บล.กรุงศรีอยุธยา: รายงานภาวะหุ้น 24/12/52
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

    บล.กรุงศรีอยุธยา: รายงานภาวะหุ้น 24/12/52

    2009-12-23T10:01:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/12/52 Market Recap and Trend: การปรับสูงขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมัน และความคาดหวังต่อการลงทุนเขตมาบตาพุด จะเป็นปัจจัยหนุน SET ต่อเนื่อง             SET ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังนักลงทุนมีความคาดหวังต่อการแก้ไขปัญหามาบตาพุด โดยล่าสุดศาลฯ มีคำสั่งให้โครงการของเหล็กสยามยามาโตะ ในเครือSCC ออกจาก 65 โครงการที่ถูกระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราว เนื่องจากเป็นโครงการที่ได้รับอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญปี 50 มีผลบังคับใช้ โดย SET ปิดตลาดที่ 729.80 จุด ปรับสูงขึ้น 5.4 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลาง 14,090 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน 265 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มSET วันนี้ คาดว่าจะปรับสูงขึ้นต่อเนื่องตามการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันกว่า 3% และ ความคาดหวังว่าปัญหาการลงทุนในเขตมาบตาพุดจะได้รับการแก้ไขโดยเร็ว การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันกว่า 3% เมื่อคืนที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ นอกจากนี้ความคาดหวังต่อการแก้ไขปัญหาการลงทุนในเขตพื้นที่มาบตาพุด จะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และวัสดุก่อสร้างต่อเนื่อง ขณะที่เราคาดว่านักลงทุนต่างชาติ และสถาบันจะมีการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้จากเม็ดเงิน LTF และ RMF รวมไปถึงการทำ Window Dressing ช่วงปลายปี Investment Strategy: ถือหุ้นในสัดส่วน 80% ของพอร์ตต่อเนื่อง             เนื่องจากแรงกดดันจากปัญหาการลงทุนในเขตมาบตาพุดที่น้อยลง ประกอบกับเรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และ SET ในระยะกลาง-ยาว ต่อเนื่อง ทำให้เราแนะนำนักลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 80% ของพอร์ตต่อไป โดยคงเป้าหมาย SET อิงวิธี Bottom Upที่ 740-800 จุด ในอีก 12 เดือนข้างหน้า (อาจถึงเป้าหมายภายใน 1Q10 ก่อนที่จะมีการพักฐานรอบใหญ่) โดยเรามองว่ากลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มแข็งกว่าตลาดไม่พ้นหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่รับผลดีจากการเข้าซื้อของกองทุน LTF, RMF, และการทำ Window Dressing โดยเน้นการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, PTTAR, TOP) ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB,TISCO, KK) และอสังหาฯ (QH, AP, PS, LH) เป็นหลัก   Top Picks PTT PTTEP BANPU TOP PTTAR BBL KBANK SCB KTB TISCO DCC SCC LH QH AP PS SPALI KSL TUF CPALL AOT STANLY SAT TTA Futures Strategy: สถานะ LONG ได้เปรียบต่อเนื่อง โดยเลื่อนจุด TrailingS top มาที่ 511 จุด AUTO: เริ่มเห็นการเปลี่ยนกลุ่มหุ้นลงทุนมากขึ้นใน Auto Matrix   ตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก            ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้น ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.01% เช่นเดียวกับดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.23% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากบริษัทไมครอน เทคโนโลยี และบริษัทเรด แฮท ขณะเดียวกันยอดขายบ้านใหม่ลดลง 11.3% ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาดโดยรวม           ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดเพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 3.05% เป็น 76.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยได้รับแรงหนุนจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล สู่ 327.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค., สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ 161.3 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 900,000 บาร์เรล สู่ 216.3 ล้านบาร์เรล          ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร ดอลลาร์ร่วงลง หลังยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐร่วงลงเกินคาดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนในเดือน พ.ย. ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน ธ.ค. ทั้งนี้การซื้อขายเบาบางมากซึ่งอาจทำให้สกุลเงินปรับตัวเกินจริง และนักลงทุนชะลอการซื้อขายลงในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและสิ้นปี          ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดลดลง 40 จุด อยู่ที่ 3,023 จุด เริ่มกลับมาสต็อกวัตถุดิบตามฤดูกาล จะผลักดันให้ค่าระวางเรือมีทิศทางขาขึ้นอีกครั้งหนึ่งไปจนถึงปลายปีนี้