กบง.คงราคาขายปลีกLPGมิย.20.49บ./กก.

กบง.คงราคาขายปลีกLPGมิย.20.49บ./กก.

กบง.คงราคาขายปลีกLPGมิย.20.49บ./กก.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติกบง.คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG มิ.ย. ที่ 20.49 บาทต่อกก. พร้อมติดตามสถานการณ์กาต้าร์ยันไม่กระทบระยะสั้น - หารือหลังแหล่งขุดเจาะปอโตรเลียมเอส 1 กำลังผลิตหายไป 40%

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติคงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนมิถุนายน 2560 ไว้ที่ 20.49 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน โดยที่ประชุมได้ปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันลง 5.27 สตางค์ต่อกิโลกรัม มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนนน้ำมันมีรายรับและรายจ่ายสุทธิเป็นศูนย์ โดยฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2560 อยู่ที่ 39,918 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีก๊าซ LPG ที่ 6,430 ล้านบาท และบัญชีน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 33,488 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ที่ประชุม กบง.ได้รับทราบสถานการณ์ตลาดโลกที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป โดยแสดงความเป็นห่วงต่อกรณีกลุ่มชาติอาหรับตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับการ์ต้าโดยในระยะสั้นหากไม่มี่เหตุบานปลาย เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกและราคาน้ำมันในประเทศ แต่หากมีการประกาศแซงชั่นเพิ่มเติม หรือเหตุบานปลายก็อาจมีผลต่อเนื่องระยะยาว โดยกบง.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังแกว่งตัวในกรอบแคบ บวกลบ 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคา LPG ไม่มีผลกระทบใดๆ 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้หารือถึงผลกระทบจากกรณีศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนการขุดเจาะปิโตรเลียม เอส 1 ของปตท.สผ. ซึ่งจะมีผลให้กำลังการผลิตแอลพีจีรอบเดือนมิถุนายน 2560 ลดหายไปร้อยละ  40  เหลือ 4,800-5,000 ตันต่อเดือน จากที่เคยผลิตได้ 8,500 ตันต่อเดือน โดยยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคแอลพีจีและราคาขายในประเทศ   

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการนำร่องการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอย่างเสรี (โซลาร์รูฟท็อป) ล่าสุดเชื่อมต่อเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าแล้ว 75 ราย กำลังการผลิต 3.09 เมกะวัตต์ เหลือที่ยังไม่ได้เชื่อมต่อเข้าระบบไฟฟ้าอีก 109 ราย กำลังการผลิต 2.58 เมกะวัตต์ หากสามารถเชื่อมต่อเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าได้ทั้งหมดจะมีผู้ได้รับอนุญาตเข้าโครงการรวม 184 ราย กำลังการผลิต 5.67 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดให้มีการเชื่อมต่อเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งระหว่างนี้เตรียมเปิดโครงการโซลาร์รูฟท็อปรอบใหม่ในช่วงไตรมาส 3-4 ต่อไปแต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook