กบง.ตรึงLPGม.ค.59ที่22.29บาท/กก.

มติ กบง. ตรึง LPG ม.ค.59 ที่ 22.29 บาท/กก. พร้อมสั่งพิจารณาเกณฑ์กองทุนน้ำมันใหม่ให้เหมาะสม ล่าสุดฐานะอยู่ที่ 42,491 ลบ. เตรียมลอยตัวราคา NGV ก.พ.นี้ เพื่อสะท้อนต้นทุน 13.50 บาทต่อกิโลกรัม

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG ประจำเดือนมกราคม 2559 โดยมีมติให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ 22.29 บาทต่อกิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคมนี้ สวนทางสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก CP ที่ได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 363 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากเดือนก่อนที่อยู่ 466 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เนื่องจากได้มีการอุดหนุนราคาไปแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยจะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุน LPG 23 สตางค์ต่อกิโลกกรัม ทำให้ล่าสุดมีเม็ดเงินไหลออกจากกองทุน LPG เดือนละ 2 ล้านบาท จากการอุดหนุนค่าขนส่งเชื้อเพลิงไปคลังต่างจังหวัด แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่กระทบสถานะกองทุน LPG ซึ่งหากในเดือนกุมภาพันธ์ราคาในตลาดโลกได้ปรับลดลงอีก จะพิจารณาถึงความเหมาะสมอีกครั้ง 

ทั้งนี้ สถานะกองทุนเชื้อเพลิงล่าสุดเป็นบวกอยู่ที่ 42,491 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนน้ำมันอยู่ที่ 35,129 ล้านบาท และกองทุน LPG ที่ 7,362 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับสูตรคำนวณเกณฑ์ของกองทุนเชื้อเพลิงให้เกิดความเหมาะสม อยู่ในระดับที่สามารถรับมือความผันผวนของราคาเชื้อเพลิงได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณาแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ NGV โดยคาดว่าราคาก๊าซ NGV ในตลาดโลกจะสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ดังนั้นล่าสุดได้เร่งจัดทำแผนโรดแมป NGV ให้แล้วเสร็จในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อที่จะสามารถปล่อยลอยตัวราคา NGV ต่อไปได้ พร้อมยืนยันว่า การลอยตัวราคาครั้งนี้ จะส่งผลดีและไม่กระทบต่อประชาชน อีกทั้งมองว่าเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการรายอื่นจะมีโอกาสเข้ามาทำธุรกิจในตลาด จากเดิมที่เป็นการนำก๊าซจาก ปตท. ไปจำหน่ายต่อเท่านั้น จากนี้จึงจะมีรายได้จากค่าดำเนินการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะยังคงอุดหนุนราคา NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ค่าการตลาดของราคา NGV ที่เหมะสมควรอยู่ที่ระดับ 3.43 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.74 บาทต่อกิโลกรัม