วิ่ง การออกกำลังกายที่คุ้มเหนื่อย เพราะให้อะไรมากกว่าที่คิด

วิ่ง การออกกำลังกายที่คุ้มเหนื่อย เพราะให้อะไรมากกว่าที่คิด

วิ่ง การออกกำลังกายที่คุ้มเหนื่อย เพราะให้อะไรมากกว่าที่คิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตั้งแต่พี่ตูนออกไปวิ่งระดมทุนรับเงินบริจาคเพื่อโรงพยาบาล สังเกตได้ว่ากระแสงานวิ่งการกุศล วิ่งเพื่อสุขภาพก็ฮิตขึ้นเรื่อยๆ ฮิตจนแทบจะมีงานวิ่งทุกอาทิตย์

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีมากๆ ที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพและการออกกำลังกายจนเป็นกระแสไปทั่วประเทศขนาดนี้

เราจึงอยากจะมาเล่าเกี่ยวกับการออกไปวิ่งที่ให้อะไรมากกว่าที่คิด รีวิวจากผู้ทำจริง

การวิ่งให้อะไรมากกว่าความเหนื่อย นั่นคือ จะไม่เหนื่อยอีกแล้ว
แน่นอนว่าระยะแรกๆ เราคงวิ่งได้แค่ครั้งละ 1 – 2 กิโลเมตร เท่านั้นก็หอบแฮก แต่เมื่อวิ่งไปหลายๆ ครั้งเข้า มันก็จะชินไปเอง จนสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นในแต่ละครั้ง และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างอื่นด้วย ให้ลองสังเกตถ้าเราไปวิ่งมาแล้ว เวลาเราเดินกลับบ้าน เดินจากที่ทำงานไปขึ้นรถ เดินขึ้น-ลงบันได หรือเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า หรือเดินหนักๆ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าก่อนที่จะวิ่ง

แต่หารู้ไม่ว่าการวิ่งก็ช่วยได้เหมือนกัน!

จากที่ไปวิ่งมา 20 กว่าวัน อยู่ในช่วงที่ร่างกายกำลังปรับให้เคยชินกับการออกกำลังกาย ประจำเดือนก็เช่นกัน ที่ลองสังเกตคือปวดท้องน้อยลงจริงๆ จากที่ต้องกินยาแก้ปวดไม่งั้นจะใช้ชีวิตไม่ได้เลย จนตอนนี้กลายเป็นปวดในระดับที่ทนได้ ไม่จำเป็นต้องกินยาแล้ว (และหวังว่าในอนาคตจะหายปวดจริงๆ นะ…) และจากบทความสุขภาพหลายๆ แห่งก็แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จะสามารถลดการปวดประจำเดือนได้ ถึงแม้จะไม่ได้ใช่ทางตรง แต่ก็ช่วยได้เช่นกัน

ใครอยากพิสูจน์แนะนำให้ลองไปวิ่งกันดูนะ ลองวิ่งสะสมไปเรื่อยๆ จะยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนเลย

ยิ่งวิ่งยิ่งกินน้ำ และกินอาหารเยอะขึ้น…
จากเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อยมากในหนึ่งวัน บางวันดื่มน้ำไม่หมดขวดเล็กด้วยซ้ำ แต่พอไปวิ่งเท่านั้นแหละ ด้วยความเหนื่อยก็คือวิ่งเสร็จ กระดกน้ำหมดขวดเดี๋ยวนั้นเลย

แต่อีกเรื่องที่ตามมาคือเราจำกินเยอะขึ้นมาก เพราะต้องเอาไปทดแทนสิ่งที่เบิร์นออกไป ซึ่งถ้ากินดีก็จะดีต่อสุขภาพ แต่ถ้ากินอะไรที่ไม่มีประโยชน์ ก็จะส่งผลเสียแทน อันนี้ก็ต้องระวัง

ที่ขาดไม่ได้คือการวิ่งบังคับให้เราตื่นเช้า
เป็นอีกคนที่เลือกไปวิ่งในสวนสาธารณะ หนึ่งคือได้สัมผัสบรรยากาศต้นไม้เยอะๆ สองก็คือจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าฟิตเนสนั่นเอง (แหะ)

และการวิ่งในสวนสาธารณะก็เป็นจุดที่บังคับให้ตื่นเช้าออกไปวิ่ง เพราะประเทศไทยสายหน่อยก็ร้อนจนตัวจะไหม้ วิ่งไม่ไหวแล้ว แถมสวนบางที่ก็ปิดตั้งแต่ 5-6 โมงเย็น ยังไม่ทันหายร้อนก็ปิดซะแล้ว วิ่งไม่ทัน

จากคนที่เคยตื่นสายๆ วันเสาร์อาทิตย์ก็ต้องตื่นเช้าไปโดยปริยาย ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเมืองที่เราอาศัยอยู่ ว่าวิถีชีวิตเค้าอยู่กันยังไง ร้านค้าไหนบ้างที่ตื่นเช้าขึ้นมาเตรียมของไว้ขาย หรือเสาร์อาทิตย์คนเค้าขับรถไปไหนกัน รถตรงนี้ติดรึเปล่า และอีกเยอะที่เราไม่เคยเห็น แถมมีเวลาทำอย่างอื่นเยอะขึ้นในแต่ละวัน และด้วยความตื่นเช้าก็จะทำให้เรานอนเร็วขึ้น

เริ่มหงุดหงิด และรู้สึกผิดถ้าไม่ได้ออกไปวิ่ง
ชีวิตคนทำงานจันทร์-ศุกร์ เวลาที่สามารถวิ่งตอนเช้าได้ก็มีแค่เสาร์-อาทิตย์ สองวันต่อสัปดาห์นี้ก็ถือว่าน้อยแล้วนะ ถ้ายิ่งอาทิตย์ไหนไม่ได้ไปวิ่งก็จะรู้สึกไม่ดี เหมือนทำผิดอะไรซักอย่างที่ไม่ได้ทำตามตารางชีวิตตัวเอง

เพราะฉะนั้นมันถือเป็นอีกแรงผลักดันให้เราต้องแหวกความง่วงตัวเองขึ้นไปวิ่งในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งก็คุ้มมากๆ อีกนั่นแหละ อากาศในสวนสาธารณะยามเช้า บรรยากาศที่เย็นสบายที่สุดในรอบวัน ได้รับออกซิเจนดีๆ จากต้นไม้

เรื่องรองเท้าก็สำคัญเช่นกัน ตอนเริ่มวิ่งอาจจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไรเพราะระยะทางไม่ไกล แต่พอเริ่มวิ่งได้เยอะขึ้น หากร้องเท้าไม่สามารถซัพพอร์ทเท้าเรามากพอ อาจเกิดอาการปวดไปจนถึงได้รับบาดเจ็บเรื้อรังจากการวิ่งเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องหารองเท้าที่เหมาะกับเท้าและสไตล์การวิ่งของตัวเองด้วย

การเริ่มวิ่งไม่ยากเลย ขอแค่ลุกจากเตียงให้ได้เท่านั้นแหละ (ฮ่าา) ระยะแรกก็เริ่มจากการออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้านก่อน ออกไปนั่งชมนกชมไม้ยามเช้า แล้วค่อยเริ่มวิ่ง ได้เท่าไรก็เท่านั้น 1-2 กิโลเมตรก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้วในช่วงแรก แล้วลองสังเกตตัวเองว่าเราจะเหนื่อยน้อยลง จนสามารถวิ่งได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายจะค่อยๆ ส่งผลเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก

38 วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือน , ปวดท้องประจำเดือน ออกกำลังกายช่วยได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook