ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคจีไอ

ขึ้นอีก ถือต่อไปก่อน   KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ปรับตัวขึ้น แต่จะไม่ผ่านแนวต้าน 930 จุด โดยแรงผลักขึ้นจะเกิดจากจิตวิทยาต่างประเทศที่เป็นบวก หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศว่าจะเพิ่มสภาพคล่องและหนุนฐานทุนของภาคธนาคารยุโรป โดยการเข้าซื้อพันธบัตรที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่เรียกว่า Covered bond มูลค่า 4 หมื่นล้านยูโร และข่าวนี้ช่วยหักล้างความผิดหวังเล็กๆ จากการที่ ECB ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 1.50% นอกจากนี้จิตวิทยาตลาดหุ้นยังมีแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือที่เรียกว่า QE อีก 7.5 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 1.16 แสนล้านเหรียญฯ ด้วย   สำหรับปัจจัยที่ควรติดตามในวันนี้ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า คือ i) ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6 หมื่นตำแหน่ง (ไม่เพิ่มเลยในเดือน ส.ค.) ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีจะช่วยคลายกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีก ii) ข่าวสารเรื่องมาตรการเพิ่มทุนให้ภาคธนาคารยุโรป ซึ่งพูดๆ กันมาตั้งแต่กลางสัปดาห์นี้ โดยจิตวิทยาลงทุนจะดีขึ้นอีกหากมีรายละเอียดของมาตรการมากกว่านี้ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่จะดึงให้ตลาดลงอีกครั้ง น่าจะเป็นปัญหาในกรีซ เช่นหากมีการเลื่อนการให้เงินช่วยเหลือกรีซออกไปอีก จากปัจจุบันที่ตลาดคาดไว้ในกลางเดือน พ.ย.   กลยุทธ์: พอร์ตเทรดดิ้งให้ถือเงินลงทุนระยะสั้นต่อไป คาดว่าต้นสัปดาห์นี้จิตวิทยาการลงทุนยังดีอยู่ ส่วนพอร์ตลงทุนเราขอติดตามสถานการณ์ในสัปดาห์หน้าก่อน ว่าความเสี่ยง/ผลตอบแทนเป็นอย่างไรสำหรับการเข้าซื้อเพื่อระยะไตรมาส 4/2554 แต่ในเชิงเปรียบเทียบแล้ว เราเชื่อว่าหุ้นกลุ่มสื่อสาร กลุ่มบ้าน และกลุ่มธนาคาร จะยังเป็นกลุ่มที่ปรับตัวได้ดีกว่า SET จนถึงปลายปีนี้   ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ   AGE เตรียมปิดดีลซื้อเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียอย่างน้อย 1 แห่งภายในปลายปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของเหมืองถ่านหินซึ่งเป็นผู้ขายถ่านหินจากอินโดนีเซียให้กับบริษัท เพื่อเพิ่มความแน่นอนในเรื่องของอุปทานถ่านหินและเพิ่มการเติบโตของผลกำไรในอนาคตให้กับบริษัท ทั้งนี้ การลงทุนในเหมืองถ่านหินนี้คาดจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500-900 ล้านบาทต่อเหมือง ที่มีปริมาณถ่านหินสำรองประมาณ 5-10 ล้านตัน หรือมีกำลังการผลิต 0.5-1 ล้านตันต่อปี ถ้าการเจรจาเป็นผลสำเร็จ บริษัทมีแผนที่จะรับรู้รายได้ในครึ่งแรกของปีหน้า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 2H11, เราคาดบริษัทจะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมที่อยุธยาในวงจำกัด เนื่องจากบริษัทสามารถใช้จุดขนถ่ายถ่านหินที่ชลบุรีและเพชรบุรีแทนได้ ปัจจัยดังกล่าว ช่วยผลักดันให้ผลประกอบการใน 2H11 ยังดีต่อเนื่อง และทำให้กำไรปี 2554 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 324 ล้านบาท ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.75 บาทต่อหุ้น   โดย บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) ประจำวันที่ 7 ต.ค.2554