ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคจีไอ

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้          ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
 
ฟื้นตัวได้บ้างก่อนไซด์เวย์ต่อ
KGI คาด SET วันศุกร์ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนไซด์เวย์ต่อ ค่าเงินบาทน่าจะชะลอการอ่อนค่าลง หลังเมื่อวานนี้อ่อนไปชนเป้ารายเดือนที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI มองไว้ที่ 33.50-33.55/ดอลล่าร์ฯ แล้ว คาดแรงกดดันต่อฟันด์โฟลว์ไหลออกน่าจะลดลง ด้านปัจจัยภายนอกเมื่อคืน สหรัฐฯ รายงาน GDP ไตรมาส 2/2560 รอบสุดท้าย +3.1% QoQ เทียบรายปี สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย แต่ค่าเงินดอลลาร์ฯ กลับเริ่มเผชิญแรงขาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าค่าเงินดอลล่าร์ฯ รับรู้ปัจจัยบวกในสัปดาห์นี้ไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น i) โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. และ ii) พัฒนาการของแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐฯ ด้านปัจจัยภายใน สภาพัฒน์และ ก.คลัง ประสานเสียงเมื่อวานนี้เห็นด้วยกับประมาณการ GDP ใหม่ของ กนง. ที่มอง 3.8% ปีนี้ และสองหน่วยงานดังกล่าวเตรียมปรับเพิ่มประมาณการ (เป็นไปตามมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ KGI) ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ส.ค. ซึ่งน่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ MoM และจะเป็นเครื่องชี้การเร่งตัวขึ้นของ GDP ไทยในไตรมาส 3/2560 อีกด้วย
 
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
 
เก็งกำไร BCP*, CCET
- BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) 1) วานนี้ Breakout ผ่านแนวราคา 39.25 บาทได้ เริ่มเกิดสัญญาณซื้อต่อเนื่อง มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 41.5 บาท และถัดไปที่ 46 บาท แนวรับ 39.25 บาท (Stop loss 37.25 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นไม่แพงด้วย PE 2561 = 8.5 เท่า และปันผล 5.9% ต่อปี 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q60 เด่นจาก i) base GRM ที่สูง และ ii) ไม่มีขาดทุนสต๊อกน้ำมันเช่นในไตรมาสก่อนหน้า 4) ราคาหุ้น Laggard BCPG* โดยที่เป้าพื้นฐานหุ้น BCP* ที่ 43 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำหนดราคาเหมาะสม BCPG เพียง 13.1 บาท ในการประเมินด้วยวิธี Sum of the Parts แต่ล่าสุดวานนี้ BCPG* ปิดที่ 19.2 บาท
- CCET (เป้า Consensus 4.9 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น สามารถ Breakout ผ่านแนวราคา 3.44 บาทได้ มีโอกาสที่จะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 3.8 บาท และ 4.2 บาท ตามลำดับ แนวรับ 3.44 บาท (Stop loss 3.10 บาท) 2) เราประเมินหุ้น CCET Valuation น่าสนใจด้วย PE 2560 = 9.5 เท่า (Trailing PE 11 เท่า) และปันผลเฉลี่ย 3% ต่อปี ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H60 มีแนวโน้มที่กำไรจะเติบโต YoY และ HoH 3) คาดได้รับ Sentiment บวกจากแผนปฏิรูปภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลสหรัฐฯ (ลดภาษีจาก 35% เหลือ 20%) ซึ่ง CCET มีฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ
 
หุ้นในกระแส
กลุ่มเหล็ก (TMT, THE, INOX) 1) เราประเมิน 1 – 2 สัปดาห์นี้ ราคาเหล็กอ่อนตัวลงก่อนวันหยุดยาว วันชาติจีน 1 ต.ค. เป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมหุ้นกลุ่มเหล็ก เนื่องจาก 1) ประเมินว่าราคาเหล็กที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 2 – 3 บาท/กก. ในช่วง 3Q60 จะทำให้หุ้นกลุ่มเหล็กมีผลกำไรจากสต๊อกเหล็ก (ผลการดำเนินงาน Turnaround จาก 2Q60) 2) โรงงานเหล็กในจีน ประสบปัญหาการเข้าตรวจสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับ โรงงานปิโตรเคมี และโรงฟอกหนัง ที่ต้องปิดตัวลงหลายแห่งก่อนหน้านี้ ทำให้อุปทานเหล็กในตลาดโลกเริ่มตึงตัว 3) คาดโครงการลงทุนภาครัฐฯที่เริ่มลงงานฐานรากแล้ว + เศรษฐกิจในประเทศที่เติบโต (ที่ประชุม กนง ปรับเป้าหมาย GDP ปีนี้ขึ้นมาที่ 3.8%) + โครงการ EEC จะทำให้ดีมานด์เหล็กในประเทศเพิ่มขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” THE (แนวรับ 4.74 บาท / แนวต้าน 5.0 บาท และ 5.3 บาท /Stop loss 4.7 บาท), INOX (แนวรับ 1.73 บาท / แนวต้าน 1.80 บาท และ 2.0 บาท /Stop loss 1.70 บาท) … ล่าสุด นสพ กรุงเทพธุรกิจวันนี้ลงข่าว “กรมศุลฯ ตั้งทีมเข้มนำเข้าเหล็กสกัด เลี่ยงภาษี”
กลุ่มค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ (COM7*, JMART*) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ไต้หวัน ออกบทวิเคราะห์ Apple Insight ประเมินราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Supply chain ของ Apple ปรับตัวลงหลังนักลงทุนกังวลต่อดีมานด์ iPhone 8 ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากประเมินดีมานด์จะไปเพิ่มในส่วนของ iPhone X ที่กำลังจะสรุปตัวเลข Preorder ซึ่งคาดว่าจำนวน Preorder จะสูงถึง 40 – 50 ล้านเครื่อง ขณะเดียวกันเราประเมินสำหรับตลาดประเทศไทย จะแบ่ง Segment ชัดเจนระหว่างกลุ่มผู้บริโภคที่รอซื้อ iPhone X (เปรียบเหมือน Major change ของรถยนต์) มากกว่า iPhone 8 (เปรียบเหมือน Minor change ของรถยนต์) และกลุ่มผู้บริโภคที่รอโปรโมชั่นราคาถูกสำหรับ iPhone 6 และ iPhone 7 ที่ตกรุ่น (ค่ายมือถือพันธมิตรจะเป็นคน อุดหนุนงบการตลาดฯให้ COM7* และ JMART*) ดังนั้นจึงแนะนำ สะสม COM7* และ JMART* ที่คาดผลการดำเนินงานจะโตเด่นใน 2H60 … ล่าสุด นสพ โพสต์ทูเดย์ลงข่าว “เน็ตชายขอบเดือนละ 200 บ. กสทช.ลงนาม 8 สัญญา 1.2 หมื่นล้าน เร่งนำร่องพร้อมให้บริการ 3,920 หมู่บ้าน”
 
หุ้นมีข่าว
(+) BTS* ลุยพัฒนาบางกอกโดมเก่าจ่อดึงทุนจีน-แสนสิริร่วมลงทุน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บีทีเอส เล็งพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนที่ดิน 48 ตร.ว. ในโครงการบางกอกโมเก่าตรง ข้ามแดนเนรมิต เล็งพัฒนา คอนโดฯ สำนักงาน โรงแรม รีเทล พร้อมดึงแสนสิริร่วมพัฒนาคอนโดฯ ขณะที่โรงแรมรีเทล จ่อดึงทุนจีนร่วมพัฒนา
(+ THE, INOX, TMT) 'กรมศุลฯ' ตั้งทีมเข้มนำเข้าเหล็กสกัด'เลี่ยงภาษี' (กรุงเทพธุรกิจ) อธิบดีกรมศุลฯเผย ตั้งทีมตรวจปล่อยสินค้าเหล็กเฉพาะ เน้นด่านศุลกากร ท่าเหลือแหลมฉบัง และท่าเรือกรุงเทพ หลังพบยังมีกระบวนการนำเข้าที่ผิดกฎหมายมาก ขณะอุตฯเหล็ก จี้รัฐแก้ไขกฎหมาย เพิ่มบทลงโทษตอบโต้การอุดหนุน-ตอบโต้หลบเลี่ยงภาษีทุ่มตลาด ป้องกันเหล็กจีนทะลัก
(0) 'มารุต' นั่งปธ.บอร์ดเนชั่น 'กวิน' ย้ำไม่คุมการบริหาร-ไม่ปลดพนักงาน (กรุงเทพธุรกิจ) มั่นใจเครือเนชั่นครอง ความเป็นผู้นำธุรกิจข่าว ตั้ง "มารุต อรรถไกวัลวที" ขึ้นเป็นประธานบอร์ดใหม่ มั่นใจเครือเนชั่นจะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจข่าว พร้อมใช้ประสบการณ์ ด้านการบริหารและโฆษณาผลักดันให้สื่อในเครือรุดหน้าในแพลตฟอร์มใหม่ๆ พร้อมช่องทางหารายได้ที่หลากหลายมากขึ้น 'กวิน กาญจนพาสน์' ปฏิเสธเข้าคุมกิจการ ปลดพนักงานเนชั่น ระบุแค่ส่งทีมงานนั่งบอร์ดให้ คำแนะนำ เชื่อธุรกิจสื่อโฆษณายอดขายดีขึ้น
(+ ITEL, COM7*, JMART*) เน็ตชายขอบเดือนละ 200 บ. กสทช.ลงนาม 8 สัญญา 1.2 หมื่นล้าน เร่งนำร่องพร้อมให้บริการ 3,920 หมู่บ้าน (โพสต์ทูเดย์) กสทช.เคาะอัตราอินเทอร์เน็ตชายขอบไม่เกิน 200 บาท/เดือน เร่งเปิดใช้ภายในสิ้นปีนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช.ได้อนุมัติโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน พร้อมดำเนินการจ้างบริการ เพื่อให้เปิดใช้งานได้ตามเป้าหมายภายในปีนี้
(+) SUPER* ลั่นสิ้นปีนี้ COD พุ่ง 770 MW หั่นเป้ารายได้ขายไฟฟ้าเหลือ 6.2 พันล้าน (ข่าวหุ้น) SUPER* ลุ้น ก.ล.ต. อนุมัติไฟลิ่งจัดตั้งอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ มูลค่า 9,000-10,000 ล้านบาทภายในปีนี้ เดินหน้า COD เพิ่ม มั่นใจสิ้นปีนี้แตะ 770 MW หั่นเป้ารายได้การขายไฟฟ้าเหลือ 6,000-6,200 ล้านบาท เหตุราคาค่าไฟฟ้าในจีนลดลง
(+) DEMCO มือขึ้น ตุน 4,045 ล้านลุยยื่นประมูล (ไทยโพสต์) นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เด็มโก้ (DEMCO) เปิดเผยว่า บริษัท เด็มโก้เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ผลิตเสาโครงเหล็กสำหรับสายส่งระบบ 500 kV โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นเสาโครงเหล็กชุบสังกะสี สำหรับ สายส่งไฟฟ้าแรงสูงระดับแรงดัน 500 kV ที่สูงสุดของ กฟผ. ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของผู้ผลิตในประเทศไทย
 
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
PRM (เป้า Consensus 10.2 บาท) ประเมินแนวรับ 10.7 บาท แนวต้านแรก 11.2 บาท หาก Breakout ผ่านได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 11.7 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) แนวรับ 34.25 บาท แนวต้าน 36.25 บาท และถัดไปที่ 39 บาท (Stop loss 33 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้าน 16.5 บาท กำหนด Trailing Stop 15.5 บาท
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) ประเมิน แนวรับ 13.0 บาท แนะนำ “สะสม” แนวรับ / แนวต้าน 13.7 บาท และถัดไปที่ 14.6 บาท
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) พิจารณาแนวราคา 4.12 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.4 บาท แต่หากยังไม่ผ่านแนวราคา 4.12 บาท แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว” แนวรับ 3.9 - 4.0 บาท
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) ประเมินกรอบ Channel Line 3.48 – 3.76 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และหากทะลุผ่านกรอบแนวต้าน 3.76 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 4.0 บาท (Stop loss 3.30 บาท)
 
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TCAP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 54.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินยอดสินเชื่อเช่าซื้อฟื้นตัว +4% YTD และคาด Momentum จะต่อเนื่องจนถึงปี 2561 ขณะเดียวกันฝ่ายวิจัยฯประเมิน ROE สูงเกือบ 12% สูงกว่า ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 10% จึงประเมินว่ามีโอกาสที่ TCAP* จะเทรดในระดับ PE และ PBV ที่พรีเมียมกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตได้ โดยเป้าหมายที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินใช้ PE 10 เท่า และ PBV 1.1. เท่า
 
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
Research@kgi.co.th
 
โดย บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) ประจำวันที่ 29 ก.ย. 2560