ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง18.05จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง18.05จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.)  ลดลง 18.05 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 17,634.74 จุด ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 0.49 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 2,039.82 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,688.54 จุด  ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นครั้งที่หกในรอบเจ็ดวันทำการที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการเข้าลงทุน หลังจากที่ตลาดเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และทำสถิติใหม่หลายครั้งในรอบสัปดาห์   สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.3% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งทั้งสองดัชนีต่างเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ ส่วน NASDAQ พุ่ง 1.2% โดยดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ห้าในวันศุกร์ และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2543   ภาวะการซื้อขายในวันศุกร์ค่อนข้างเงียบเหงา โดยถึงแม้ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมที่เป็นบวก แต่นักลงทุนลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้น หลังจากที่ดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา   ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้นมีอยู่หลายรายการด้วยกัน โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นับเป็นสัญญาณสดใสที่บ่งชี้ว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ในขณะที่สหรัฐกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายซื้อของเนื่องในเทศกาลวันหยุด   กระทรวงพาณิชย์รายงานในวันเดียวกันว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดขายของภาคธุรกิจแทบไม่เปลี่ยนแปลง   ขณะที่ผลสำรวจโดยทอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี   ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นแตะที่ระดับ 89.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 และสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด   ด้านกระทรวงแรงงานเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าของสหรัฐลดลง 1.3% ในเดือนต.ค. โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลง ขณะที่ราคาส่งออกลดลง 1.0%   ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นลงระหว่างแดนบวกและลบในระหว่างวัน และสามารถปิดปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้หลายครั้ง ขณะที่นักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการภาคเอกชน ควบคู่ไปกับการประเมินราคาหุ้น เพื่อใช้เป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจในการเข้าลงทุน   นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook