สศค.เผยศก.กย.ชะลอคาดGDPปี59โต3.8%

สศค.เผยศก.กย.ชะลอคาดGDPปี59โต3.8%

สศค.เผยศก.กย.ชะลอคาดGDPปี59โต3.8%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้อำนวยการ สศค. เผย เศรษฐกิจเดือนกันยายนชะลอตัวลงต่อเนื่อง ขณะส่งออกยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว หั่นเป้าจีดีพีปีนี้ เหลือร้อยละ 2.8 จากเดิมร้อยละ 3 คาด ปี 59 ขยายตัวร้อยละ 3.8 ลงทุนภาครัฐหนุน

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกันยายนและไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายนและไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 มีสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง การบริโภคการลงทุนชะตัวลงทุกรายการ สะท้อนได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ขยายตัวได้ร้อยละ 2.1 ต่อปี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างก็ชะลอตัวลง สะท้อนได้จากภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวติดลบร้อยละ 5.0 ต่อปี

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 61.2 จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่มีปัจจัยลบจากภาคการส่งออกที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลต่อความเสียหายแก่ผลผลิตสินค้าเกษตร ทำให้กำลังซื้อของประชาชนยังคงไม่ดีขึ้น ส่งผลให้ไตรมาสที่ 3 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 61.8


สศค.หั่นจีดีพีปีนี้เหลือร้อยละ 2.8

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า สศค. ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีนี้ 58 ลงเหลือร้อยละ 2.8 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 3 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ยังคงมีสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง ทั้งจากการใช้จ่ายภาคเอกชนผ่านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการส่งออกสินค้าของไทยไตรมาส 3 ที่ติดลบถึงร้อยละ 5.3 ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลักสำคัญยังหดตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และกลุ่มอาเซียน 5 ประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้การนำเข้าสินค้าทุกประเทศทั่วโลกยังหดตัว ดังนั้น จึงคาดว่าการส่งออกทั้งปีนี้จะขยายตัวติดลบร้อยละ 5.4


อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.8 โดยได้รับแรงส่งจากการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงการรัฐได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook