ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองมากมายก็สามารถช่วยเหลือผู้คนได้
กอล์ฟฟี่ - ฤชวีพัฒน์ จิราวัฒน์มงคล แฮร์สไตลิสต์จิตอาสาที่ผู้คนในโลกออนไลน์พากันชื่นชมจากการแต่งหน้าศพและตัดผมให้ผู้ป่วยรวมถึงคนพิการโดยไม่คิด เงินแม้แต่บาทเดียว
กอล์ฟฟี่เกิดที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้อง 4 คน เขาเป็นพี่คนโต ฐานะทางบ้านไม่สู้ดี จึงต้องรับจ้างทำทุกอย่างที่ได้เงิน ทั้งตัดอ้อย ตัดกระถิน ซึ่งได้เงินเพียงวันละ 20 - 30 บาท แม่เป็นคนชอบทำบุญ และปลูกฝังเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงทำให้เขามีจิตใจโอบอ้อมอารีตั้งแต่เด็ก
เมื่อโตขึ้นพ่อส่งไปทำงานที่อู่ แต่เขาอยากเรียนหนังสือมาก แม่จึงพยายามหาเงินส่งให้เขาได้เรียนหนังสือ แต่เมื่อได้เรียนหนังสือแล้วเขากลับเป็นเด็กเกเร ย้ายที่เรียนบ่อยจนเรียนไม่จบ เมื่อแม่เริ่มไม่มีเงินส่งเรียน จนต้องกู้เงินนอกระบบ เงินที่หามาได้ต้องนำไปใช้ดอกเบี้ยจนหมด เขาจึงคิดได้ว่าต้องหยุดเกเรและหยุดผลาญเงินแม่
กอล์ฟฟี่ไปทำงานโรงงานไก่แช่แข็ง เป็นกรรมกรขนของขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ แต่เพราะเป็นคนชอบเรียนรู้ ชอบอ่านหนังสือ จึงซื้อหนังสือคอมพิวเตอร์มาอ่าน และบังเอิญผู้จัดการส่วนคลังสินค้าเดินมาเจอจึงรู้ว่าเขาใช้คอมพิวเตอร์เป็น ประจวบเหมาะกับเจ้านายต้องการเจ้าหน้าที่ส่วนวางแผนการจัดเก็บที่ต้องคีย์ ข้อมูล เขาจึงได้เลื่อนขั้นไปทำงานในออฟฟิศ
ช่วงปี พ.ศ. 2546 เกิดวิกฤติไข้หวัดนก โรงงานส่งออกไม่ได้ ขายในประเทศก็ไม่รอด เขาต้องเปลี่ยนงานหลายครั้งจนมาทำงานที่ฝ่ายต่างประเทศที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่นี่เขาได้พบรักกับแฟนและวางแผนจะแต่งงานกัน แต่เมื่อแฟนของ เขาเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯก็มีแฟนใหม่เป็นช่างทำผม
กอล์ฟฟี่โกรธมาก จนเกือบจะคิดสั้นด้วยการขับ รถพาแฟนไปด้วยกันและหักพวงมาลัยให้รถชนกับต้นไม้ข้างทาง แต่โชคดีที่นึกถึง แม่ขึ้นมาเสียก่อนปัญหาความรักทำให้เขาลาออกจากงาน กลายเป็นคนตกงานและซึม เศร้าคิดเพียงแค่ว่าต้องตามหาคนที่แย่งแฟนไปให้เจอ แต่ไม่รู้จะไปตามหาช่าง ทำผมคนนั้นได้ที่ไหน จึงตัดสินใจเรียนทำผมและเสริมสวยที่ศูนย์ฝึกอาชีพ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
หลังจากเรียนไปได้สักพักอาจารย์พาไปออกหน่วยฝึกวิชาชีพตามชุมชนมีผู้หญิงคน หนึ่งมาขอให้อาจารย์ส่งลูกศิษย์ไปตัดผมให้แม่ของเธอซึ่งไม่สบายลุกไปไหนไม่ได้ ในกลุ่มไม่มีใครกล้าไป เพราะแค่ตัดผมคนปกติก็ยังไม่ชำนาญจะให้มาตัดผม ผู้ป่วยยิ่งไปกันใหญ่ กอล์ฟฟี่จึงรับอาสาทำงานนี้เอง
เมื่อไปถึง ปรากฏว่าแม่ของเธอไม่ใช่แค่ป่วยแต่เป็นอัมพาต ลุกไม่ได้นั่งไม่ได้ต้องนอนตลอดเวลา แต่เขาก็เข้าไปดูแลผู้ป่วยด้วยความเต็มใจ แม้ว่า เขาจะตัดผมแหว่งทั้งศีรษะ ไม่รู้ว่าเป็นทรงอะไร แต่ก็ทำให้ผู้ป่วยร้องไห้ น้ำตาไหล เพราะตื้นตันใจที่มีคนมาดูแล มาให้กำลังใจ
กอล์ฟฟี่จึงคิดได้ว่าการทำบุญไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่ใช้วิชาความรู้ความ สามารถที่มีให้เป็นประโยชน์ได้ และถือว่าได้ฝึกตัวเองไปในตัว หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้นเขาเริ่มตระเวนตัดผมให้ผู้ป่วยและคนพิการ รวมถึงแต่ง หน้าศพมาจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 6 ปี
เขาเล่าว่า เมื่อเห็นศพบ่อย ๆ ตัดผมให้คนป่วยทุกวันจึงรู้สึกปลง ต่อให้เห็นคนหน้าตาดีเดินมา ภาพที่เห็นจะเป็นน้ำหนองน้ำเหลือง ทำให้เห็นสัจธรรม ว่าอย่าไปยึดติดกับรูปรส กลิ่น เสียง สัมผัส ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาททุกวันนี้เขาใช้ชีวิตอยู่เพื่อดูแลพ่อแม่และสังคมให้ดีที่สุด
เป้าหมายในอนาคตเขาอยากเก็บเงินสักก้อนเพื่อเปิดโรงเรียนสอนแต่งหน้าทำผมให้ แก่ผู้ยากไร้ฟรี และกำลังทำเรื่องขอเข้าไปสอนตัดผมให้ผู้ต้องหาในเรือนจำ
ทั้งนี้บุญกุศลทั้งหมดเขาต้องการถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ที่เขาเคารพเทิดทูน นั่นเอง