วันนี้…คุณเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนกันแล้วหรือยัง?

จากตัวเลขสถิติของโรคที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทยในปัจจุบันนั้น ได้แก่ โรคมะเร็งและเนื้องอกทุกชนิด, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเกี่ยวกับตับ, โรคเกี่ยวกับปอด และโรคไต ซึ่งดูเหมือนว่าอัตราส่วนของการเสียชีวิตในคนอายุน้อยจากโรคดังกล่าวนั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี นั่นก็เป็นตัวชี้ชัดได้ว่า เราทุกคนมีความเสี่ยงที่จะมีโอกาสเป็นโรคร้ายต่างๆ ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็ตาม

 

ส่วนใหญ่แล้วคนอายุน้อยๆ มักมีความเข้าใจผิดกันว่า โรคร้ายมักจะเกิดกับคนสูงอายุเท่านั้น ยิ่งคนที่ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดี ก็มักจะไม่ค่อยกังวลในเรื่องของความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดโรคร้ายเท่าใดนัก แถมยังมองโรคเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัวอีกด้วย แต่หากมีโรคร้ายเกิดขึ้นกับคุณโดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัว ผลกระทบที่จะเห็นได้ชัดเลยนั่นก็คือในเรื่องของค่าใช้จ่ายอันมหาศาลที่จะตามมา ดังนั้นการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ 

โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายต่างๆ นั้น จะให้ความคุ้มครองเฉพาะปีที่ชำระเบี้ยเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับผลประโยชน์เมื่อป่วยในระยะท้ายๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาก็มักจะเป็นจำนวนเงินที่สูง แถมเบี้ยประกันโรคร้ายยังต้องเสียเปล่า ไม่มีสะสม หรือนำมาลดหย่อนภาษีได้ และเบี้ยประกันก็เพิ่มขึ้นตามอายุ ยิ่งอายุมากโอกาสป่วยก็สูงขึ้น ทำงานหารายได้ได้น้อยลง และหากป่วยเป็นโรคร้าย ต้องใช้เงินรักษามากซึ่งเป็นภาระอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องส่งเบี้ยต่อเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง

แต่ อลิอันซ์ อยุธยา เข้าใจถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนเหล่านี้ และพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ กับ “ประกันโรคร้ายได้คุ้ม” ที่จะมาช่วยคุณแบ่งเบาความกังวล และตอบโจทย์ความไม่แน่นอนของชีวิต ทำให้คุณสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจ ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากประกันโรคร้ายทั่วไป 

- เบี้ยประกันที่ไม่สูญเปล่า หากสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย อยู่ครบสัญญาก็ได้เงินเอาประกันภัย 100 %

- เข้าใจผู้บริโภคว่าเมื่ออายุมากขึ้นศักยภาพในการทำงานจะลดลง หารายได้ได้น้อยลง ค่าเบี้ยประกันไม่เป็นภาระ เพราะเบี้ยประกันคงที่ตลอด 20 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องถึงอายุ 85 ปี

- มีเงินรักษาตัวแต่เนิ่นๆ เพิ่มโอกาสในการรักษา เช่นตรวจพบมะเร็งระยะไม่ลุกลาม 

- เมื่อเคลมแล้วก็ไม่ต้องจ่ายเบี้ยต่อแต่ยังได้คุ้มครองต่อเนื่องถึงอายุ 85 ปี

- เบี้ยประกันส่วนคุ้มครองชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามกฎเกณฑ์ของสรรพากร

และหากโรคร้ายนั้นเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะมองมันเป็นวันสุดท้ายหรือทำให้เป็นวันแรก? ลองมาฟังเรื่องราวชีวิตจริงจากบุคคลที่เป็นโรคร้ายทั้ง 3 ท่าน ว่าตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบว่าเป็นโรคร้ายนั้น พวกเขารู้สึกอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร และอะไรคือจุดเปลี่ยนของพวกเขาที่ทำให้พวกเขายังสามารถลุกขึ้นสู้มาได้จนถึงทุกวันนี้ 

คุณจี๋ จิตรลดา ทรัพย์สุข ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในวัยเพียง 34 ปี

เคสแรกเป็นเรื่องราวของ คุณจี๋ จิตรลดา ทรัพย์สุข ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในวัยเพียง 34 ปี และผ่านการทำคีโม 8 ครั้ง รวมถึงฉายแสง 23 ครั้ง เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นล้านเนื่องจากไม่มีประกัน เพราะคิดว่าอายุยังน้อย ยังไม่น่าจะป่วยเป็นโรคร้ายแรง แต่สำหรับ “ประกันโรคร้ายได้คุ้ม” คุณสามารถคลายความกังวลในจุดนี้ไปได้  

คุณเล็ก อรุณี วัฒฐานะ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในวัยเพียง 31 ปี กับ ลูกสาว

เคสที่สอง เป็นเรื่องราวจาก คุณเล็ก อรุณี วัฒฐานะ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในวัยเพียง 31 ปี ที่เมื่อรู้ตัวว่าป่วยก็เครียดมาก แต่เมื่อนึกถึงคนข้างหลังก็ทำให้ท้อไม่ได้ และด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก คุณเล็กจึงเห็นว่าคงเป็นการดีหากมีคนมาช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่ง “ประกันโรคร้ายได้คุ้ม” ช่วยคุณลดภาระในจุดนี้ได้ เพราะหากตรวจพบมะเร็งระยะไม่ลุกลาม และเคลมส่วนแรกไปแล้ว ก็ไม่ต้องจ่ายเบี้ยอีก แต่ยังได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง

 

คุณสไปรท์ อานุภาพ สังขะทรัพย์ ผู้ป่วยโรคมะเร็งทรวงอกด้วยวัยเพียง 16 ปี

และสุดท้ายกับเรื่องราวจาก คุณสไปรท์ อานุภาพ สังขะทรัพย์ ผู้ป่วยโรคมะเร็งทรวงอกด้วยวัยเพียง 16 ปี ที่ไม่ยอมแพ้ และลุกขึ้นสู้กับโรคร้าย แต่ทางครอบครัวก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก จึงทำให้เล็งเห็นประโยชน์ของการทำประกัน แล้วคุณละ เตรียมพร้อมรับมือกับโรคร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้แล้วหรือยัง? ติดตามเรื่องราวการลุกขึ้นต่อสู้กับโรคร้ายของทั้ง 3 ท่านได้ที่ http://goo.gl/132Pqd

[Advertorial]