ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง30.82จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) 30.82 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 13,172.76 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.32 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 1,413.49 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.41 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 3,073.67 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขาดดุการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. และสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด   ญี่ปุ่นและสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นเมื่อวานนี้ ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนก.ค.ทั้งสิ้น 5.174 แสนล้านเยน โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการหดตัวลงของยอดการส่งออก ท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลก อันเนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป   รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดการส่งออกเดือนก.ค.หดตัวลง 8.1% มาอยู่ที่ระดับ 5.3133 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการหดตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน โดยเฉพาะยอดส่งออกไปยังยุโรปและเอเชียที่หดตัวลงอย่างมาก ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 5.8307 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน   ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองอยู่ที่ระดับ 4.47 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 4.52 ล้านยูนิต   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมีข่าวว่าเยอรมนีอาจจะปฏิเสธคำร้องขอของกรีซในเรื่องการขยายระยะเวลาการรับเงินช่วยเหลือ   ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่ 0.365 ล้านยูนิต เพิ่มขึ้นจากระดับ 0.350 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.