รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง   สรุปภาพตลาด   มุมมองตลาด: ผลจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเฟดจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหากจำเป็นเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ส่งสัญญาณอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ (หลุดแนวรับ $82) ขณะที่ค่าเงินสกุลเอเชียรวมทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ในส่วนของราคาน้ำมันและทองคำฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน ภาวะตลาดโดยรวมดัชนีตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียกำลังทดสอบยอดเดิมเดือนเม.ย.ปี 2011 เรามาลุ้นกันว่าปลายสัปดาห์นี้ตลาดจะทะลุผ่านแนวต้านไปได้หรือไม่ แต่หากพิจารณาในมุมมองทางด้านเทคนิคดัชนีตลาดก็มีโอกาสทะลุผ่านไปได้ เนื่องจากกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าสินทรัพย์เช่น น้ำมัน ทองคำและค่าเงิน มีจุดที่น่าสนใจในเรื่องของสัญญาณ Break out แนวต้านสำคัญ (จุดกลับตัวเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่) ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญแข็งค่าขึ้นมาจากระดับ $31.9/บาท ล่าสุดอยู่ที่ $31.2/บาท อีกจุดที่เรามองคือการฟื้นตัวของราคาทองคำ รูปแบบในอดีตช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาพบว่าสัญญาณการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการฟื้นตัวของตลาดหุ้น   แนวทางการลงทุน: แนวรับดัชนีตลาดขยับขึ้นเป็น 1225-1230 ตามสัญญาณเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นที่ปรับขึ้น ส่วนแนวต้าน 1250 หากทะลุขึ้นไปได้และมีวอลุ่มสูงขึ้นตามไปด้วยนั้นจะส่งผลให้แนวโน้มระยะกลางเปลี่ยนเป็นขึ้น โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1280 จุด มุมมองเราคาดตลาดในภูมิภาคจะเริ่มมีทิศทางปรับขึ้นลักษณะ Sideway up ต่อเนื่องจนถึงกลางสัปดาห์หน้า แนะนำซื้อ ADVANC BIGC KK KGI PTTGC และ GLOW   ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   ยอดซื้อบ้านใหม่สหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดในเดือนก.ค ยอดซื้อบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนก.คซึ่งมากกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ผู้ซื้อบ้านใช้โอกาสที่ราคาอสังหาฯตก และอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านต่ำมากในประวัติการณ์สหรัฐเพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนแทนการฝากเงินในธนาคารหรือการลงทุนในพันธบัตร นักวิเคราะห์ประเมินว่าตัวเลขการฟื้นตัวของบ้านใหม่น่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (Bloomberg)   จับตาประมูลข้าว 7.5 แสนตัน ผู้ส่งออกหวั่นรัฐขาดทุนอ่วมเหตุต้นทุนจำนำสูง นายสมพงษ์ กิติเรียงลาภา ประธานกรรมการบริษัทพงษ์ลาภ เปิดเผยว่าการเปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาล 753,000 ตัน ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เชื่อว่าราคาที่เอกชนส่วนใหญ่จะยื่นเสนอซื้อในส่วนข้าวขาว 5% จำนวน 210,000 ตัน จะได้ไม่ถึงตันละ 600 เหรียญ สหรัฐฯ ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ประเมินไว้ เพราะราคาส่งออกข้าวขาวปัจจุบันตันละ 560 เหรียญฯ เมื่อทอนกลับเป็นราคาข้าวสารอยู่ที่ตันละ 16,500-17,000 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าต้นทุนที่รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท เมื่อสีแปรสภาพเป็นข้าวสารต้นทุนจะอยู่ที่ตันละ 23,000 บาท เชื่อว่ารัฐบาลจะขาดทุนอย่างต่ำตันละ 5,000 บาท (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   จ่อขึ้นดอกกู้บ้านแบงก์ปรับเพิ่ม 0.35-0.50% อ้างแย่งเงินฝากจนต้นทุนพุ่ง คนกู้บ้านปวดขมับแบงก์พาณิชย์เตรียมปรับดอกเบี้ยบ้านเพิ่ม 0.35-0.50% ต.ค.นี้ ชี้ต้นทุนการเงินพุ่งจนกำไรหด นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายในเดือน ต.ค.นี้ ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านในช่วงปีแรกของเงินขึ้นอีก 0.35-0.50% จากที่ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 3%เนื่องจากขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนใหญ่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขันระดมเงินฝากได้แล้ว (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)   ชาวนายิ้มรับบัตรเครดิตขยายสู่ชาวไร่ บัตรเครดิตถึงมือชาวนาแล้วกว่า 3 แสนใบ ใช้รูดซื้อสินค้ากว่า 200 ล้านบาท เล็งขยายไปยังชาวไร่-ชาวสวน นายอดุลย์ กาญจนวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้รายงานความคืบหน้าโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรหรือบัตรเครดิตชาวนา ให้ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารได้รับทราบว่า ขณะนี้ได้ส่งมอบบัตรเครดิตชาวนาให้สาขาของธนาคารทั่วประเทศแล้ว 8.24 แสนใบและถึงมือเกษตรกรแล้ว 3.17 แสนใบคาดว่าภายในสิ้นปีงบประมาณของ ธ.ก.ส.คือ วันที่ 31 มี.ค. 2556 จะสามารถแจกให้ชาวนาได้ครบ 2 ล้านใบ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)   ไร่มันเฮ!ทุ่ม 4.4 หมื่นล้านบาทเปิดรับจำนำ15ล้านตัน นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมการกำหนดมาตรการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2555/2556 โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมมีมติกำหนดปริมาณและราคาในการรับจำนำมันสำปะหลัง โดยกำหนดปริมาณรับจำนำทั้งหมด 15 ล้านตัน สำหรับสาเหตุที่ปรับลดปริมาณรับจำนำลงจากเดิม 250 ตันต่อราย เหลือ 200 ตันต่อราย เพราะคณะกรรมการเห็นว่าการรับจำนำมันสำปะหลังปีนี้ ส่วนใหญ่เกษตรกรนำมันเข้ารับจำนำน้อยกว่า 200 ตันต่อราย การปรับลดปริมาณรับจำนำต่อรายลงจะทำให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   ขึ้นเบี้ยประกันเซ่นน้ำท่วม นายนาโอยูกิ ซาคากิ รองผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเบี้ยประกันภัยทรัพย์สิน ทั้ง อัคคีภัย บ้านที่อยู่อาศัย และโรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 30% สำหรับลูกค้าที่ต่อสัญญาซื้อประกันใหม่ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ทั่วประเทศ หลังจากเกิดปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทรีอินชัวเรอร์ในต่างประเทศ หรือ บริษัทรับประกันภัยต่อ ขึ้นเบี้ยประกันภัยกับบริษัท โดยเฉพาะประกันภัยน้ำท่วมทำให้บริษัทมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจึงได้ปรับเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน แต่ถ้าหากว่าในช่วงปีนี้ไม่เกิดน้ำท่วมเหมือนปี 54 เบี้ยประกันภัยจะปรับลดลงกว่านี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรีอินชัวเรอร์ในต่างประเทศ ถ้าหากลดลงบริษัทพร้อมปรับลดลงเช่นกัน (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   หุ้น: BH          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 98.00 คาดกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/55 และทั้งปี 2555-56 เช่นกัน กำไรสุทธิมีแนวโน้มอัพไซด์จากการขยายธุรกิจ (ทีความเป็นไปได้ที่ BH จะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มเติม) BH เป็นโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในภูมิภาค เนื่องจาก ROE อยู่ที่ 34.7% และ 13% ในปี 2555-56 ตามลำดับ เรายังคงแนะนำ ซื้อ   หุ้น: IVL          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 39.00 ประเด็นหลักจากประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ยืนยันมุมมองของเราต่อแนวโน้มผลประกอบการของ IVL และแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว คาดปริมาณขายและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของกำไรหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 IVL กำลังดำเนินโครงการลดต้นทุน ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรสุทธิในระยะกลางได้ บริษัทวางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือเพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: ADVANC Position: ซื้อ เป้าหมาย: 220/225 Stop loss< 212 Reason: เป็นหุ้นที่น่าจับตาเนื่องจากสัญญาณทะลุกรอบสามเหลี่ยมด้านบน สอดคล้องกับวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับการทำจุดสูงสุดใหม่   Security: BIGC Position: ซื้อ เป้าหมาย: 200/205 Stop loss< 189 Reason: ส่งสัญญาณดีดกลับหลังจากพักตัวสร้างฐานบริเวณ 180-185 แนวโน้มระยะสั้นส่งสัญญาณเชิงบวก จากการทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ขณะที่ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์   Security: KK Position: ซื้อ เป้าหมาย: 42/43 Stop loss< 39.75 Reason: ราคาหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญบริเวณ 40 ปัจจุบันราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น และเครื่องมือทางเทคนิคตัดขึ้นเป็นบวก   Security: KGI Position: ซื้อ เป้าหมาย: 2.3/2.4 Stop loss< 2.08 Reason: หุ้นเริ่มกลับมามีความน่าสนใจภายหลังจากการทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ   Security: PTTGC Position: ซื้อ เป้าหมาย: 67/68 Stop loss< 63.75 Reason: ลุ้นทะลุยอดเดิมบริเวณ 65.75 ยังคงมองการพักตัวบนรูปแบบขาขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 67-68   Security: GLOW Position: ซื้อ เป้าหมาย: 67/68 Stop loss< 62.5 Reason: ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่พร้อมกับการสร้างรูปแบบ Rounding bottom แนวโน้มปรับขึ้น โดยมองแนวต้านบริเวณ 67-68   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 24 ส.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook