บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะหุ้น 25/12/52

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะหุ้น 25/12/52

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/12/52ฟื้นตัวได้จากข่าวดีในประเทศ วันนี้มีข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหามาบตาพุดหลังรัฐบาลออกมาพร้อมระบุว่ามี 5-6 โครงการมีโอกาสเดินหน้าต่อเพราะได้ใบอนุญาตก่อน รธน.ปี 5 นอกจากนี้ยังมีข่าวชาวบ้านมาบตาพุด 10 รายจาก 43 ราย ที่เคยยื่นเรื่องฟ้องจนเป็นเหตุให้ศาลปกครองสั่งระงับ 65 โครงการ กลับลำยื่นขอถอนฟ้องคดีต่อศาลปกครองศาลเพราะเชื่อว่าหากถอนฟ้องจะทำให้ชุมชนเจริญขึ้นและมีงานทำ หลังสภาวะเศรษฐกิจในชุมชนซบเซา เชื่อ SET จะปิดได้แถว 730-740 จุดในช่วงสิ้นปีนี้และสามารถปรับขึ้นต่อไปทดสอบระดับ 770-780 จุดได้ในช่วงกลางไตรมาส 1/53 ภาพตลาดวันนี้: นักลงทุนสถาบันยังคงซื้อต่อเนื่องช่วยหนุนให้ SET ไม่ให้ปรับตัวลงมาก แต่กลับ Short Futures มากขึ้น ในขณะแรงซื้อขายจากต่างชาติดูจะไม่ส่งผลกระทบมากนักเพราะปริมาณการซื้อขายของต่างชาติลดลงเนื่องเป็นช่วงวันหยุดคริสต์มาส คาด SET วันนี้จะฟื้นตัวเล็กน้อยด้วยปริมาณซื้อขายเบาบาง กลยุทธ์การลงทุน: เราแนะนำซื้อ PTTEP เนื่องจากเรามีมุมมองเป็นบวกกับราคาน้ำมันในอนาคตและแนะนำซื้อ TOP จากค่าการกลั่นที่กลับมาดีอีกครั้ง รวมถึงหุ้นที่หากมองในภาพใหญ่อาจมีโอกาสรับข่าวดีจากความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ได้แก่ PTTAR, PTTCH, PTT แ ละ SCC กรอบวันนี้ แนวรับ 720 แนวต้าน 733ปัจจัยวันนี้ ( + ) มาบตาพุด: นายกฯ คาดจะมีอีก 5-6 โครงการในมาบตาพุดสามารถดำเนินการต่อได้เนื่องจากโครงการดังกล่าวได้รับใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญปี 2550 ด้าน PTTAR เผยว่าโครงการของกลุ่ม PTT มี 3 โครงการที่ได้ EIA ก่อนรัฐธรรมนูญปี 2550 ประกอบไปด้วย โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 โครงการขยายท่าเทียบเรือ และโครงการผลิตสารเอทานอลเอมีน ล่าสุดการประชุมวานนี้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ ในเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลกระทบสุขภาพ (HIA) ตามที่ คณะกรรมการ 4 ฝ่ายเสนอ ( + ) ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมสูงสุดรอบ 43 เดือน: ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนพ.ย. 52 อยู่ที่ 104.7 ในขณะดัชนีคาดการณ์สามเดือนข้างหน้าอยู่ที่ 118.3 เพิ่มจากเดือนก่อนหน้าที่ 107.8 จุด ส่งสัญญาณบวกว่าผู้ประกอบการส่วนมากคาดว่ายอดขายรวม การผลิต และผลประกอบการในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้น ( + ) STEC: คาดเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญา 2 ได้ในวันที่ 29 ธ.ค. 52 นี้ โดยเรายังคงแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 7.8 บาท เนื่องจากบริษัทยังคงเป็นตัวเก็งในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่คาดว่าจะเริ่มประกวดราคาในช่วงต้นปี 2553 เช่นเดิมรวมถึง STEC มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งและมีภาระหนี้ต่ำเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น และมีโอกาสกลับมาจ่ายเงินปันผลได้อีกครั้งหลังงดจ่ายเงินปันผลติดต่อกัน 3 ปี เนื่องจากบริษัทล้างขาดทุนสะสมแล้วคาดจ่ายเงินปันผล 0.12 บาท/หุ้น ( + ) KSL: คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 20 บาท จากผลประกอบการที่คาดว่าจะเติบโตได้ดี 49% ในปีผลผลิต FY53 จากราคาน้ำตาลที่ยังคงเป็นขาขึ้น ประกอบการโรงงานใหม่เริ่มทำการผลิต ( - ) GSTEEL: บริษัทฯ รายงานว่าจะแจ้งความคืบหน้าในการหาพันธมิตรใหม่และเงินกู้แบงก์เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ได้ในวันที่ 31 มี.ค.53 จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถสรุปได้ทันในสิ้นปีนี้ คงคำแนะนำ”ขาย”               

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook