ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคจีไอ

ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคจีไอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ซื้อขายแคบๆ รอคำตัดสินศาลฯ พรุ่งนี้   KGI ประเมินหุ้นไทยวันพฤหัสฯ ทรงตัวต่อ โดยแรงเก็งกำไรผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ดิน และเก็งกำไรเงินปันผลระหว่างกาลของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จะค้ำตลาดในวันนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ไม่น่าจะดีนัก หลังจากตลาดผิดหวังเล็กน้อยกับรายงานการประชุมเฟด (FOMC minutes) ที่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะออกมาตรการ QE3 อันที่จริงในรายงานดังกล่าวเปิดช่องให้ดำเนินมาตรการได้มากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาคาดหวังสูงเกินไปหน่อย ทั้งนี้เครื่องชี้โอกาสของ QE3 ในลำดับถัดไปได้แก่ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 3.75 แสนตำแหน่ง (ในสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 3.74 แสนตำแหน่ง) และในสัปดาห์หน้า ประธานเฟด เบน เบอร์นานกี จะแถลงภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีต่อสภาฯ ซึ่งต้องติดตามว่าเขาจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการซื้อสินทรัพย์หรือไม่   ในวันพรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำตัดสินกรณีร่างแก้ไขมาตรา 291 ขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่ ซึ่ง ณ ขณะนี้มุมมองของนักวิเคราะห์ในตลาดคล้ายคลึงกัน โดยมองกันว่าอาจไม่มีการยุบพรรคเพื่อไทย แต่อาจจะมีการสั่งยุติการแก้รัฐธรรมนูญโดยการมี สสร. และอาจให้กลับไปแก้ทีละมาตรา ซึ่งในกรณีดังกล่าวเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อ SET   กลยุทธ์: ระยะสั้นแนะให้ชะลอการซื้อขาย ก่อนหน้าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ พอร์ตต้องเล่นหุ้นมองกลุ่มสื่อสารน่าสนใจ เช่น INTUCH* (คาดหวังปันผล 2.2 บาทในเดือน ส.ค.) และ THCOM (กำไรฟื้นตัวในครึ่งหลัง) ส่วนหุ้นกลุ่มที่ดินและนิคมฯ นั้นแนะให้ถือพอร์ตเท่าที่มีไปก่อน ยังไม่เพิ่มพอร์ต เนื่องจากหากคำตัดสินของศาลออกมาผิดจากที่ตลาดคาดอาจเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นในประเทศได้   ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ   CAT เตรียมยื่นจดหมายเพื่อหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องการคืนคลื่น 1,800 กลับคืนให้กับกสทช.ภายหลังจาก True Move และ DPC คืนคลื่นดังกล่าวกลับมาให้ CAT หลังอายุสัญญาสัมปทานกำลังจะหมดลงในเดือนกย.ปี 2013 เบื้องต้นกสทช.วางแผนว่าเมื่อได้รับคลื่น1,800 กลับคืนจะใช้คลื่นดังกล่าวในการประมูล 4จี ในช่วงต้นปีหน้า แต่เราเชื่อหลังจากที่ CAT ออกมาต่อสู้เพื่อคงความเป็นเจ้าของคลื่นดังกล่าวอาจทำให้การคืนคลื่นยืดเยื้อและการประมูล 4จี ไม่ทันตามที่กสทช. ต้องการ หากการประมูล 4จี ยืดเยื้อไปจริงเรามองว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการเนื่องจากความต้องการบริการ 4จี ยังไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับ 3จี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังไม่ต้องลงทุนมากและต่อเนื่องหากไม่มี 4จี จึงมองว่าการคงการจ่ายเงินปันผลที่ 100% หากมีแค่การลงทุนใน 3จี มีความเป็นไปได้มาก เราเลือก           DTAC* เป็นหุ้นเด่นในปัจจุบันที่ราคาเป้าหมาย 100 บาท มาว่าราคาหุ้นยังขึ้นน้อยเมื่อเทียบกับ ADVANC   CPF* ลงทุน 450 ล้านบาท ซื้อเชสเตอร์ฟู้ดจากเครือซีพีบริษัทแม่ต่อยอดธุรกิจอาหาร (โพสต์ทูเดย์) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ CPF เข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำนวน799,997 หุ้น คิดเป็น 99.99% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วของเชสเตอร์ฟู้ด ในราคาหุ้นละ 562.50 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 449.99 ล้านบาท จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับ CPF การเข้าซื้อหุ้นเชสเตอร์ฟู้ดจะทำให้บริษัทได้ธุรกิจที่ต่อเนื่องจากธุรกิจของบริษัท อีกทั้งยังได้เครือข่ายร้านอาหารของ Chester มากกว่า 160 ร้าน ซึ่งจะเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่สำคัญช่องทางหนึ่ง ซึ่งบริษัทเล็งเห็นว่าช่องทางดังกล่าวยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ   บอร์ด TOT พิจารณาคำขอกลุ่ม SAMARTทำ 3G แบบ MVNO 3 ล้านเลขหมายวันนี้ (อินโฟเควสท์) นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที(TOT)กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้คณะกรรมการฯ  จะพิจารณาหลักเกณฑ์การขอทำบริการขายต่อบริการ (MVNO) ในโครงการ 3G ทีโอที ย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ โดยขณะนี้ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ในเครือ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) ผู้ทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอรายเดิมได้ยื่นร่างหลักเกณฑ์การใช้ความจุของปริมาณโครงข่าย(capacity) ประมาณ 40% หรือประมาณ 3 ล้านเลขหมาย จากจำนวนเลขหมายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย  ทั้งนี้ ในการติดตั้งสถานีฐาน 3G นั้น ยืนยันว่า ทีโอที จะมีสถานีฐานครบ 5,320 สถานีและพร้อมเปิดใช้งานครบทั้งหมดในเดือนต.ค. 2555 ขณะนี้มีสถานีฐานโดยรวมแล้วประมาณ 3,200 สถานี และสามารถให้บริการได้จริง 2,300 สถานี ซึ่งเป็นสถานีฐานของทีโอทีเองจำนวน 1,000 สถานีฐาน   กลุ่มทิสโก้กำไรไตรมาส 2 ขยายตัวดี 6.6% ตามสินเชื่อแต่ส่วนต่างดอกเบี้ยเหลือ 3% (โพสต์ทูเดย์) นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้เปิดเผยว่า บริษัท ทิสโก้ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (TISCO*) มีกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2555 ที่ 920 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อนจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 20% ตามการขยายตัวของสินเชื่อทุกประเภทแต่ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงเหลือ 3.1% จาก4.1% จากต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึง 34% เป็น 1,358 ล้านบาทจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจพาณิชย์ตามการขยายตัวของสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกันภัย และรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ส่งผลให้ครึ่งแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 1,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 23%ตามการขยายตัวของสินเชื่อทุกประเภท   KTC เน้นขยายสินเชื่อบุคคล, ร่วมมือ KTB-ออมสินรุกตลาดข้าราชการ-พนักงานรัฐวิสาหกิจ (อินโฟเควสท์) นางณัฐชนัญ เก่งลือชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานช่องทางจัดจำหน่าย บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า ในปี 2555 บริษัทตั้งเป้ายอดสมาชิกสินเชื่อบุคคลใหม่ปีนี้ที่ 1 แสนราย เพิ่มจากปีก่อน 9.7 หมื่นราย โดยในช่วงครึ่งปีแรกมียอดสมาชิกใหม่ที่ 4.5 หมื่นราย ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นเรื่องความร่วมมือในทุกด้านรวมถึงการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์ เพิ่มขึ้นอีก 60 คน มั่นใจว่าทั้งปีจะสามารรถขยายฐานลูกค้าได้ตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งบริษัทได้วางช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารกรุงไทย(KTB) ที่มีสาขาจำนวนมาก โดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ จากส่วนนี้เพิ่มจากสัดส่วน 28% เป็น 40% รวมถึงการใช้เครือข่ายผ่านธนาคารออมสิน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อย ขณะเดียวกัน KTB และธนาคารออมสินจะเป็นช่องทางขยายฐานลูกค้าไปยังข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่เงป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงเกิดหนี้ต่ำมาก และยังเป็นกลุ่มที่ได้รับการปรับฐานรายได้ขั้นต่ำเป็น 15,000 บาทต่อเดือน   โดย บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) ประจำวันที่ 12 ก.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook