BBL เพิ่มเป้าสินเชื่อบุคคลปีหน้าหวังได้ค่าฟีเพิ่ม20%

BBL เพิ่มเป้าสินเชื่อบุคคลปีหน้าหวังได้ค่าฟีเพิ่ม20%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

\"สำหรับแผนดำเนินงานของธนาคารช่วงปี 2553 นั้น ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าน่าจะสรุปอย่างเป็นทางการได้ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคในโครงการต่าง เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจน่าจะปรับตัวขึ้นและจะช่วยเพิ่มยอดการใช้จ่ายโดยประชาชนเพิ่มขึ้น ดังนั้น แผนงานธนาคารปีหน้าธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดสินเชื่อบุคคลมากขึ้นจากช่วงปีที่ผ่านมา แต่เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวยังไม่สมารถระบุได้ในขณะนี้ แต่ยืนยันว่าปีหน้าธนาคารจะเน้นสินเชื่อดังกล่าวแทนสินเชื่อเพื่อการลงทุนแน่นอน \" นายโฆสิต กล่าวนอกจากนี้ ธนาคารจะมุ่งเน้นการให้สินเชื่อเกษตรก้าวหน้าต่อเนื่อง เนื่องจากสินเชื่อดังกล่าวจะเป็นการช่วยให้เกษตรกรที่สามารถสร้างผลผลิต สร้างงานให้ชาวบ้านได้ โดยมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2553 ประมาณ 5,000 กว่าราย จากปัจจุบันที่ธนาคารปล่อยไปแล้วกว่า 3,000 ราย หรือคิดเป็นวงเงินกว่า 10,000 ล้านบาทจากวงเงินสะสมทั้งสิ้น 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท  ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสินเชื่อนี้ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3% โดยเชื่อว่าปี 2553 ธนาคารก็ยังคงคุม NPL ไม่ให้เกิน 3% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปล่อยสินเชื่อเกษตรก้าวหน้าให้กับกลุ่มเกษตรต่างๆจะมีส่วนช่วยเศรษฐกิจชาติได้ เพราะมีความสามารถส่งออกได้เช่นกันนายโฆสิต กล่าวต่ออีกว่า ภาวะเศรษฐกิจในปี 2553  คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่าช่วงปีนี้ แต่ไม่ใช่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการฟื้นตัวเป็นผลจากการกระตุ้นของรัฐบาล ที่ทำให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนสูงขึ้น แต่ไม่ใช่การเติบโตจากการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งการเติบโตจากการกระตุ้นของภาครัฐจะทำให้เกิดผลข้างเคียงทางเศรษฐกิจได้ หลายแบบ ดังนั้น จึงเห็นว่ารัฐบาลอาจจำเป็นต้องถอนการกระตุ้นเช่นเดียวกับหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย เกาหลี ที่รัฐบาลถอนการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปแล้ว\"การเติบโตของเศรษฐกิจโลกขณะนี้ไม่ได้มาจากสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งเกิดจากการบริโภคของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่จะเป็นการขับเคลื่อนจากวัตถุดิบ หรือทรัพยากร ซึ่งไทยทรัพยากรลดน้อยลงมาก ส่วนการเปิดเสรีอาเซียนถือเป็นโอกาสของทุกประเทศ ซึ่งธนาคารเตรียมการไว้แล้ว โดยเปิดสาขาใหม่ขึ้นในประเทศมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทยให้มีโอกาสแข่งขันได้\" นายโฆสิต กล่าว นายโฆสิต กล่าวอีกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีหน้า คาดว่าจะเติบโตถึง 3-4% ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายให้สินเชื่อขยายตัวเท่ากับจีดีพี โดยจะพึ่งพาสินเชื่อบุคคลมากขึ้น เนื่องจากสินเชื่อโครงการใหญ่ปล่อยได้ยากขึ้น ส่วนกรณีผลกระทบจากโครงการลงทุนในมาบตาพุดถูกระงับนั้น ธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อให้โครงการเหล่านั้นเช่นกัน โดยมียอดให้สินเชื่อรวมประมาณ 50,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้เบิกจ่ายไปเพียง 6,000 ล้านบาท จึงยังไม่ส่งผลกระทบใด ๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook