คลังหน้ามืดรีดภาษีเพิ่ม

คลังหน้ามืดรีดภาษีเพิ่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมสรรพากรได้กำหนดกรอบร่วมกับ กระทรวงการคลัง โดยตั้งเป้าขยายฐานการจัดเก็บภาษีของกรมเพิ่มไม่ต่ำกว่า 324,000 ราย ในปี 2553 ซึ่งเป็นการขยายฐานภาษีรายใหม่ หรือในกลุ่มที่ไม่เคยเสียภาษีมาก่อน และขยายการจัดเก็บภาษีในทุกกลุ่มทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างศึกษา โดยหาข้อมูลจากแหล่งร้องเรียนอื่นๆ เพื่อให้ขยายฐานภาษีได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นขณะนี้ มีแนวทางที่จะขยายฐานภาษีในกลุ่มธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือ E-Commerce ที่พบว่าการซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เนตในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมมาก หากมีการขยายฐานภาษีไปยังกลุ่มดังกล่าวก็คงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผู้ที่ต้องการขายจะต้องมีการบันทึกข้อมูลเพื่อขอไอเอสพี ที่อนุญาตให้มีการซื้อขายได้ ก็จะใช้ข้อมูลดังกล่าวติดตามจัดเก็บภาษีได้ ปัจจุบันฐานภาษีสรรพากร ในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ที่ประมาณ 9-10 ล้านราย ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ 4 แสนราย นอกจากนี้ ในส่วนของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่จะมีเม็ดเงินอัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจ ไปใช้ในโครงการลงทุนต่างๆ กว่า 1.43 ล้านล้านบาท ถือเป็นวงเงินที่จะได้รับผลตอบแทนกลับมา ก็ต้องไปดู ผู้รับเหมาได้งานในโครงการต่างๆ ให้มาเสียภาษีให้ถูกต้อง นายวินัยกล่าวว่า กรมยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้เข้มข้นขึ้น โดยในปี 2553 จะพัฒนาระบบไอทีเชื่อมโยงข้อมูลกับส่วนราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะทำให้ติดตามผู้มีรายได้เสียภาษีให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น ประสานงานกรมที่ดินติดตามการโอนซื้อขายที่ดิน เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขยายฐานภาษีครอบคลุมมากขึ้น และการกำกับดูแลผู้เสียภาษี ติดตามผู้ประกอบการต้นทางปลายทาง นอกจากนี้ จะต้องกำกับดูแลผู้เสียภาษีที่มีความเสี่ยง โดยมอบหมายให้สรรพากรพื้นที่ 121 พื้นที่ทั่วประเทศ วิเคราะห์ความเสี่ยงว่ากลุ่มไหนมีความเสี่ยงมาก โดยให้ทดสอบเริ่มต้นโดยการทดลองผู้เสียภาษีที่มีความเสี่ยง 3 ราย ดูว่าเสียภาษีได้ครบถ้วนหรือไม่ หากได้ผลสำเร็จ ก็จะเพิ่มจำนวนรายที่มีความเสี่ยงที่ต้องติดตามเพิ่มขึ้นอีก โดยในขั้นทดลองให้พื้นที่รายงานผล ให้ทราบในการประชุมครั้งต่อไป สำหรับความคืบหน้าการจัดเกรดสำนักงานบัญชี ที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้เสียภาษีกับกรม ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 4 หมื่นแห่ง อยู่ระหว่างคัดแยกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ดี ปกติ และกลุ่มที่มีความเสี่ยง โดยกลุ่มที่ดีมีความรับผิดชอบ ก็กำกับดูแลน้อยลง และไปเน้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น นายวินัยกล่าวว่า ยังมีส่วนที่กรมต้องติดตามใกล้ชิดคือกลุ่มผู้ทำลายระบบภาษี กรณีขอคืนภาษีเป็นเท็จ สร้างค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ กรณีออกใบกำกับภาษีปลอมแล้วไปขาย ก็เป็นงานที่ต้องติดตามอยู่ ขณะนี้ก็กำลังดำเนินคดีหลายรายด้วยกันส่วนภาษีคณะบุคคล ที่ผ่านมากลุ่มดารานักแสดง ก็ได้ติดต่อเข้ามาที่กรมมาก บางส่วนก็ให้กรมไปชี้แจง ก็มีความพอใจมาก เกิดความเข้าใจและคงไปปฏิบัติให้ถูกต้อง สำหรับการปรับโครงสร้างภาษี หรือจะมีการลดภาษีอีกหรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่จะสั่งให้ดำเนินการ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่า การลดภาษีนิติเงินได้บุคคล 1 % ทำให้ภาษีหายไป 1.5 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1% จะทำให้รายได้เพิ่ม 7 หมื่นล้านบาท ที่มา แนวหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook