บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 21/12/52

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 21/12/52

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 21/12/52 Market Recap and Trend: เริ่มต้นที่ 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี คาดหวัง Year End Window Dressing ในวันศุกร์ SET ทรงตัวทางลงโดยปิดลดลง 0.13 จุดที่ 715.68 จุดโดยเป็นทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคและ Dow Jones มูลค่าการซื้อขายเริ่มเบาบางลงจาก 1.7 หมื่นล้านบาทในต้นสัปดาห์ก่อนเหลือ 1.35 หมื่นล้านบาท ในวันนี้จะเริ่มเป็นวันแรกของ 2สัปดาห์สุดท้ายของปี 2552 จากการทำ Year End Window Dressing และกองทุน LTF &RMF จากนักลงทุนสถาบัน กลุ่มที่ควรถูกจับตามองมากเป็นพิเศษคือกลุ่มพลังงานและหุ้นพื้นฐานใหญ่ เช่นธนาคาร สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิ1.63 พันล้านบาทแต่เราเชื่อว่าจะเกิดแรงผลักดันด้านราคาหุ้นจากการทำ Window Dressing โดยกลุ่มที่มีแนวโน้มต่อตลาดในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์จากนี้คือ กลุ่มพลังงาน เชื่อว่าจะเกิดแรงซื้อกลับเข้าในกลุ่มจาก 2 สาเหตุคือ 1) ดัชนีกลุ่มพลังงานในเชิงเปรียบเทียบแล้วยังอยู่ในระดับต่ำ และ 2) อาจรับรู้แนวโน้มราคาน้ำมันโลกที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง (วันนี้ราคาน้ำมันดิบใน 3 ตลาด NYMEX, Brent, WTI ปรับตัวขึ้น) เราประเมินความเสี่ยงทางลงของ SET จะมีจำกัดและมองว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่ ประเมินกรอบดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ในช่วง 705-735 จุดInvestment Strategy: เน้นซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและบมจ.ที่คาดหวังผลประกอบการ 4Q52 จะเติบโต SET วันนี้มองว่าปลอดจากปัจจัยบวกและลบที่มีนัยสำคัญนอกจากการคาดการณ์จะเกิดแรงผลัก ดันราคาหุ้นในหุ้นใหญ่เนื่องจากเข้าใกล้สู่สิ้นปี ขณะที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดในระยะกลาง-ยาวและแนะนำนักลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 80% ของพอร์ต หาก SET ยังแสดงการอ่อนตัวเราถือว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้นใหญ่ต่อเนื่อง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ 4แห่งที่ยังคงแนะนำคือ SCB, KBANK, KK, และ TISCO เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเดือน พ.ย. 52 และผลประกอบการ 4Q52 มีแนวโน้มดีขึ้นจาก 3Q52 โดนคงน้ำหนักการลงทุนสูงกว่าตลาด ขณะที่ยังเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราจะทยอยสะสมโดยเฉพาะ PTTEP,TOP และปิโตรเคมีเช่น PTTAR ซึ่งแนวโน้มปี 53 จะเติบโตโด่ดเด่น กลุ่มที่ดินเช่น PS และกลุ่มยานยนต์แนะนำ ทยอยสะสม SAT, STANLY ตอบรับกับการฟื้นตัวของอุตสหกรรมTop Picks PTT PTTEP BANPU TOP PTTAR BBL KBANK SCB KTB TISCO DCC SCC LH QH AP PS SPALI KSL TUF CPALL KH AOT STANLY SAT TTAAUTO: เพิ่ม BEC เข้ามาในกลุ่มหุ้น Top Picksตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้น ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.20% เช่นเดียวกับดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.58% โดยการซื้อขายมีความผันผวน เนื่องจากเป็นวันครบกำหนดส่งมอบสัญญาล่วงหน้าและออปชั่นประจำเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่ทำการปรับโพสิชั่นหรือใช้สิทธิในตราสารอนุพันธ์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้นักลงทุนซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ต้องพากันเข้าซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซลดอลลาร์ด้วยการเทขายหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดเพิ่มขึ้น 0.71 ดอลลาร์ หรือ 0.98% เป็น 73.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อชดเชยก่อนที่สัญญาเดือนม.ค. จะครบกำหนดส่งมอบในวันจันทร์นี้ ขณะเดียวกัน อากาศหนาวเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐช่วยหนุนตลาดด้วย ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ช่วยหนุนดอลลาร์ ประกอบกับการให้คำยืนยันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการยุติโครงการปล่อยกู้ฉุกเฉินส่วนใหญ่ในเดือนก.พ.ปีหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทื่แข็งแกร่ง และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คึกคัก ก็ทำให้นักลงทุนบางส่วนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปี 2010 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์สกุล ดอลลาร์ ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดลดลง 118 จุด อยู่ที่ 3,258 จุด เริ่มกลับมาสต็อกวัตถุดิบตามฤดูกาล จะผลักดันให้ค่าระวางเรือมีทิศทางขาขึ้นอีกครั้งหนึ่งไปจนถึงปลายปีนี้               

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook