ดัชนี ดาวโจนส์ร่วงลง 207 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.)ร่วงลง 207.00 จุด หรือ 1.74% ปิดที่ 11,706.62 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 25.14 จุด หรือ 2.00% ปิดที่ 1,229.05 จุด ดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 61.02 จุด หรือ 2.26% ปิดที่ 2,638.42 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ จะยังไม่สามารถสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานผลประกอบการที่อ่อนของบริษัท 3M และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปีครึ่ง ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ จะยังไม่สามารถสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะ หลังจากรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนได้ยกเลิกการประชุมในวันนี้ แม้กลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงเดินหน้าจัดการประชุมตามกำหนดการในวันนี้ ขณะที่ ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่าเยอรมนีได้ออกมาคัดค้านเนื้อหาบางอย่างที่ระบุอยู่ในแผนการแก้ไขวิกฤตหนี้ ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำอียูจะมีขึ้นในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 39.8 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2551 เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เปิดเผยว่า ราคาบ้านในเมืองขนาดใหญ่ 20 เมืองของสหรัฐ ร่วงลง 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอ่อนแอมาก นอกเหนือจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้และข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของบริษัท 3M ที่ระบุว่า กำไรสุทธิและรายได้ของบริษัทร่วงลงเกินคาดในไตรมาส 3 และบริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 เนื่องจากลูกค้าปรับลดสต็อกสินค้าอันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า อุปสงค์เครื่องใช้สำนักงานจะชะลอตัวลง นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.
