ครม.ปรับเพิ่มค่าครองชีพขรก.บำนาญอีก4%งบ3855ล.

ครม.ปรับเพิ่มค่าครองชีพขรก.บำนาญอีก4%งบ3855ล.

ครม.ปรับเพิ่มค่าครองชีพขรก.บำนาญอีก4%งบ3855ล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คณะรัฐมนตรี มีมติปรับเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ 4% ใช้งบ 3,855 ล้าน ครอบคลุมข้าราชการบำนาญ 5.3 แสนคน พร้อมแต่งตั้งโยกย้ายให้ 'นริศ' ไปนั่งรองปลัดคลัง ตั้ง 'จักรกฤศฏิ์' เป็นอธิบดีกรมธนารักษ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติในเรื่องการปรับเพิ่มเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ หรือ ชคบ. เพิ่มขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 4 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ซึ่งจะใช้งบกลางเพิ่มขึ้นประมาณ 3,855 ล้านบาท ทั้งนี้ ข้าราชการบำนาญจะได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นกว่า 533,328 คน ซึ่งการปรับขึ้นเงิน ชคบ. ในครั้งนี้นั้น ก็เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มขึ้นของเงินเดือนข้าราชการ และการปรับขึ้นเงินค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการระดับล่าง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติในการให้ความช่วยเหลือประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศมาเลเซีย ที่ได้รับผลจากปัญหาอุทกภัย โดยจะจัดส่งข้าวเพื่อช่วยเหลือในอัตราประเทศละ 500 ตัน


ครม.ให้"นริศ"นั่งรองปลัดคลัง-"จักรกฤศฏิ์"เป็นอธิบดีกรมธนารักษ์

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงการคลัง โดยให้ นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง และให้ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์แทน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติในการจัดตั้ง 5 คณะทำงาน เพื่อดูแลในกิจการ 5 ด้านที่สำคัญ ในการเร่งรัดพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิตอลตามแผนการพัฒนาดิจิตอลอีโคโนมีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมไปถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามแผนที่ได้มีการวางไว้ก่อนหน้านี้


มติ ครม.ควบรวมตลาด AFET และ TFEX  

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติในการอนุมัติการควบรวมตลาดซื้อขายเกษตรล่วงหน้า ควบรวมกับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ TFEX กับ AFET เข้าด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้กับภาคเอกชน และผู้เข้ามาลงทุนในตลาดดังกล่าว และเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกัน รวมไปถึงให้มีความสรุปในการดำเนินการทั้งสองสัญญา ซึ่งเป็นมติที่ได้มีการเสนอมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะทำให้นักลงทุนมีความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินการได้มากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้อนุมัติแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการน้ำเร่งด่วนใน 6 ด้าน ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ การแบ่งแยกระหว่างน้ำที่ใช้เพื่อภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม รวมไปถึงอุปโภคบริโภคให้มีความชัดเจนมากขึ้น ก่อนวางแผนในระยะยาวต่อไป




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook