดยไม่ต้องกังวลราคาน้ำมัน 3Q55 อ่อนตัว HEMRAJ - ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนแข็งแกร่ง + บริษัทตั้งเป้าขยายพื้นที่โรงงานเช่าจาก 1 เป็น 2.6 แสนตารางเมตรใน 5 ปี + การขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ส่งผลดี TICON-T1 - ได้รับมาจากการถือ TICON SUC  - คาดผลการดำเนินงาน 2H55 จะดีกว่าปีก่อนมากเพราะ ราคาถ่านหินที่ลดลง จะส่งผลดีต่อธุรกิจไฟฟ้าที่ประเทศจีน +ราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียง 0.70 เท่าของมูลค่าทางบัญชี (53.25 บาท) และคาดปันผลทั้งปีไม่ต่ำกว่า 1.50 บาท/หุ้น BBL  - ธนาคารใหญ่ที่ยัง laggard กลุ่มอยู่ + ความกังวลจีนชะลอตัว (กระทบต่อการปล่อยกู้ต่างประเทศ) ซึ่งกดดันหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ช่วงสั้นน่าจะบรรเทาลง TNH  - ร.พ.ขนาดเล็กที่น่าสนใจ + คาดงบปี 2555 (ก.ค.54-ส.ค.55) ออกมาดี และน่าจะมีปันผลไม่ต่ำกว่า 0.40 บาท +ราคาปัจจุบันคิดเป็นเพียง 14.5x PER   ปัจจัยที่ต้องติดตาม - 20-25 ก.ย. Thailand: กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกของไทย - 24-28 ก.ย. Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง/ทบทวนตัวเลข GDP ปีนี้ - 24 ก.ย. US: Dallas Fed Mfg Survey - 25 ก.ย. US: S&P Case-Shiller HPI - 25 ก.ย. US: Consumer Confidence - 26 ก.ย. US: New Home Sales - 27 ก.ย. EU: Euro-Zone Consumer Confidence - 27 ก.ย. US: Durable Goods Orders - 27 ก.ย. US: GDP - 27 ก.ย. US: Jobless Claims - 27 ก.ย. US: Pending Home Sales Index - 28 ก.ย. EU: Euro-Zone CPI Estimate - 28 ก.ย. US: Personal Income and Outlays - 28 ก.ย. US: Chicago PMI - 28 ก.ย. US: Consumer Sentiment - 28 ก.ย. Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน - 28 ก.ย. Thailand: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน   บทวิเคราะห์วันนี้   กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ : อีกเดือนที่งบโฆษณาเติบโตแข็งแกร่ง > มีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มสื่อ เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มสื่อ โดยแม้เราจะชอบ BEC แต่แนะนำ ถือ เพราะเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนความแข็งแกร่งและโอกาสในการโตระยะสั้นถึงกลางของบริษัทแล้ว โดยเราชอบ MCOT จากราคาหุ้นที่น่าสนใจและผลตอบแทนสูงแม้บริษัทจะมีเรทติ้งโทรทัศน์ลดลง สำหรับ MAJOR เราคาด margin ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของกำไรในปี 55-57 > งบโฆษณาเดือนสิงหาคมโตทั้ง QoQ และ YoY งบโฆษณาเดือนสิงหาคมโต 3% MoM และ 11.8% YoY สำหรับตัวเลข YTD เติบโต 7.4% ยังต่ำกว่าประมาณการทั้งปีของเราที่ 10% แต่เรามองว่างบโฆษณาจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q55 จากการบริโภคที่แข็งแกร่ง และส่วนหนึ่งจากฐานต่ำในปีที่แล้ว > งบโฆษณาทางทีวีกลับมาโตอีกครั้ง งบโฆษณาผ่านทีวีเดือนสิงหาคม โตถึง 11.4% YoYเป็นเดือนที่ตัวเลขเติบโตสูงสุด YTD และสูงกว่างบโฆษณา 7M55 ที่โตเพียง 2% แต่งบโฆษณาผ่านวิทยุโตชะลอตัวลง > งบโฆษณาผ่านโรงหนังและในร้านค้ายังโตแข็งแกร่ง งบโฆษณาผ่านโรงหนังโตถึง46% YoY แม้เรามองว่าตัวเลขอาจเฟ้อไปบ้างแต่ก็สนับสนุนมุมมองที่เป็นบวกของเราต่องบโฆษณาผ่านโรงหนัง สำหรับงบโฆษณาในร้านค้าโตแข็งแกร่งถึง 150% YoY จากผู้ใช้งบโฆษณามีการขยายช่องทางเพื่อเข้าถึงลูกค้า > กลุ่มรถยนตร์ใช้งบโฆษณาสูง 4 จาก 10 ผู้ใช้งบสูงสุดมาจากกลุ่มรถยนตร์ ได้แก่ Honda, Isuzu, Ford และ Chevrolet เชื่อว่ามาจากการออกรถรุ่นใหม่   MBK (Not rated ปิด 118.5, Bloomberg consensus-n.a.) มีมูลค่าที่ตลาดยังไม่รับรู้ > หนึ่งในผู้นำด้านพัฒนาอสังหาเพื่อการพาณิชย์ MBK มีการลงทุนในศูนย์การค้า (มาบุญครอง,สยามพารากอน), โรงแรม และสนามกอล์ฟ โดยเฉพาะศูนย์การค้ามีพื้นที่เช่ารวมที่205,000 ตร.ม. และมีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,600 บาท/ตร.ม./เดือน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ และบริษัทคาดว่าจะมีการปรับค่าเช่าขึ้นปีละประมาณ 8% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจในการกำหนดราคาที่สูง > การฟื้นตัวในภาคท่องเที่ยวสนับสนุนธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ ปัจจุบัน MBK มีจำนวนโรงแรมที่อยู่ในพอร์ตประมาณ 1,600 ห้อง โดยใน 1H55 รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก+7.0% YoY รวมถึงธุรกิจสนามกอล์ฟที่มีทั้งหมด 3 แห่งในปัจจุบัน โดย 2 แห่ง อยู่ที่ภูเก็ตรายได้จากการให้บริหารใน 1H55 +14.0% YoY > ราคาถูกกว่ากลุ่มอุตสาหกรรม ข้อมูลในอดีตจากฐานข้อมูล Bloomberg consensus MBK เทรดอยู่ที่ 1.4 เท่า P/BV และ 10 เท่า PER และผลตอบแทนเงินปันผลที่ 4.1% ซึ่งถูกกว่า CPN ทีเทรดอยู่ที่ 4.8เท่า P/BV และ 29 เท่า PER และ CENTEL ที่เทรดอยู่ที่ 21 เท่า PER และ 3.3 เท่า P/BV > ความเสี่ยงหลักจากการปรับเพิ่มค่าเช่าที่ MBK ต้องต่อสัญญาเช่าฉบับใหม่อายุ 20 ปี ในเดือน เมษายน 2556 ทำให้ต้นทุนค่าเช่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 85 ลบ.ต่อปีเป็น 695 ลบ. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรในปี 56 -57   SPALI (ซื้อ ปิด 18.7,พื้นฐาน 21.0 +12.29% ) ราคาใกล้เต็มมูลค่า > คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มมูลค่าปัจจัยพื้นฐานเป็น 21.0 จาก 19.0 บาท จากการเลื่อนปีฐานในการคำนวณราคาเป้าหมายของ SPALI เป็นสิ้นปี 2556 รวมถึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น 1-2% ในปี 2555-57 สะท้อนการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นใน 2H55 ทั้งนี้การ ที่ราคาหุ้น SPALI ปรับตัวขึ้น 30% YTD (SET +24% YTD) ทำให้ราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่ใกล้กับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะมีอัตราผลตอบแทนรวมสูงกว่า 14% ประกอบกับมีศักยภาพการทำกำไรดีและมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำในปี 2555-56 > ยอด presales ใน 8M55 เพิ่มขึ้น 27% YoY เป็น 1.15 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย presales จากโครงการแนวราบ 4.0 พันล้านบาทและคอนโดมิเนียม 7.5 พันล้านบาท ขณะที่คิดเป็น 60% ของเป้าหมายทั้งปีของ SPALI ที่ 1.9 หมื่นล้านบาทและ 65% ของประมาณการของเราที่ 1.76 หมื่นล้าบาท ทั้งนี้ SPALI เปิดตัวโครงการใหม่รวม 8 โครงการใน 1H55 ขณะที่คอนโดมิเนียม flagship อย่าง Wellington (4.8 พันล้านบาท) ทำยอด presales 45% YTD > เปิดตัวอีก 11 โครงการ มูลค่า 1.14 หมื่นล้านบาทใน 2H55 ประกอบด้วยโครงการแนวราบ 7 โครงการและคอนโดมิเนียม 4 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดย SPALI มีแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมเพียงโครงการเดียวใน 3Q55 (ปลายเดือนก.ย.) คือ Supalai Vista @ Tiwanon (1.2 พันล้านบาท 652 ยูนิต) และอีก 2 โครงการใน 4Q55 (พ.ย.) คือ Supalai Elite Sathorn Suanplu (1.2 พันล้านบาท 180 ยูนิต) และ Supalai Monte @ Viang Chianmai (1.35 พันล้านบาท 732 ยูนิต) สรุปแล้ว SPALI มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม 14 โครงการ (1.7-1.8 หมื่นล้านบาท) เป็น 19 โครงการ (2.2 หมื่นล้านบาท) > เพิ่มสัดส่วนโครงการในต่างจังหวัด SPALI คาดว่าสัดส่วนโครงการในต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นจาก 15-16% ใน 1H55 เป็น 22% ภายในสิ้นปี 2555 แต่บริษัทมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 25-30% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดโดยรวม ปัจจุบัน SPALI มีโครงการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีโครงการของบริษัทลูกที่จังหวัดขอนแก่นและหาดใหญ่ ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ SPALI จะขยายธุรกิจไปยังจังหวัดชลบุรี สุราษฏร์ธานี รวมถึงมีความเป็นไปได้สูงที่อุดรธานี โดยเน้นตอบสนองความต้องการที่แท้จริงในพื้นที่ > ความชัดเจนของรายได้สูง SPALI มียอด backlog รวม 2.78 หมื่นล้านบาท ณ สิ้น2Q55 แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 3 พันล้านบาทและส่วนที่เหลือมากจากคอนโดมิเนียม เท่ากับว่าบริษัทประกันรายได้แล้ว 70%, 38% และ 47% ในปี 2555-57 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การ ที่พอร์ตของ SPALI มีสัดส่วนโครงการคอนโดมิเนียมไฮ-ไรซ์เพิ่มขึ้น ทำให้เรามองว่ายอดbacklog ที่อ่อนตัวในปี 2556 อาจทำให้ผลประกอบการของบริษัทจำต้องพึ่งพิงยอด presalesจากโครงการแนวราบมากขึ้นในปีหน้าเพื่อทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ในระดับที่คาดหวัง   ข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด   ข่าวบริษัท BANPU (ถือ ปิด 442 พื้นฐาน 420 -5.0%) ศาลแพ่งพิพากษาให้ BANPU ชดใช้ค่าเสียหาย 4 พันลบ. รวมถึงค่าขาดประโยชน์ แก่ศิวะ งานทวี และพวก > คงคำแนะถือ เรายังไม่เห็นปัจจัยที่จะเข้าลงทุนใน BANPU ในระยะนี้ และ ชอบ PTTGC และ PTT มากกว่า โดยกรณีศาลแพ่งวานนี้ (20 ก.ย.) พิพากษาให้ BANPU ชดใช้ค่าเสียหาย ให้แก่ นายศิวะ งานทวี และพวกจำนวน 4 พันลบ. (14.7 บาท/หุ้น) รวมถึงค่าขาดประโยชน์เป็นเงินรายได้ปี 2558-2570 ปีละ 860 ลบ. (3.2 บาท/หุ้น) และปี 2571-2582 ปีละ 1,380 ลบ. (5.1บาท/หุ้น) ซึ่งเป็นผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อ BANPU อย่างไรก็ตาม BANPU ขอใช้สิทธิในการอุธรณ์ รวมถึงแจ้งว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่มีผลต่อการดำเนินโครงการไรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งดำเนินงานภายใต้บริษัท หงสาเพาเวอร์ เราประเมินคำตัดสินดังกล่าวเป็นปัจจัยลบต่อ BANPU แม้จะมีการยื่นอุธรณ์ รวมถึงแนวโน้มราคาถ่านหินยังอยู่ในระดับต่ำ จึงยังคงแนะนำเพียงถือ > ข้อกล่าวอ้าง ศิวะ งานทวี และพวก ยื่นฟ้อง BANPU และบริษัทย่อย และผู้บริหาร BANPU แจ้ง SET เรื่องคำพิพากษาคดีฟ้องร้องของนายศิวะ งานทวี และพวก เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง BANPU และบริษัทย่อย และผู้บริหารของบริษัท เป็นจำเลย โดยกล่าวอ้างว่า BANPU และบริษัทย่อย และผู้บริหารของบริษัท ทำการหลอกลวง โดยเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับนายศิวะและพวกเพื่อประสงค์จะได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน รวมถึงรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่เมืองหงสา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และได้ใช้สิทธิไม่สุจริตในการรายงานเท็จ ทำให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัมปทานเหมืองถ่านหิน และสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้าของนายศิวะกับพวก เพื่อที่บริษัทจะได้ทำสัญญากั BANPU และบริษัทย่อย และผู้บริหารของบริษัทบรัฐบาลลาวเอง โดยเรียกค่าเสียหาย 6.3 หมื่นลบ. > ศาลแพ่งพิพากษาให้ BANPU ชดใช้ค่าเสียหาย 4 พันลบ. รวมถึงค่าขาดประโยชน์รายปี วานนี้ (20 ก.ย.) ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ BANPU และบริษัทบ้านปูเพาเวอร์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าข้อมูลจำนวน 4 พันลบ. พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น รวมถึงค่าขาดประโยชน์เป็นเงินรายได้ปี 2558-2570 ปีละ 860 ลบ. และปี 2571-2582 ปีละ 1,380 ลบ.   (ประเด็นข่าวแจ้ง SET) SCB (ซื้อ ปิด 162.5 พื้นฐาน 189 +16.3%) สินเชื่อส.ค. +2.1% MoM สูงที่สุดในธนาคารใหญ่ > คงคำแนะซื้อ ราคาหุ้น SCB มี 55PBV 2.6 เท่า มี 55PE ต่ำที่ 13.8 เท่า และมีอัตราปันผลตอบแทนปี 2555 สูงถึง 2.5% SCB สมควรมี PBV และ PE สูงกว่าหมวด เนื่องจาก ROE และอัตราการเติบโตที่สูงกว่า > สินเชื่อ ส.ค. เพิ่มถึง +2.1% MoM สินเชื่อเพิ่ม +2.1% MoM ในเดือน ส.ค. ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก TISCO (+3.2% MoM) และสูงที่สุดในธนาคารใหญ่ สินเชื่อเพิ่ม +14.5%จากสิ้นปี 2554 ซึ่งใกล้เคียงคาดการณ์การเติบโตทั้งปีของเราที่ +15% แล้ว (เป้าธนาคาร +12-14%)   สรุปภาวะตลาด - DJIA ปิด 13,596.93 จุด +18.97 จุด (+0.14%) S&P500 ปิด 1,460.26 จุด -0.79 จุด (-0.05%) Nasdaq ปิด 3,175.96 จุด -6.66 จุด (-0.21%) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในช่วงเปิดตลาดก่อนที่จะลดช่วงลบกลับขึ้นมาในช่วงท้ายตลาด ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัวลง รวมถึงภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีนและยูโรโซน และยอดส่งออกของญี่ปุ่นที่ร่วงลงอย่างหนัก - NYMEX ส่งมอบ ต.ค. อยู่ที่ USD91.87/bbl -0.11(-0.1%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ ธ.ค. อยู่ที่ USD1,770.2/ounce -1.5(-0.1%) สัญญาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยสัญญาราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนและยุโรปที่อ่อนแอต่อเนื่อง   สรุปข่าวประจำวัน   ต่างประเทศ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ 382,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย.55 โดยลดลงจาก 385,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะอยู่ที่ 375,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา (รอยเตอร์) - Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐลดลง 0.1 % สู่ 95.7 ในเดือนส.ค.55 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.55 ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.55 (รอยเตอร์) - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติกหดตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนก.ย.55 แม้อัตราการหดตัวลดน้อยลงก็ตาม ทั้งนี้ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ -1.9 ในเดือนก.ย.55 จากระดับ -7.1ในเดือนส.ค.55 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจจะอยู่ที่ระดับ -4.0 ในเดือนก.ย.55 (รอยเตอร์) - Markit รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซิ้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ(เบื้องต้น) ของยูโรโซนเดือนก.ย.55 ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 จาก 46.3 ในเดือนส.ค.55 โดย ดัชนี PMI ภาคการผลิตขยับขึ้นแตะ 46.0 จาก 45.1 ในเดือนส.ค.55 แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งถือว่ากิจกรรมการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการอ่อนแรงลงที่ 46.0 ในเดือนก.ย.55 จาก 47.2 ในเดือนส.ค.55 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคบริการหดตัวรุนแรงขึ้น (อินโฟเควสท์) - HSBC รานงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (เบื้องต้น) ของจีนในเดือนก.ย.55 เพิ่มขึ้นแตะ 47.8 จากข้อมูลขั้นสุดท้ายที่ 47.6 ในเดือนส.ค.55 แต่ตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ นายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายจีนของ HSBC ระบุในแถลงการณ์ว่าการขยายตัวของภาคการผลิตจีนยังคงชะลอตัว แต่ในอัตราที่มีเสถียรภาพมากขึ้น กิจกรรมภาคการผลิตยังคงซบเซา จากกระแสลงทุนด้านธุรกิจใหม่ๆที่อ่อนแรง และกระบวนการปรับลดสต็อกที่ยาวนานกว่าที่คาด (อินโฟควสท์)   ข่าวบริษัท - AIT ลุ้นรับงานโครงข่าย3จีรายได้โต10% AIT ลุ้นได้งานวางระบบและอุปกรณ์โครงการ3G ที่จะเปิดประมูลในเร็วๆ นี้ ดันงานในมือสิ้นปีไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท หนุนรายได้ปีหน้าโต 10% จากปีนี้คาดทำได้ 4.8 พันล้านบาท อนาคตอยู่ระหว่างรอประมูลงานกว่า 9,200 ล้านบาท(ข่าวหุ้น) - VNT ลั่นรายได้ปีนี้โต10% ขานรับกำลังการผลิตใหม่-ลุยตั้งโรงงานในจีน \"วีนิไทย\" เผยรายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.4 หมื่นล้าน ขานรับการขยายการลงทุนที่ผ่านมาพร้อมควักเงินลงทุนก้อนใหญ่กว่า 7,200 ล้านบาท ตอกเสาเข็มตั้งโรงงานในจีน กำลังผลิต 1 แสนตันต่อปี กำหนดเสร็จครึ่งหลังปี 2557 และขายทั้งหมดในจีน (ข่าวหุ้น) - HFT ทุนญี่ปุ่นจ่อฮุบเพิ่ม การันตีกำไร-ปันผลเด่น HFT ดี๊ด๊า Sumitomo Rubber จ่อถือหุ้นเพิ่มบริษัทแม่ HFR หวังปักธงบุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ มั่นใจหนุนงบในอนาคตกระฉูด ชูกำไรสะสมเฉียด 500 ล้านบาท แถมกำไร Q3/2555 หรู ออเดอร์ล้นมือปั๊มกำลังผลิตพุ่ง 80- 90% กินรวบมาร์จิ้น 20% จาก 14.31% แย้มปี 2555 รายได้พุ่ง 20% ปันผลขั้นต่ำต้องเห็น 60% ของกำไรจากปีก่อนแค่ 30% (ทันหุ้น) - STPI ลุ้นสอยงานต่างชาติ เล็งขยายพอร์ตเกิน2.5หมื่นล. STPI บุกตลาดโครงการยักษ์ทั้งในและต่างประเทศ แย้มรอผลประมูลงานโรงแยกก๊าซประกาศออสเตรเลีย-ตะวันออกกลาง แย้มช่วงที่เหลือปี 2555 ลุยเข้าประมูลงานอีกหลายโครงการ หวังเพิ่มยอด Backlog จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนผลประกอบการครึ่งปีหลังมั่นใจเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก (ทันหุ้น) - TK ใส่เกียร์ลุยตลาดตปท.ต้นปี56 เงินเพียบ3พันล้านบ.-ปันผลสูงปรี๊ด TK ปักธงบุกตลาดตปท.ต้นปี 2556 นี้ ชูคอฐานเงินทุนแข็งแกร่งกว่า 3 พันล้านบาท แถมยังมีวงเงินกู้แบงก์ใหญ่อีกเพียบ ดี๊ด๊าครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1 เกิน 23-24% จับตาสินเชื่อทะลุเป้า 10% หรือ 8.5-9 พันล้านบาท แย้มครึ่งหลังแจกปันผลสูงปรี๊ด จากครึ่งแรกจ่ายปันผลเพียง 0.37 บาทต่อหุ้น (ทันหุ้น) - EASON จ่อฮุบบริษัทสีคุยพันธมิตรอินโด3ราย EASON รับคุยร่วมทุนบริษัทสีชั้นนำของอินโดนีเซีย 2-3 ราย คาดได้ข้อสรุปปลายปีนี้ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ต่างประเทศขยับ 50% ในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังออเดอร์โรงงานอินโดนีเซีย-เวียดนามโต มั่นใจปีนี้ผลงานเข้าเป้า 20% (ทันหุ้น) - VNG โค้ง3ไฮซีซันมั่นใจรายได้โต40% VNG ครึ่งหลังเด่น ไตรมาส 3/2555 เข้าไฮซีซันออเดอร์ทะลักรับการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ หนุนทั้งปีรายได้โต 30-40% จากปีก่อน ศึกษาแผนขยายโรงงานเพิ่มเครื่องจักรใหม่ ชดเชยเครื่องจักรเก่า รองรับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น (ทันหุ้น) - CITY เดินหน้าขยายฐานลูกค้าแย้มปันผลงบ54-55เกิน0.10บ. CITY ไม่ประมาท ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2555-56 เติบโตระดับ 5-10% หลังแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปยังชะลอตัวแต่ยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง คาดปี 2556 ฐานลูกค้าเพิ่มชิ้นแตะ 3,000 ราย เตรียม ประชุมบอร์ดและประกาศงบการเงินปี 2554-55 ช่วงสัปดาห์สุดท้ายเดือนกันยายน แย้มจ่ายปันผลสูงกว่า 0.10 บาทชัวร์ (ทันหุ้น) - IHL งบครึ่งหลังแจ่ม นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์จำกัด (มหาชน) หรือ IHL ผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 แนวโน้มรายได้และกำไรจะเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีแรกจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าในประเทศที่มีสัดส่วนอยู่ 70% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,101 ล้านบาทจากปีก่อนจากบริษัทชั้นนำ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ นิสสัน ฟอร์ด ซึ่งจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ปีนี้ทำให้บริษัทได้รับแรงอานิสงส์เพิ่มขึ้นตามด้วย (ทันหุ้น)   ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม - ยอดขายรถยนต์8เดือนพุ่ง 48.6% นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์เดือน ส.ค.55 มียอดรวม 129,509 คัน เพิ่มขึ้น 63.9% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 61,044 คัน เพิ่มขึ้น 71.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 68,465 คัน เพิ่มขึ้น 57.4% เป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่าย ทำให้สามารถส่งมอบรถได้เร็วขึ้น แต่ยังมีรถยนต์ยอดนิยมบางรุ่นที่มีจำนวนค้างส่งมอบค่อนข้างสูง (เดลินิวส์) - เตือนฝนยังตกต่อเนื่อง 22 ก.ย.รับมือมรสุม 1 ลูก ระวังฝนยังตกต่อเนื่องถึงวันที่ 22ก.ย. จากนั้นไปลุ้นพายุทะเลจีนใต้เข้า 25 ก.ย. ส่วน กทม. เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักรถติดทั่วกรุงอีกครั้ง น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.)หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) กล่าวว่า ฝนยังคงตกไปจนถึงวันที่ 22 ก.ย.นี้ แต่จะเบาบางลง และตกกระจายมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออก อ.อรัญประเทศ ศรีมหาโพธิ์คลองบางบาล ทำให้ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง (โพสต์ทูเดย์) - ประมูลใบอนุญาต3จี16ต.ค.ค่ายมือถือลั่น'ไม่ฮั้วไม่ล้ม' \"กสทช.\" จัดงานนับถอยหลังประมูล 3จี เหลือ 26 วัน เริ่มเคาะราคาประมูล 3 จี 16 ต.ค.นี้ ยันไม่มีล้มประมูลแน่ เพราะคนไทยต้องการ ฟากเอกชนร่วมลงสัตยาบันดันประมูลเกิด ยันทำทุกอย่างสุจริต-ไม่มีฮั้ว เผย 3 ค่ายมือถือส่งบริษัทลูก \"เอดับบลิวเอ็น-ดีไอเอ็น-เรียล ฟิวเจอร์\" ชิงไลเซ่นประมูล (กรุงเทพธุรกิจ)   กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook