จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์คลิปวีดีโอ พบหนอนแมลงวันปนเปื้อนในถุงถั่วลิสงเคลือบแป้งอบกรอบ รสโนริวาซาบิ ของแบรนด์หนึ่ง จนสร้างความตกใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ล่าสุดแบรนด์โก๋แก่ ออกมายืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะพบตัวอ่อนแมลงวันในผลิตภัณฑ์ เพราะขั้นตอนการผลิตมีการใช้ความร้อนมากถึง 150 องศาในการอบถั่ว ดังนั้น หนอนหรือตัวอ่อนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ พร้อมระบุหากเป็นหนอนแมลงวันที่มากับถุงจริง จากวันผลิตจนถึงวันเปิดซองต้องเป็นแมลงวันเต็มตัวไปแล้ว

แม้ว่าแบรนด์โก๋แก่จะเป็นขนมตระกูลถั่วที่อยู่คู่กับคนไทยมามากกว่า 30 ปี แต่การแชร์คลิปบนโลกโซเชียลมีเดียย่อมส่งผลกระทบต่อแบรนด์เสมอ แต่ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถั่วในไทย ที่โก๋แก่ครองตลาดมากเป็นอันดับ 1 ที่ราว 70 % ของทั้งหมดนั้น อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาทำลายความแข็งแกร่งของโก๋แก่ลงได้

อยากรู้ใช่ไหมว่า “โก๋แก่” ใหญ่แค่ไหน และรายได้-กำไรเท่าไหร่?

Sanook! Money ได้รวบรวมข้อมูลที่พอหาได้มาฝากกัน

บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด หรือ โก๋แก่ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2530 โดยมีนายชูเกียรติ รวยเจริญทรัพย์, นางจิรภรณ์ รวยเจริญทรัพย์ และนายจุมภฏ รวยเจริญทรัพย์ เป็นคณะกรรมการ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยแจ้งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยมีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้

ปี 2557 รายได้ 1,635 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท

ปี 2558 รายได้ 1,855 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท

ปี 2559 รายได้ 2,092 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท

ปี 2560 รายได้ 2,092 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท

จากผลประกอบการ 4 ปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าแม้รายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นทุกปี แต่กำไรไม่เพิ่มขึ้นเลย จึงสันนิษฐานได้ว่าธุรกิจโก๋แก่อาจมีการลงทุน เพราะล่าสุดแบรนด์โก๋แก่เตรียมแตกไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มนมอัลมอนด์ หลังจากที่เคยทำตลาดน้ำนมถั่วลิสงพร้อมดื่มไปแล้ว รวมถึงแครกเกอร์มันฝรั่งแบรนด์เนลี่ ส่วนในปีหน้าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ยูเอชทีเข้าทำตลาดเพิ่มเติม

ส่วนงบการตลาดคาดว่าจะใช้ราว 70-80 ล้านบาท โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการเพิ่มงบดิจิทัลมีเดียเป็น 40% จากเดิม 20% โดยเสนอผ่านรูปแบบไวรัลมาร์เก็ตติ้งเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งฐานผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัย 35-40 ปี โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2561 โตที่ 2,300 ล้านบาท

นอกจากนี้ แบรนด์โก๋แก่มีผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ในต่างประเทศถึง 17 ประเทศ พร้อมส่งออก 50 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 1 จนในจีนเรียกว่า “ต้าเกอ” ซึ่งแปลว่าพี่ใหญ่นั่นเอง

แม้ผลประกอบการแบรนด์โก๋แก่จะสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของธุรกิจแค่ไหน แต่สิ่งที่ต้องรักษาและพัฒนาต่อไปคือ "การสื่อสาร" ซึ่งกรณีที่แบรนด์โก๋แก่ออกมาชี้แจงถึงเรื่องหนอนแมลงวันนั้นถือว่าฉลาดและทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นการให้ความรู้ด้านกีฏวิทยา (สาขาเกี่ยวกับแมลง) ยังสร้างความเข้าใจให้ที่ดีให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

อัลบั้มภาพ ส่องรายได้ “โก๋แก่” ในวันโซเชียลกล่าวหาว่าเจอ "หนอนดิ้นในถั่ว" ภาพที่ 7 / 11

ส่องรายได้ “โก๋แก่” ในวันโซเชียลกล่าวหาว่าเจอ "หนอนดิ้นในถั่ว"