บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 25/12/52
บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/12/52 Market Recap and Trend: การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมัน และการเข้าซื้อของกองทุนในประเทศ จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับสูงขึ้นของ SET ต่อเนื่อง SET เคลื่อนไหวแคบๆ ในกรอบ 725-735 จุด และปิดตลาดปรับลดลง 0.36% ปิดตลาดที่ 727.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 12,011 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 65 ล้านบาท แม้ว่า SET จะอ่อนแอกว่าที่เราคาดไว้วานนี้ แต่เราคงมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET ในวันนี้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันมาอยู่ที่ US$78/บาร์เรล จะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีหุ้น Dow Jones ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง 0.51% ปิดตลาดที่จุดสูงสุดของปีนี้ หลังจากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้เราคาดว่าเงินจากกองทุน LTF และ RMF รวมไปถึงการทำ Window Dressing ที่เข้ามาซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี จะทำให้ Downside Risk ของตลาดค่อนข้างจำกัดInvestment Strategy: แนะนำถือหุ้นในสัดส่วน 80% ของพอร์ตต่อเนื่อง...ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มหลัก กลุ่มพลังงาน และธนาคารต่อเนื่อง แม้จะมีความเสี่ยงจากการพักฐานระยะสั้นบ้างหลังจาก SET ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เรามองการพักฐานจะเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากมีแรงซื้อหุ้นจากกองทุน LTF และ RMF เข้ามาหนุนตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ถ้าพิจารณาถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน เราคงแนะนำนักลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 80% ของพอร์ตต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการปรับขึ้นที่ 740-800 จุด...สำหรับกลุ่มหุ้นลงทุนยังเน้นการเข้าซื้อกลุ่มหุ้นหลัก อย่างกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, PTTAR,TOP) ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TISCO, KK – คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อต่อเนื่องในช่วงปลายปี ไปจนถึงปีหน้า) และอสังหาฯ (QH, AP, PS,LH) เป็นเหมือนเดิมTop Picks PTT PTTEP BANPU TOP PTTAR BBL KBANK SCB KTB TISCO DCC SCC LH QH AP PS SPALI KSL TUF CPALL AOT STANLY SAT TTAFutures Strategy: สถานะ LONG ได้เปรียบต่อเนื่อง โดยเลื่อนจุด Trailing Stop มาที่ 513 จุด AUTO: เพิ่ม HANA เข้ามาในกลุ่มหุ้น Top Picksตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้น ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.51% เช่นเดียวกับดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.53% โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลบ่งชี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2008 และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนไม่รวมการขนส่ง พุ่งขึ้นเกินคาด 2.0% ซึ่งแสดงว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังกระเตื้องขึ้น ทั้งนี้ ตลาดปิดทำการเร็วกว่าปกติก่อนวันหยุดคริสต์มาสในวันศุกร์นี้ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดเพิ่มขึ้น 1.38 ดอลลาร์ หรือ 1.80% เป็น 78.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในทางบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และปัจจัยนี้ก็ช่วยหนุนตลาดหุ้นให้ทะยานขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของดอลลาร์ และจากตัวเลขสต็อกน้ำมันที่ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร ดอลลาร์ร่วงลงต่อเนื่องจากวันพุธ หลังการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรจากการทะยานขึ้นของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของดอลลาร์ถูกจำกัด หลังรายงานบ่งชี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดลดลง 18 จุด อยู่ที่ 3,005 จุด เริ่มกลับมาสต็อกวัตถุดิบตามฤดูกาล จะผลักดันให้ค่าระวางเรือมีทิศทางขาขึ้นอีกครั้งหนึ่งไปจนถึงปลายปีนี้
