ก.พาณิชย์จัดสัมมนาค่าบาทลดกระทบส่งออก

กระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนาค่าเงินบาทแนะแนวทางผู้ประกอบการรายย่อย บริหารความเสี่ยงลดผลกระทบส่งออก เผยค่าเงินบาทไทยแข็งค่าตามภูมิภาค มั่นใจทั้งปีส่งออกยังขยายตัวได้ตามเป้า 5%

นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา "ค่าเงินบาทแข็ง เอสเอ็มอี แก้ได้อย่างไร" ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า เพื่อเป็นการเร่งหาแนวทางช่วยเหลือและประกันความเสี่ยงให้กับภาคเอสเอ็มอีของไทย หลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในขณะนี้ความผันผวนเริ่มลดลง แต่เพื่อให้ภาคเอสเอ็มอีของไทยหันมาทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้มากขึ้น จึงได้เชิญธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ ตลอดจนภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ มาให้ความรู้และเทคนิคการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านค่าเงินบาท ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารรายใหญ่พร้อมให้การสนับสนุนเอสเอ็มอี ที่ต้องการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งได้มีการออกผลิตภัณฑ์เฉพาะ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ให้เอสเอ็มอีได้เลือกใช้บริการตามความเหมาะสม

ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 33.93 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนั้นเชื่อว่า จะไม่กระทบต่อการส่งออกในภาพรวม เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนของไทยแข็งค่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาค และมีหลายประเทศมีอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่ากว่าประเทศไทย อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งในเรื่องของการส่งออกยานยนต์และน้ำมันปาล์ม ทำให้ มั่นใจว่าตัวเลขการส่งออกของไทยเฉลี่ยทั้งปีในปีนี้ จะยังขยายตัวได้ ร้อยละ 5 ตามเป้าหมาย ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ 

แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ผู้ส่งออกที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลักจะเสียความสามารถในการแข่งขันในเรื่องของการกำหนดราคาสินค้าที่อาจต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นจนเสียส่วนแบ่งตลาด

 

ธปท.มองค่าบาทครึ่งปีหลังผันผวนจากตปท.

น.ส.วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทของไทยตั้งแต่ช่วงต้นปี พบว่ามีการแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งเป็นการผันผวนในระดับกลาง และสอดคล้องกับภูมิภาค พร้อมมองครึ่งปีหลังค่าเงินบาทยังมีความผันผวน โดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศ อาทิ การดำเนินนโยบายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก การดำเนินนโยบายของ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ยังผันผวน ที่จะกระทบการส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังของไทย พร้อมแนะผู้ส่งออกโดยเฉพาะรายเล็กเร่งบริหารความเสี่ยง อาทิ การใช้เครื่องมือทางการเงิน หรือ การทำ Forward การใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชะระเงิน และการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ รวมทั้งการปรับโครงสร้างการผลิตมุ่งสู่เทคโนโลยี